Cover Image by Nvdu from Pixabayมีดาราอยู่แค่ไม่กี่คนในโลกนี้ ที่ยังคงความเป็นไอคอนแม้จะลาลับไปแล้วหลายสิบปี ฉันยกให้ “มาริลีน มอนโร” เป็นหนึ่งในนั้นเพราะไม่ว่าจะคนรุ่นเก๋าจนถึงหนุ่มสาวเจเนอเรชั่นนี้ ต้องเคยเห็นภาพลมพัดสาวสวยผมบลอนด์เซ็กซี่จนกระโปรงเปิดมาแล้วทั้งสิ้นเราบางคนอาจจะเกิดไม่ทันดูหนังที่เธอแสดงสักเรื่องด้วยซ้ำ แต่กลับจำชื่อและใบหน้าเธอได้ตราตรึงมาริลีน มอนโร ในความทรงจำของฉันคือดาราเซ็กซี่ที่คลาสสิคที่สุดในโลก เธอคือไอคอนแห่งยุค 50 ทำให้เรือนผมสีบลอนด์ ปากแดง และดวงตาหรี่ปรือทรงเสน่ห์ กลายเป็น “สัญลักษณ์ทางเพศ” ในจินตนาการของผู้ชายทั้งโลกImage by skeeze from Pixabayมาริลีนถือกำเนิดมาด้วยชื่อ นอร์มา จีน มอร์เทนสัน ในปี 1926 ในครอบครัวที่แม่มีปัญหาทางจิตหนักหน่วง จนเธอต้องถูกส่งไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม ร่อนเร่ไปหลายครอบครัว และมีข่าวว่าเธอถูกล่วงละเมิดโดยพ่อบุญธรรมคนหนึ่งตอนอายุแค่ 11 ปีมาริลีนไม่อยากต้องระหกระเหินอีก จึงหนีชีวิตเด็กกำพร้าด้วยการตัดสินใจแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุแค่ 16 ปี แต่มันก็ล้มเหลวในช่วงเวลาอันสั้น แบบเดียวกับความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวตามมาอีกหลายครั้งชั่วชีวิตของเธอชีวิตที่ยากลำบากและอุปสรรคสารพัดไม่อาจบดบังความงามที่โดดเด่นของสาวสวยคนนี้ เธอเริ่มสะดุดตาผู้คนจากงานถ่ายแบบโฆษณา ล่วงเลยไปจนถึงถ่ายแบบปลุกใจเสือป่าในช่วงต้น ๆ ฉันเคยเห็นภาพตอนที่เธอเข้าวงการถ่ายแบบใหม่ ๆ สวยสดใสน่ารักมากจริง ๆความงามของเธอเริ่มเปล่งแสงในโลกเซลลูลอยด์ โดยเริ่มจากการเป็นตัวประกอบธรรมดา ค่อย ๆ ไต่เต้าไปเป็นตัวประกอบเซ็กซี่ จนมาโด่งดังชัดเจนที่สุดจากบทร้อนแรงในภาพยนตร์ Niagara Image by skeeze from Pixabayหลังจากนั้นเธอก็กลายเป็นดาราดังไปเลย มาริลีนมีผลงานภาพยนตร์รวมทั้งสิ้น 29 เรื่องที่ทำเงินรวม 200 ล้านดอลล่าร์ หนึ่งในนั้นคือ Gentlemen Prefer Blondes ที่ใคร ๆ คงจำฉากที่เธอร้องเพลง Diamonds Are A Girl's Best Friend ได้รวมถึง The Seven Year Itch (1955) ที่สร้างภาพกระโปรงเปิดอันเป็นอมตะตลอดกาลในโลกภาพยนตร์Image by joeroeder from Pixabayสวนทางกับความสำเร็จในอาชีพ ชีวิตรักของเธอกลับล้มเหลว ทั้งความสัมพันธ์กับนักเบสบอล โจ ดิแมกจิโอ และนักเขียนชื่อดัง อาร์เธอร์ มิลเลอร์ จนถึงความสัมพันธ์ลับ ๆ กับนักการเมืองอย่าง โรเบิร์ต และ จอห์น เอฟ เคนเนดี้มาริลีนมีปัญหาเรื่องสุขภาพและอารมณ์หนักขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องพึ่งยา ท่ามกลางชื่อเสียงอันโด่งดังและเงินทองที่หลั่งไหลเข้ามา เธอเสียชีวิตด้วยการกินยาเกินขนาดในปี 1962 ด้วยวัยแค่ 36 ปีฉันเป็นคนหนึ่งที่เกิดไม่ทันมาริลีน มอนโร แต่รู้จักเธอในภาพของไอคอนฮอลลีวู้ดมาโดยตลอด กว่าจะเริ่มอ่านเรื่องราวของเธอและแปลกใจที่พบว่ามาริลีนมีชีวิตส่วนตัวที่ทุกข์ทนเพียงใด และยิ่งแปลกใจเมื่อได้พบว่าสาวสวยคนนี้ไม่ใช่ “สาวบลอนด์สมองกลวง” เหมือนบทที่เธอได้รับเลยImage by skeeze from Pixabayเธอเป็นนักอ่านตัวยง มีห้องสมุดส่วนตัวที่มีหนังสือมากมาย รวมทั้งของเออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์ ดีเอช ลอว์เรนซ์ และ เจมส์ จอยซ์ เธอฉลาดและซับซ้อนมากกว่าที่เธอแสดงออกมาฉันรู้สึกว่ามาริลีนทั้งแข็งแกร่งและบอบบาง ทั้งหวาดหวั่นและหาญกล้า ทั้งสุขและเศร้า อื้อฉาวและไร้เดียงสา เธอเหมือนมีสองด้านอยู่ในตัวเองมรดกสำคัญที่เธอทิ้งไว้ให้โลก ไม่ใช่แค่ภาพเย้ายวน แต่คือคำพูดหลายประโยคที่คมกริบและยังสร้างแรงบันดาลใจ บ่งบอกว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรน่าค้นหาอย่างยิ่งImage by skeeze from Pixabay“ความไม่สมบูรณ์แบบคือความงาม ความวิกลจริตคืออัจฉริยภาพ เป็นคนน่าขันที่สุดก็ยังดีเสียกว่าเป็นคนน่าเบื่อที่สุด” “คุณไม่มีวันรู้ว่าชีวิตเป็นยังไง ถ้าคุณยังไม่เคยใช้มัน” “แค่ให้รองเท้าที่ใช่กับผู้หญิงสักคู่ เธอจะพิชิตโลกได้เลย” "ฉันเห็นแก่ตัว ไม่มีความอดทน บางครั้งก็ไม่มั่นคงทางอารมณ์ ฉันพลาด ฉันคุมไม่ได้ และเป็นคนรับมือยาก แต่ถ้าคุณเอาฉันไม่อยู่ตอนที่ฉันแย่ที่สุด ก็รู้ไว้เถอะว่าคุณไม่คู่ควรกับตอนที่ฉันดีที่สุด” "ความอยากที่จะเป็นคนอื่นคือการทิ้งความเป็นตัวเอง” "ผู้หญิงไม่ต้องการใครก็ตามที่ไม่ต้องการเธอ” “เราควรเริ่มใช้ชีวิตก่อนที่จะแก่เกินไป ความกลัวน่ะโง่เง่า การหวนเสียดายก็เช่นกัน “ผู้หญิงฉลาดจะจูบแต่ไม่รัก จะฟังแต่ไม่เชื่อ และจะทิ้งก่อนที่จะถูกทิ้ง” “ผู้หญิงทั่วไปรู้ข้อจำกัดตัวเอง แต่ผู้หญิงฉลาดรู้ว่าเธอไม่มีมัน” ได้อ่านทุกประโยคก็ยิ่งเสียดายที่เธอจากไปก่อนวัยอันควรแต่แม้ดวงดาวแสนงามอย่าง มาริลีน มอนโร จะอับแสงเร็วเกินไป ฉันว่าในยามที่เธออยู่บนฟ้า เธอก็โชนแสงยิ่งกว่าใครเหมือนกัน