'ต่าย สายธาร' ยันไม่ยุติค้นหา เผยอุปสรรคอันตราย ปรับแผนตลอดเวลา
'ต่าย สายธาร' ยันไม่ยุติค้นหา เผยอุปสรรค ค่อนข้างอันตราย เนื่องจากมืดและน้ำเย็น จนท.เริ่มล้า เป็นตะคริวหลายคน ต้องปรับแผนตลอดเวลา
จากกรณี “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงษ์ ดารา-นักแสดงชื่อดัง พลัดตกจากเรือ กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ระหว่างล่องเรือกับเพื่อน ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมถึงนักประดาน้ำ ระดมลงพื้นที่ค้นหาร่างนักแสดงสาวตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 24 ก.พ. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าวันที่ 25 ก.พ. 65 หลังจากที่ ‘ต่าย สายธาร’ ได้ออกไปค้นหา ‘แตงโม นิดา’ เมื่อตอนเวลา 19.15 น. และได้กลับมาที่ท่าเรือพิบูลย์สงคราม1 เมื่อเวลา 21.15 โดยประมาณ ได้ให้ข้อมูลกับค้นหากับสื่อมวลชนว่า
ยืนยันหน่อยว่าจุดแรกที่ทีการแจ้งเบาะแสมา พบอะไรบ้างไหม
“ยังไม่เจออะไร ข้างล่างก็มีเศษไม้ ถามว่าหลายกระแสบอกว่าเจอตรงนั้นตรงนี้ ไม่ใช่นะคะ เพราะต่ายไลฟ์อยู่ ต่ายอยู่บนเรือ ถ้าดูจากไลฟ์ของต่าย จะเห็นว่าสถานการณ์จริงๆ มันเป็นยังไง ถ้าเห็นถ้าเจอ เราก็จะได้เจอพร้อมกันกับสื่อมวลชนทุกสำนักเลย”
การออกไปค้นหาครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“มีเจ้าหน้าที่เป็นตะคริว เนื่องจากน้ำมีความเย็น คนหนึ่งเป็นตะคริวที่ขา ก็ปฐมพยาบาลเบื้องต้นกันไป”
กระแสข่าวว่าตรงบริเวณวัดเขมา พบอะไรบางอย่าง
“ต่ายนั่งไลฟ์อยู่ตลอด ก็เลยไม่ทราบว่ามีกระแสตรงไหนบ้าง เราโฟกัสที่เจ้าหน้าที่ ไม่ได้อ่าน ไม่ได้ดูอะไรเลย ไลฟ์อย่างเดียว”
มีความหวังว่าจะเจอยังไงบ้าง
“ก็ยังมีความหวังว่าจะเจอ แต่ด้วยตอนนี้มันกลางคืน มันมืด มันเป็นอุปสรรค อีกอย่างน้ำเริ่มขึ้นแล้ว แต่ยังไงพวกเราก็ ส่งพลังกำลังใจมา ก็ขอให้เจอในวันนี้ เจ้าหน้าที่หลายท่านวันนี้ ลงกันไม่ได้พักเลย ก็ค่อนข้างที่จะเหนื่อยล้า แต่ก็มีทีมซัปพอร์ตอยู่แล้ว”
น้ำขึ้นเป็นอุปสรรคอย่างไรบ้าง
“มีผล โดยเฉพาะน้ำเย็น ก็จะทำให้เป็นตะคริว เป็นสองคนแล้ว แล้วถ้ากระแสน้ำแรง ก็ค่อนข้างอันตราย กลางคืนก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว มองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ใต้น้ำบ้าง”
ยืนยันว่าจะยังไม่ยุติการค้นหาใช่ไหม
“ยังไม่หยุดค่ะ ส่วนจะไปตรงไหน เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ คือแผนมันเปลี่ยนตลอดเวลา เปลี่ยนตามทิศทางลม เปลี่ยนตามกระแสน้ำ มันมีปัจจัยหลายอย่าง ที่ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราก็ไม่หยุดอย่างที่สื่อเห็น ไม่ได้พักไม่ได้หยุดกันเลย คุณลุงแถวนี้บอกว่าน้ำจะขึ้น 2-3 ทุ่มจนถึงพรุ่งนี้เช้า ต่ายก็คุยกับเจ้าหน้าที่ตรงๆ ด้วยประสบการณ์ก็น่าจะเจอนะ ยังไม่อยากใช้คำว่าขึ้น แต่กี่โมงเราไม่รู้ ในกรณีที่วันนี้ไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้ ต่ายเองก็จะอยู่จนกว่าจะเจอ
การค้นหายังค้นหาทั้งแบบผิวน้ำและใต้น้ำ แต่เขาจะดูตามหน้างานและสถานการณ์ ว่ายังพอจะลงไปได้ไหม และเจ้าหน้าที่ยังไหวไหม เพราะบางคนลง 4 รอบแล้ว และน้ำมันเย็น มันทำให้เกิดเป็นตะคริว ขึ้นเป็นลูกหนูเลย”