ฮีลใจไปกับซีรีส์ If You Wish Upon Me ดราม่าน้ำดีที่พาไปสำรวจคุณค่าของชีวิตผ่านความปรารถนาของผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผลงานสุดท้าทายของพระเอกหนุ่มฝีมือดี จีชางอุค แท็กทีมมากับ ชเวซูยอง พร้อมด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่ ซองดงอิล พวกเขาพร้อมแล้วที่จะทำให้ห้วงสุดท้ายก่อนตายกลายเป็นช่วงเวลาที่ส่องประกายถึงขีดสุด เรื่องย่อซีรีส์ If You Wish Upon Me เปิดฉากเล่าเรื่องผ่าน ยุนกยอรเย (รับบทโดย จีชางอุค) ชายหนุ่มผู้ถูกโลกผลักไสจนต้องระเหเร่ร่อนตั้งแต่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไปจนถึงเรือนจำ หลังพ้นโทษเขาตั้งใจพาสุนัขที่ป่วยใกล้ตายไปเสพความสุขยังเมืองติดชายทะเลอย่าง โกซอง ทว่าระหว่างเดินทางยุนกยอรเยถูกไล่ล่าจากคู่อริเก่าจนเกิดความวุ่นวายบนท้องถนน เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เขากลายเป็นผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืนกฎหมายจราจรยุนกยอรเยซึ่งเป็นเด็กกำพร้าจึงต่อต้านรัฐบาลมาทั้งชีวิต เขาไม่ยอมจ่ายค่าปรับตามคำสั่งศาลแต่ตัดสินใจไปบำเพ็ญประโยชน์ที่ ศูนย์บริบาลผู้ป่วยอนรี เป็นการทดแทน จนกระทั่งได้พบกับ คังแทชิก (รับบทโดย ซองดงอิล) ชายสูงวัยผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยที่เรียกว่า ทีมจีนี่ พร้อมด้วยนางฟ้าชุดขาวอย่าง ซอยอนจู (รับบทโดย ชเวซูยอง) ณ ที่แห่งนั้นพวกเขาได้ร่วมกันทำให้คำขอของผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นจริง พร้อมค้นพบความหมายและคุณค่าแห่งการเกิดมาใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ บทบาทนักแสดงยุนกยอรเย (รับบทโดย จีชางอุค) เด็กหนุ่มกำพร้าที่ต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีวางเพลิง เขาเติบโตมาโดยไม่รู้ว่าความสุขที่เป็นอย่างไรแต่พยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อมีชีวิตรอด จนกระทั่งได้พบกับชายคนหนึ่งที่ชักนำเขาไปสู่การเป็นอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย กลายเป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของยุนกยอรเยไปตลอดกาลคังนัมชิก (รับบทโดย ซองดงอิล) ชายไร้บ้านผู้ทำงานเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์บริบาลผู้ป่วยอนรีจนก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าทีมจีนี่ ในอดีตคังนัมชิกเคยสูญเสียทุกอย่างจึงใช้ชีวิตเสมือนคนใกล้ตายจึงเข้าใจหัวอกผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นอย่างดี เขาตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ความปรารถนาของคนไข้เป็นจริงแม้จะเผชิญอุปสรรคมากมายก็ตามซอยอนจู (รับบทโดย ชเวซูยอง) หญิงสาวผู้เข้ามาทำงานเป็นพยาบาลด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ ความมีชีวิตชีวาของซอยอนจูเสมือนแสงสว่างที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้ผู้ป่วยมีเรี่ยวแรงในการใช้ชีวิต เธอเสพติดการออกกำลังกายอย่างหนักเพราะเชื่อว่าการสูญเสียกล้ามเนื้อเป็นเรื่องร้ายแรงระดับโลกจนกลายเป็นนางฟ้าชุดขาวผู้แข็งแกร่งไปโดยปริยาย If You Wish Upon Me ซีรีส์ดราม่าความยาว 16 ตอน คุมบังเหียนการผลิตโดย ผู้กำกับคิมยงวัน เจ้าของผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดังที่รู้จักกันดีอย่าง The Cursed (2020) ทำงานร่วมกับ นักเขียนแบคมีคยอง หญิงเก่งผู้ผ่านงานเขียนบทโทรทัศน์ซีรีส์คุณมาภาพมาแล้วมากมายอาทิ Strong Woman Do Bong-soon (2017) Melting Me Softly (2019) และ Mine (2021) มาถึงเรื่องนี้จะน่าสนใจขนาดไหน มีประเด็นใดให้ได้ติดตามกันบ้าง ขออาสามาบอกเล่าผ่านรีวิวฉบับนี้ ค้นหาคุณค่าของชีวิตก่อนจากไป แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง(YouTube: BBC News)จุดเริ่มต้นของซีรีส์ If You Wish Upon Me มาจากเหตุการณ์จริงของ คีส เวลด์บอร์ คนขับรถพยาบาลชาวดัตช์ผู้พาผู้ป่วยระยะสุดท้ายไปที่ทะเลตามคำขอก่อนสิ้นลมหายใจ หลังจากเกษียณอายุเขาจึงก่อตั้ง มูลนิธิรถพยาบาลแห่งคำอธิษฐาน (Ambulance Wish Foundation) ภายใต้ปณิธานสำคัญคือการทำให้คนไข้ได้สัมผัสกับวาระสุดท้ายของชีวิตตามความปรารถนา ปัจจุบันมูลนิธิแห่งนี้เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกและได้ช่วยเหลือให้ผู้ป่วยจากไปอย่างมีความสุขมาแล้วหลายรายจากเรื่องราวน่าประทับใจดังกล่าวได้กลายมาเป็นซีรีส์ฉบับคนแสดงให้เราได้รับชม ผ่านฉากหลังของเรื่องอย่าง ศูนย์บริบาลผู้ป่วยอนรี สถานที่ห่างไกลเมืองหลวงอันเปรียบเป็นบ้านหลังสุดท้ายของผู้ป่วยหลายชีวิต นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่รักษาอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังมี ทีมจีนี่ อาสาสมัครที่เปรียบได้กับยักษ์ในะเกียงแก้วผู้ช่วยดูแลกิจวัตรประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ พร้อมกับพันธกิจอันยิ่งใหญ่คือการทำให้คำขอของพวกเขาได้เกิดขึ้นจริงก่อนจากโลกนี้ไปตลอดกาล สิ่งที่ว่ามานี้จึงเป็นแก่นสารสำคัญอย่างแรกที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าติดตามตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศผ่านไป ดราม่าชั้นเยี่ยม เปี่ยมด้วยคุณภาพเปื้อนคราบน้ำตาเมื่อเสาหลักของเรื่องแข็งแรงพอแล้ว If You Wish Upon Me จึงขยี้ต่อมน้ำตาของคนดูให้ทำงานอย่างหนักด้วยการเล่าเรื่องราวของคนไข้แต่ละเคสออกมาอย่างลึกซึ้ง เปิดฉากด้วยผู้ป่วยรายแรกที่กำลังจะหมดลมหายใจในหน้าร้อน หากแต่เขาอยากเห็นหิมะเป็นครั้งสุดท้ายและปรารถนาที่จะกลับไปตายยังบ้านเกิด ทุกคนในโรงพยาบาลจึงร่วมแรงร่วมใจกันเนรมิตหิมะเทียมให้เขาได้มองผ่านช่องหน้าต่าง จัดงานเลี้ยงย่อมเยาว์เป็นการอำลาครั้งสุดท้าย และจบลงด้วยการขับรถไปส่งถึงที่หมายเพื่อให้เขาหลับตาลงและจากไปอย่างสงบสุขเมื่อไหร่ที่ซีรีส์เลือกหยิบจับความเป็นความตายของชีวิตมานำเสนอ ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นคือวัตถุดิบชั้นยอดที่จะกระตุกหัวใจให้เราพรั่งพรูน้ำตาออกมาอย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับ If You Wish Upon Me ที่เล่าออกมาอย่างละเมียดละไม เริ่มจากการยอมรับความจริงที่ว่าใครก็หนีความตายไม่พ้น ก่อนจะพาเราไปพบกับคำตอบว่าการตายอย่างมีคุณค่านั้นมีความหมายเช่นไร ทีมจีนี่พาเราลัดเลาะไปบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าก่อนจะพบแสงสว่างที่ส่องประกายอยู่สุดปลายทาง ความหนักหนาสาหัสที่จบลงด้วยการฮีลใจ ใครอ่อนไหวมีร้องไห้ตัวสั่น แต่รับประกันว่าเป็นน้ำตาแห่งความสุขอย่างแน่นอน วางปมให้ตามต่อ เติมลูกล่อลูกชนได้น่าสนใจนอกจากกลิ่นอายดราม่าเชิญชวนให้หลั่งน้ำตากันแล้ว If You Wish Upon Me ยังวางปมเรื่องและความสัมพันธ์ของตัวละครได้น่าติดตาม จับตาดูเรื่องราวระหว่าง ยุนกยอรเย กับ คังนัมชิก เอาไว้ให้ดี คู่นี้เปรยออกมาตั้งแต่ต้นว่าอาจมีอดีตอันเจ็บปวดร่วมกันมาก่อน รวมทั้งแผลใจที่ดูจะสมานไม่ค่อยลงอีกต่างหาก เชื่อว่าเมื่อซีรีส์เปิดเผยปมมากขึ้นเท่าไร ผู้ชมทางหน้าจอคงสะเทือนไปถึงไตด้วยการแสดงอันทรงพลังของพวกเขา ขอให้เฝ้าหน้าจอกันอย่าให้คลาดสายตาส่วนใครกลัวว่าเนื้อหาจะพาดิ่งเกินไป บอกเลยว่าซีรีส์ได้เติมเลิฟไลน์กุ๊กกิ๊กของคู่พระนางมาตัดความเศร้าให้เราแล้ว จีชางอุค และ ชเวซูยอง ตั้งป้อมเป็นคู่กัดกันตั้งแต่เริ่มด้วยเคมีที่ล้นทะลักตั้งแต่ปะทะกันซีนแรก งานนี้ความรักของพวกเขาจะพัฒนาไปทิศทางใด หวานเลี่ยนขนาดไหนคงต้องรอชิม อีกทั้งยังได้อมยิ้มไปกับความตลกโปกฮาของบรรดาผู้คนในโรงพยาบาลอนรีอีกต่างหาก ป้ายยาเลยว่าทุกองค์ประกอบเชิญชวนให้เราได้อมยิ้มและอบอุ่นกว่าที่คิดIf You Wish Upon Me จึงเป็นหนึ่งซีรีส์ที่มุ่งนำเสนองานดราม่าแบบจัดหนัก ใครเคยดูซีรีส์เรื่อง Chocolate (2019) ที่ตัวเอกทำงานลักษณะเดียวกันมาก่อนน่าจะเข้าใจโทนเรื่องได้ง่ายดายเพราะคล้ายคลึงกันหลายมิติ การเจ็บป่วยจนถึงแก่ความตายนำทางให้คนดูได้กลับมาย้อนดูความหมายของการมีชีวิต วันหนึ่งหากเราตกอยู่สภาวะเดียวกันจะเลือกจบชีวิตด้วยความปรารถนาครั้งสุดท้ายรูปแบบใด จะทิ้งอะไรไว้ให้คนข้างหลังได้เรียนรู้กันต่อไป สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ซีรีส์สื่อสารออกมาได้อย่างทรงพลังตั้งแต่ออกอากาศอีพีแรก พร้อมเติมแต่งกลิ่นอายโรแมนติกคอมเมดี้เข้ามาได้ถูกจังหวะ ยืนยันว่าไม่ใช่ซีรีส์ที่ดูยากแต่อย่างใด ซ้ำยังอบอวลไปด้วยความอิ่มใจที่ลองดูเมื่อไหร่จะหลงรักไม่รู้ตัว ตัวอย่างซีรีส์(YouTube: Viu Singapore)เยียวยาจิตใจไปกับซีรีส์ If You Wish Upon Me ดูสดทุกสัปดาห์เพื่อตามหาคุณค่าของชีวิตไปพร้อมกัน อัปเดตตอนใหม่ ทุกคืนวันพุธและวันพฤหัสบดี เวลา 21.00 น. สามารถรับชมฉบับบรรยายไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง Viu ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ที่รองรับ รวมทั้งทางกล่อง TrueID TV ได้แล้ววันนี้รูปภาพประกอบบทความจาก Official Twitter: KBS Dramaภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิว Poong, The Joseon Psychiatrist (2022) ซีรีส์ย้อนยุคจาก คิมมินแจ จิตแพทย์เยียวยาไข้ใจแห่งโชซอน- รีวิว Today's Webtoon (2022) บรรณาธิการเว็บตูน คิมเซจอง x ชเวแดเนียล x นัมยุนซู ซีรีส์อลหม่านในโลกเว็บตูน สนุกคูณร้อย ฮาคูณล้าน- รีวิว Big Mouth (2022) อีจงซอก x อิมยุนอา ซีรีส์ระทึกไปกับโลกอาชญากรอันโหดร้าย สนุกเอาตาย ปมมากมายชวนติดตามอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี