Series ReviewAsura (2025) ทุกความสัมพันธ์มักมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังในงานที่เป็นดั่งหนังที่ยาวขึ้น (มาก) ของ "ฮิโรคาสึ โคเรเอดะ" กับความสงบนิ่งที่มีแรงกระเพื่อมข้างใน รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ถ้าเป็นคนที่ชอบและตามดูงานจากญี่ปุ่นไม่ว่าหนังหรือซีรีส์ไม่มีทางที่จะไม่รู้จักชื่อผู้กำกับคนนี้ฮิโรคาสึ โคเรเอดะชายผู้มีความละเมียดในการเลาเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องดราม่าครอบครัวที่เว้าแหว่งในมิติต่างๆ แน่นอนผู้เขียนก็ออกตัวมาตั้งนานแล้วว่าชอบดูคอนเทนต์ญี่ปุ่นไม่น้อยแล้วหนังของฮิโรคาสึ โคเรเอดะก็ผ่านตามาหลายเรื่องเนื่องเพราะผู้เขียนชอบอะไรในแบบที่หนังของเขามีคือดราม่าครอบครัวที่มักเป็นเรื่องง่ายๆสามัญเรียบง่ายที่สุดมาเล่าได้อย่างถึงอารมณ์ความรู้สึก จนเมื่อเขามากำกับงานซีรีส์ Original ของ NETFLIX ใน The Makanai: Cooking for the Maiko House (2023) ในฐานะผู้กำกับร่วมก็ทำให้ซีรีส์มีอารมณ์บางอย่างในแบบของเขาแม้จะไม่ชัดจนกลายเป็นลายเซ็น จนมาถึงซีรีส์เรื่องใหม่ที่ผู้เขียนเพิ่งมีเวลาดูทั้งที่ลงสตรีมมานานพอดูแต่เมื่อเริ่มแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องดูต่อกันยาวๆทั้งที่ยังเป็นความเรียบง่ายในแบบหนังโคเรเอดะ หรืออาจเรียกได้ว่านี่คือหนังเรื่องยาวมากกว่าซีรีส์ที่ถ้าดูจบแล้วคิดให้ดีแล้วร้อยเรียงอีกทีมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ครอบครัวทาเคซาวะมีลูกสาวสี่คนคนโตสึนาโกะ (ริเอะ มิยาซาวะ) ครูสอนจัดดอกไม้ที่ทำงานนี้มาตั้งแต่สามีของเธอเสียชีวิต คนรองมากิโกะ (มาจิโกะ โอโนะ) แม่บ้านเต็มเวลาที่มีลูกสาวและลูกชายอยู่ในช่วงวัยรุ่น คนที่สามทากิโกะ (ยู อาโออิ) ทํางานเป็นบรรณารักษ์ที่ชีวิตดูจืดชืดเรียบที่สุดและคนสุดท้องซากิโกะ (ซึสึ ฮิโรเสะ) พนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟและมีแฟนเป็นนักมวยที่ดาวรุ่งที่ยังต้องดิ้นรน วันหนึ่งในฤดูหนาวปี 1979 ทั้งสี่สาวมาได้รวมกันเพราะทากิโกะเชื่อว่าโคทาโร่ (จุน คุนิมูระ) พ่อของพวกเธอนอกใจฟูจิ (เคอิโกะ มัตสึซากะ) แม่ของพวกเธอด้วยการมีเมียน้อยในวัยเจ็ดสิบปีแถมยังมีลูกชายด้วยกัน แน่นอนไม่มีใครเชื่อทากิโกะแม้จะมีหลักฐานจากการจ้างนักสืบเอกชนเป็นรูปถ่ายมาให้ทุกคนดูแต่ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอลงที่จะไม่เชื่อหรือแม้จะเชื่อก็ยังคิดว่าไม่เป็นอะไร กระนั้นพวกเธอก็สัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับแต่ระหว่างนั้นเมื่อมีอะไรให้คิดมากความขัดแย้งและความลับต่างๆที่ซ่อนอยู่ในชีวิตที่ดูเหมือนปกติของพวกเธอทั้งสี่จึงก็ค่อยๆเผยไต๋ออกมา ละเอียดละเมียดตามสไตล์เมื่อมีเรื่องให้เล่ามากมายถึงสี่ดรุณีที่ร้อยเรียงกันดีผ่านความเรียบเรื่อยและเรียบง่ายในความเป็นพี่น้อง นี่คือหนังโคเรเอดะขนาดยาวมากกว่าปกติกับบทหนังที่ยังคงเล่าเรื่องความเว้าแหว่งเชิงความสัมพันธ์ในครอบครัว กับเรื่องไม่ควรปกติที่กลายเป็นเรื่องปกติซ้อนทับบริบททางสังคมของญี่ปุ่นยุคนั้นได้ลงตัว กับสารตั้งต้นเรื่องของผู้ชายที่คิดว่าการนอกใจเป็นเรื่องปกติและแม้แต่ผู้หญิงยังคิดว่าเป็นปกติและยอมรับมันอยู่กับความเจ็บปวดให้ได้ และสิ่งนั้นคือการจุดประกายทางความคิดของสี่พี่น้องที่ต่างคนต่างคิดและแน่นอนเรื่องที่ไม่ควรปกตินี่เองที่เป็นจุดเริ่มที่ทำให้บางอย่างที่เหมือนปกติในชีวิตของพวกเธอกลายเป็นไม่ปกติ ซึ่งการเล่าเรื่องถึงสี่มิติเชิงความรู้สึกในใจของผู้หญิงสี่คนในงานที่เรียกได้ว่าหนังผู้หญิงเต็มตัวทำให้ในทุกมุมมองมีผลต่อความสัมพันธ์ นั่นคือพัฒนาการจากที่แยกกันเดินแต่ก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้กันตามประสาพี่น้องที่ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่มีวันตัดกันขาดแต่ที่ร้ายกาจคือเรื่องที่เล่าคือเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ย่อมได้นี่สิ น่าแปลกที่เหมือนไม่มีอะไรคล้ายดูชีวิตคนธรรมดาที่สุดสามัญที่สุดไม่ต่างจากคนที่พบเห็นได้ทั่วไปแต่ไม่รู้ทำไมถึงตรึงคนดูได้ ทุกครั้งที่ดูงานโคเรเอดะจะเป็นแบบนี้เสมอเพราะเรื่องที่เขาหยิบมาเล่ามันคือเรื่องของคนธรรมดาสามัญที่สุดของสังคมเป็นเรื่องง่ายๆของคนใช้ชีวิตที่ทุกคนมีสิทธิ์เจอ ทว่าทุกครั้งที่หยิบเอาเรื่องราวเรื่องเล็กน้อยที่เหมือนจะไม่สำคัญแต่เป็นเรื่องสำคัญเพราะบางครั้งเรื่องเล็กน้อยที่ถูกละเลยนี่เองที่มักถูกมองข้ามจนหลายครั้งลุกลามบานปลายกลายเป็นสร้างรอยร้าวในครอบครัวได้ ซึ่งความน่าประหลาดใจทุกครั้งที่เรื่องแบบนี้ถูกเล่ารวมถึงคราวนี้ที่มีเรื่องเล่าถึงสี่เรื่องจะว่าไปก็หนึ่งครอบครัวใหญ่ผูกพันกับสี่ครอบครัวย่อยเรื่องง่ายๆแบบนี้กลับสามารถตรึงคนดูให้ติดอยู่กับเรื่องที่เล่าได้อย่างชะงัด เช่นเรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวที่หัวหน้าครอบครัวใหญ่นอกใจแต่การนอกใจนั้นกลับมาพาดทับกับครอบครัวย่อยทำให้ในความปกติของสิ่งที่ไม่ควรปกติถูกเปรียบเทียบ แล้วความอยากรู้ว่าทั้งสี่คนจะมีบทสรุปยังไงก็ดึงคนดูให้ติดยึดไปกับพวกเธอได้อย่างน่าทึ่ง ในความเป็นพี่น้องก็คือความเป็นครอบครัวความใกล้ชิดจะมีเส้นบางๆของความห่างเหินกั้นเพราะทุกความสัมพันธ์มักมีอะไรซ่อนอยู่ เพราะนี่คือเรื่องเล่าของสี่พี่น้องคลานตามกันมาได้ผ่านประสบการณ์บางอย่างร่วมกันมิติบางอย่างจึงมาจากความต่างกันของแต่ละคน เพราะแม้แต่ฝาแฝดยังต่างกันจะเอาอะไรกับพี่น้องที่อายุห่างกันมันจึงมีมิติความอิจฉาความหมั่นไส้ในสิ่งที่คนหนึ่งมีคนหนึ่งไม่มีเพราะได้ใช้ชีวิตผ่านวัยที่ยังไม่มีวุฒิภาวะมาด้วยกัน แน่นอนการเปรียบเทียบการใช้ชีวิตของแต่ละคนคือการคิดถึงตัวเองคิดว่าพี่น้องคนอื่นคิดกับตัวเองอย่างนี้อย่างนั้นแต่มันคือการคิดเข้าข้างหรือกดตัวเองให้ต่ำลงและนั่นคือเส้นบางๆของความห่างเหินที่จะตามมาจนการพบหน้ากลายเป็นทะเลาะกัน แล้วเพราะการที่ความเป็นพี่น้องก็คือครอบครัวมันไม่สามารถตัดกันขาดความรักและความหวังดีไม่เคยถูกความห่างเหินพรากไปหรือมันเป็นแค่ความห่างเหินมากั้นกลางเพื่อที่จะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันว่าต่างคนก็ต่างมีอะไรต่างกันในชีวิตสามัญเพียงแต่เราเลือกมองที่ตัวเรามากกว่าหรือไม่ การแสดงที่เป็นคนธรรมดาได้อย่างเป็นธรรมชาติจนน่าทึ่งโดยเฉพาะ "ซึสึ ฮิโรเสะ" ที่วันนี้ต้องยอมให้น้องโตได้แล้ว ถ้าจะดูการแสดงแบบญี่ปุ่นแท้ที่เป็นจริตของผู้หญิงญี่ปุ่นธรรมดาได้อย่างเป็นธรรมชาติต้องมาดูเรื่องนี้ และเพราะนี่คือเรื่องของสี่พี่น้องบทจึงแบ่งให้แต่ละคนมีเรื่องเล่าของตัวเองที่เมื่อมองตัวเองสะท้อนกับแต่ละคนของพี่น้องจะเห็นบางอบ่างอย่าง แล้วด้วยความที่เรื่องนี้ย้อนกับไปสู่ยุคสมัยที่ญี่ปุ่นเป็นสังคมนิยมชายเต็มที่แล้วเสนอชีวิตของผู้หญิงตัวละครผู้หญิงจึงโดดเด่นทั้งริเอะ มิยาซาะวะในบทพี่ใหญ่ที่ใช้ชีวิตสุดขีดมาจิโกะ โอโนะในบทพี่รองที่หน้าชื่นอกตรมยู อาโออิในบทน้องสามที่เหมือนจะเรียบและจืดชืดแต่กลับดูปกติกว่าใครเพื่อน และสุดท้ายซึสึ ฮิโรเสะที่ต้องบอกใจตัวเองว่าควรปล่อยให้น้องโตได้แล้วหลังจากที่ดูน้องมาตั้งแต่เป็นเด็กมัธยมแล้วเรื่องนี้มาเป็นน้องเล็กที่คิดว่าคนอื่นดูถูกแฟนตัวเองเรื่อยมา แล้วหนังโคเรเอดะจะเป็นแบบนี้ด้วยดนตรีที่คลอพลิ้วแผ่วจนบางครั้งเหมือนเงียบงันประหนึ่งปล่อยให้ความคิดคนดูได้ล่องลอยตามสิ่งที่เห็นบนจอ คงไม่ใช่ความบันเทิงสำหรับทุกคนเพราะมีบ้างที่ต้องใช้ใจดูด้วยมิติเชิงความสัมพันธ์ที่พาดทับที่ถ้าคนที่มีพี่น้องน่าจะเข้าถึงได้มากกว่า แต่ที่ต้องเตือนคือนี่คงไม่ใช่ความบันเทิงสำหรับทุกคนเพราะนี่คืองานที่มาเพื่อจัดการความคิดนั่นคือคิดหาเหตุผล คิดตาม หรือคิดแทนสี่พี่น้อง แล้วเมื่อคิดอารมณ์และความรู้สึกจึงจะตามมาและสิ่งนั้นไม่ใช่ความบันเทิงสำเร็จรูปเพราะการจะดูความเรียบเรื่อยเรียบง่ายที่เน้นความละเมียดทางความรู้สึกมันอาจไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะเอ็นจอย แล้วถ้าเทียบกับงานอื่นๆของโคเรเอดะที่ผ่านตามาซึ่งทั้งหมดเป็นหนังคงต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุดของเขาแม้ทุกอย่างในความเป็นเขาจะมาอยู่ในซีรีส์จำนวนเจ็ดตอนเรื่องนี้ เพราะเอาจริงความที่มีเวลาเล่ามากจึงยังมีเรื่องที่ไม่เล่าก็ไม่เสียหายหรือเล่าอะไรที่ไม่จำเป็นอยู่มากแถมถ้าต้องการดราม่าจัดๆก็ยังไม่มีให้ยังคงให้คนดูเป็นผู้สังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ซึ่งตลอดเวลาจะไม่มีการกล่าวถึงชื่อเรื่องจนมาตอนสุดท้ายที่ผู้ชายคุยกันจึงรู้ว่า Asura คืออะไรในหนังผู้หญิงแท้จริงแสนลำบากเรื่องนี้ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7,8 จาก Instagram netflixjp ภาพที่ 1 จาก Facebook Netflix เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !