A: คุณโอเคมั้ย ?B: แล้วผมดูไม่โอเคตรงไหน ?A: ก็ถ้าคุณผอมไปมากกว่านี้ คุณอาจจะโดนลมพัดปลิวไปเลยก็ได้ "ผมกำลังล้างหน้า เผื่อว่ามันจะช่วยให้ผมสร่างจากความง่วง ผมเงยหน้าส่องกระจก มองใบหน้าอันโทรมๆและตาคล้ำ ๆของตัวเอง จู่ ๆ ท้องผมเกิดร้องขึ้นมาด้วยความหิวโหย ผมจึงเดินไปที่ตู้เย็น ทันใดนั้น ผมต้องตะลึงกับกระดาษโพสอิทสีเหลืองที่แปะหน้าตู้เย็น! ข้อความที่อยู่บนกระดาษใบนั้นคือ "Who are you ?" ภาพโดย John Hain จาก Pixabay จะเป็นไปได้ไหม หากฝันร้ายที่คุณพบเจอนั้น มันตามหลอกหลอนขณะที่คุณยังไม่ได้หลับ? ฝันร้ายทั้ง ๆ ที่ยังตื่น ฝันร้ายทั้ง ๆ ที่ยังลืมตา ฝันร้ายทั้ง ๆ ที่คุณไม่ต้องการจะฝันถึงมัน! "คุณเป็นใคร?" คงไม่ค่อยมีใครถามคำถามนี้กับตัวเอง น้อยคนที่จะสงสัยในความเป็นตัวเอง แต่ไม่ใช่กับพนักงานคุมเครื่องจักรที่เป็นโรคนอนไม่หลับมานานนับปี เนื่องจากเขามีปมฝังใจที่แม้แต่ตัวเองยังคงไม่รู้ตัวและกำลังหนีมัน! และนั่นทำให้เหตุการณ์หลอน ๆ ตามมาหลอกหลอนเขาไม่เว้นวัน และพาลทำให้คนรอบข้างเขาต้องเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน จนทำให้ใครหลายคนชี้หน้าหาว่าเขาเป็น "คนติดยา" หรือ "คนวิกลจริต" ผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า "Trevor Reznik" ภาพโดย Nick Magwood จาก Pixabay สิ่งแรกที่ทำให้อึ้งทึ่งตั้งแต่ยังดูไม่จบก็คือ "หุ่นที่ซูบผอมของพระเอก" แบบที่ว่าผีโครงกระดูกเดินได้หรือเปล่า คือผอมจนเห็นโครงกระดูก มันผอมน่ากลัวเกินไป แต่พอไปอ่านข้อมูลเบื้องหลัง ต้องนับถือพระเอกคนนี้มากกับการลดหุ่นให้ผอมแห้งโดยใช้เวลาไม่นาน โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่าในหนึ่งวัน เขากินได้แค่กาแฟ 1 แก้ว แอบเปิ้ล 1 ผล และทูน่าเพียงเล็กน้อย พร้อมออกกำลังกายอย่างหนัก (เป็นเรานี่คงไม่รอดตั้งแต่วันแรก ซูฮกพี่เขาเลยจริง ๆ) ทำให้พระเอกอย่าง 'Christian Bale' เป็นอีกหนึ่งสุดยอดของ "Body Transformations" ในวงการณ์ภาพยนตร์เท่าที่เคยมีมาภาพโดย Enrique Meseguer จาก Pixabay หนังเรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่สนุก ไม่มีอะไรเลย ดูแล้วน่าเบื่อ ไม่เห็นเข้าใจ แต่ถ้าใครดูถึงตอนจบแล้ว จะบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้ผูกปมชวนน่าสงสัยได้ดีมาก (หากใครเป็นนักเดา คงได้สนุกละงานนี้) ตัวหนังที่เน้นอารมณ์ชวนสงสัย อึดอัด กดดัน กับบรรยากาศและการเดินเรื่อง รวมไปถึงซาวด์ดนตรีชวนหลอนโสตประสาท หนังใช้ลูกเล่นของเสียงมากล่อมประสาทความหลอน บวกกับใบหน้าอันโทรม ๆ ไร้ซึ่งชีวิตชีวาของพระเอก ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความหลอนเบา ๆ แบบไม่ต้องมีผีวิญญาณโผล่มาให้สะดุ้งโหยง ก็โคตรหลอนได้ด้วยตัวหนังเอง งานนี้ต้องให้ความดีความงามกับพี่ Christian Bale เขาแหละ ที่แสดงบทบาทคนเป็นโรคนอนไม่หลับ (อีกนิดใกล้เป็นคนวิกลจริตละพี่) ได้เข้าถึงอารมณ์มาก สีหน้า แววตา ท่าทางการพูด การเดิน การปลดปล่อย การระบายอารมณ์ คือมันเสมือนจริงมาก จนนี่ก็คิดไปแล้วว่าก่อนหน้าที่พี่จะมาเล่นหนังเรื่องนี้ พี่ได้ไปเข้าคอร์สฝึกหัดการเป็นโรคนอนไม่หลับมาหรือเปล่า (ปรบมือให้กับการแอคติ้งของพระเอกคนนี้จริง ๆ)ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels เรื่องราวมีอยู่ว่า "Trevor Reznik" พนักงานคุมเครื่องจักรในโรงงาน ที่มีชีวิตทำงานไปวัน ๆ มีงานอดิเรกคือการไปพูดคุยจีบพนักงานเสิร์ฟสาวที่ร้านกาแฟที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง และการออกเดินทางไปสู่สวรรค์ชั้นเจ็ดกับโสเภณี ที่เปรียบเสมือนเพื่อนคนเดียวในชีวิตเขา แต่แล้ววันหนึ่งกลับมีชายปริศนานามว่า "Ivan" ปรากฎตัวอย่างลึกลับในโรงงานที่เขาทำงานอยู่ เขาได้พูดคุยกับชายปริศนาคนนี้ และนึกสงสัยว่าเขาเป็นใคร ทำให้เขาไม่มีสมาธิในการทำงาน จนพลาดทำเพื่อนร่วมงานแขนขาดคาเครื่องจักร เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนไม่พอใจในตัวเขา บวกกับใบหน้าอันโทรม ๆ แบบผีตายซาก ทำให้เพื่อนร่วมงานรังเกียจเขาและพร้อมที่จะขับไล่เขาออกไป และทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "Ivan ไม่มีตัวตน!!"แล้ว Ivan เป็นใคร ?เกี่ยวข้องกับเขาอย่างไร ?ปมในใจที่ทำให้เขาเป็นโรคนอนไม่หลับคืออะไร ?สรุปแล้วเขาจะหาคำตอบจากคำถามที่ว่า "คุณเป็นใคร ?" ได้หรือไม่ ?ท้ายที่สุดแล้วชีวิตเขาจะได้นอนหลับพักผ่อนหรือไม่ ?คำตอบอยู่ในหนังเรื่องนี้แล้ว อยากรู้ต้องดู ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels ดูไปก็แอบสงสารพระเอกนะ กับอีแค่โทรมหน้าตาเหมือนผีดิบ ผอมแห้งเหมือนผีโครงกระดูก ก็โดนเพื่อนร่วมงานรังเกียจและขับไล่ หาว่าติดยา แต่สาเหตุเพราะพระเอกไม่ได้นอนหลับมาเป็นปี จึงทำให้เขามีสภาพผีตายซากแบบนี้ บางทีก็ไม่ยุติธรรมสำหรับพระเอก ทั้ง ๆ ที่พระเอกก็ตั้งใจทำงานมาโดยตลอด แต่มาพลาดเพราะอาการจิตหลอนกำเริบ ส่วนฉากที่พระเอกเผลอเกือบหลับไปนั้น แล้วจู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาขัดห้องน้ำ (มีการเขียนป้ายโพสอิทเตือนตัวเองว่า "ไปซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ") ตอนแรกก็นึกงงว่าไหงอยู่ดี ๆ ลุกขึ้นมาขัดห้องน้ำตอนกลางคืน แต่พอดูไปดูมา คือเหมือนพระเอกพยายามหากิจกรรมทำ เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับนั่นเอง (ทรมานร่างกายตัวเองดีแท้) ภาพถ่ายโดย JESHOOTS.com จาก Pexels ปกติเป็นคนดูหนังแล้วชอบหาข้อคิดที่ได้จากหนัง สำหรับเรื่องนี้แฝงข้อคิดหลายแง่มุมมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในสังคมการทำงาน การอยู่กับคนรอบข้าง การยอมรับความผิด การเผชิญหน้ากับปัญหา การแยกแยะระหว่างความจริงกับความคิดไปเอง โดยเราจะแยกข้อคิดเป็นข้อ ๆ ตามที่เราได้รับจากหนังเรื่องนี้ คือ1.ทุกการกระทำของเรา ที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นเพราะอุบัติเหตุหรือโดยตั้งใจ ทางที่ดีเราควรยอมรับความผิดนั้น และไม่คิดโทษคนอื่น2.ทุกคนมีสิทธิทำผิดพลาด ไม่ว่าเรื่องผิดพลาดนั้นจะเล็กหรือใหญ่ หากเราคิดจะแก้ไขมันตั้งแต่ทีแรก โดยไม่คิดหนีความผิดนั้น ผลลัพธ์สุดท้ายมันอาจไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่เราคิดไว้ก็ได้3.การที่เราคิดเข้าข้างหรือหลอกตัวเองจนเกินไป อาจนำมาซึ่งความสูญเสียใจอย่างสุดขีดก็เป็นได้4.การยอมรับความจริง ยอมรับตัวตนของตัวเอง เป็นสิ่งแรกที่มนุษย์ควรทำ ไม่ว่าตัวตนนั้นมันจะด้านมืดสักแค่ไหน หากเราไม่คิดยอมรับตัวเอง ก็คงไม่มีใครมายอมรับตัวตนที่แท้จริงเราได้5.จงหาเพื่อนดีๆที่เราไว้ใจสักคนสองคน กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนกับเขา กล้าที่จะเล่าระบายความทุกข์ในใจ ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนมากมาย แค่เพื่อนสักคนที่ทำให้เรารู้สึกว่า..เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกที่โหดร้าย6.ถ้าไม่อยากเป็นคนจิตหลอน จงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ลองมองตัวเองในกระจก แล้วถามดูสิว่า "เราเป็นใคร ?"ทิ้งทวนชวนดู: ปกติจะชอบดูหนังแนว Psychological / Mystery / Thriller / Mindbender ออกแนวจิตวิทยา หลอนประสาทนิด ๆ คนดูไม่ได้เป็นโรคจิตนะเออ แต่หนังแนวนี้มันทำให้เห็นอีกแง่มุมนึงของมนุษย์ ส่วนใหญ่จะเป็นด้านมืดของมนุษย์! เหมือนเป็นการศึกษาพฤติกรรมตัวละครไปในตัว และนี่เป็นการรีวิวหนังครั้งแรกของเรา ที่เห็นว่าหนังเรื่องนี้ดีและอยากชักชวนให้ได้ดูกัน ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านมาถึงประโยคนี้ แล้วพบกันใหม่บทความหน้า ขอตัวไปนอนละ ไม่อยากจิตหลอนเหมือน Reznik น่ะ