First Love ไม่ว่าสำคัญว่า เขา หรือ คุณ จะมีวงโคจรที่ต่างกันแค่ไหน หากเชื่อใน พรหมลิขิต สักวันเราจะได้เจอกันอีกแน่นอนในชีวิตเรา ช่วงเวลาที่ได้ทำอะไรเป็นครั้งแรกมักจะตื่นเต้นและมีความทรงจำเกี่ยวกับมันเสมอ ..ไม่ว่าจะดีหรือเลวร้าย เชื่อว่า #รักแรก ของใครหลาย ๆ คน ก็คงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เช่นเดียวกับตัวละคร ยาเอะ โนกุจิ (ฮิคาริ มิตสึชิมะ) และฮารุมิจิ นามิกิ (ทาเครุ ซาโต้) ในซีรีย์ #First Love ที่จะพาคุณย้อนกลับไปหาชิ้นส่วนความทรงจำอันล้ำค่า พร้อมบทเพลง First Love และ Hatsukoi ของอูทาดะ ฮิคารุ ที่เต็มไปด้วยความหมายของรักแรกอันสวยงามและยังอยู่ในใจของใครหลายคนมาจนถึงทุกวันนี้ หากพร้อมแล้ว ไปสัมผัสความทรงจำแสนวิเศษที่เรียกว่า ‘รักแรก’ พร้อมกันเลยค่ะ*หมายเหตุ เนื้อหาในบทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องของซีรีย์ เพื่อให้ได้อรรถรสในการรับชม สามารถข้ามไปก่อนได้นะคะFirst Love เป็นซีรีย์ที่เขียนบทและกำกับโดย ยูริ คันชิคุ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง #First Love (1999) และเพลง #Hatsukoi (2018) ซึ่งมีความหมายว่า ‘รักแรก’ เหมือนกัน โดยเนื้อเรื่องจะพาเราย้อนไปสัมผัสกับความรักของ ยาเอะ โนกุจิ เด็กสาวผู้มีความฝันอยากเป็นแอร์โฮสเตสที่ได้เดินทางไปดินแดนต่าง ๆ รอบโลก กับฮารุมิจิ นามิกิ เด็กหนุ่มที่อยากเป็นนักบินในกองทัพอากาศ เพื่อปกป้องประเทศและคนที่ตัวเองรัก ท่ามกลางบรรยากาศที่โรแมนติกและบทเพลงเพราะ ๆ ในยุค 90 เชื่อว่าหลายคนคงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามไปกับความใสซื่อของรักแรกของทั้งสองคน ..ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหวั่นไหว และเจ็บปวดไปพร้อม ๆ กันซีรีย์ #First Love เป็นซีรีย์สั้น ๆ เพียง 9 ตอน ที่คับแน่นไปด้วยคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นบทละครที่ผ่านการร้อยเรียงและนำเสนอเรื่องราวได้ชนิดที่ว่าเก็บทุกเม็ด วิธีการเล่าเรื่องที่สลับช่วงเวลาในอดีตและปัจจุบัน ทำให้ชวนติดตามตั้งแต่ฉากแรกจนถึงฉากสุดท้าย และยังได้ทีมนักแสดงมากความสามารถมาถ่ายทอดรายละเอียดของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบฉาก เสื้อผ้า ภาพและเสียง ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต รวมไปถึงเพลงประกอบที่ซึ้งกินใจ โดยเฉพาะท่วงทำนองเพลง First Love ที่ออกมาทีไรก็เรียกน้ำตาได้แทบทุกครั้ง รีวิวในครั้งนี้จึงได้หยิบฉากที่ประทับใจและสิ่งที่น่าสนใจจากซีรีย์มาแชร์ให้ฟังบางส่วน ลองไปดูกันเลยค่ะ“ขอโทษนะครับ ช่วยย้อนกลับไปได้ไหม?”เป็นฉากเปิดตัวของเพลง First Love ที่มาที่ถูกที่ถูกเวลาพอดี และสั่นสะเทือนเข้าไปถึงข้างในของฮารุมิจิ ..ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ชมอย่างเราหลังวางสายโทรศัพท์ เขาขอให้คนขับแท็กซี่ช่วยเร่งเสียงเพลงให้ดังขึ้น และปล่อยความคิดตัวเองให้ไหลเข้าไปกับบทเพลงนั้น บทเพลงที่มีกลิ่นอายของความสุขปนเศร้า และเต็มไปด้วยความคิดถึง รักแรก..ดอกไลแลคในมือที่มีความหมาย..ความรักครั้งแรกและเด็กสาวที่ยืนอยู่ใต้ต้นไลแลค ..รักแรกของเขาความทรงจำเหล่านั้นเหมือนคลื่นที่ซัดสาดเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว“ช่วยย้อนกลับไปได้ไหมครับ?” ไม่รู้ว่าเป็นคำถามที่เขาพูดกับคนขับ หรือเป็นสิ่งที่เขาคอยถามกับตัวเองมาตลอด ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ ..เขาได้แต่นั่งไปบนแท็กซี่ที่วิ่งไปข้างหน้าเรื่อย ๆ แล้วเก็บความทรงจำนั้นไว้ที่เดิม ฉากสารภาพรักบนดาดฟ้าที่ฉีกแนวจากที่เคยเห็นและอดขำไม่ได้กับความ ซื่อปนทึ่ม ของเด็กผู้ชายที่ชื่อ ‘ฮารุมิจิ’ เด็กหลังห้องที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนอกจากร่างกายที่แข็งแรง คงไม่คาดคิดว่า จะมีเด็กสาวเรียนเก่ง หน้าตาน่ารักที่เด็กผู้ชายทั้งโรงเรียนต่างก็หลงรัก มายืนสารภาพรักอยู่ตรงหน้าด้วยคำถามที่เขาเพิ่งพูดมันออกไป กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าอีกฝ่ายมีใจให้ก็เกือบพลาดโอกาสไปเสียแล้วเราจะแอบรักใครสักคนได้นานแค่ไหน? ..หากต้องแข่งกับใครหลายคน เชื่อเถอะว่าฮารุมิจิทำมันได้ดีเลยล่ะถึงแม้ฮารุมิจิจะเป็นเด็กผู้ชายที่โผงผาง อารมณ์ร้อน แต่กับเรื่องที่ต้องเผยความในใจกับคนที่เขารู้สึกชอบจริง ๆ กลับไม่กล้าเอ่ยมันออกมาตรง ๆ หากแต่เราสามารถสัมผัสได้จากการกระทำของเขา ไม่ว่าจะเป็นตอนขี่มอเตอร์ไซด์เข้าไปป่วนหน้าประตูโรงเรียนก่อนที่ยาเอะจะถูกตรวจชุดนักเรียน หรือจะเป็นตอนช่วยถือของชิ้นใหญ่แล้วอ้างว่าเป็นคำสั่งของคุณครู คิดว่ายาเอะก็คงรับรู้และสัมผัสความรู้สึกดี ๆ นี้ได้ด้วยเช่นกันใครเลยจะรู้ว่า การที่เขามักจะขึ้นไปสูบบุหรี่ที่ดาดฟ้าบ่อย ๆ ในเวลาพัก อาจเป็นวิธีการเฝ้าดูและคอยอธิษฐานให้การสารภาพรักของเด็กผู้ชายคนอื่น ๆ ล้มเหลว ..ใครเลยจะรู้ว่า จู่ ๆ คนที่แอบชอบจะมาสารภาพรักแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเชื่อว่าหลังจากนี้ พอได้ยินคำถาม “ ชอบกินอะไร?” ..เสี้ยววินาทีหนึ่ง เราคงจะยิ้มตามแล้วนึกถึงเด็กสองคนนี้อย่างแน่นอนหนึ่งในหกพันล้าน ..คือ ตัวเลขความน่าจะเป็นของการได้เจอกับเนื้อคู่มันคือปาฏิหารย์ที่สุดยอดไปเลย!บทสนทนาของคู่รักหนุ่มสาวขณะเดินเล่นที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ท่ามกลางสายลมหนาวและเสียงคลื่นที่ซัดสาด นอกจากจะได้เห็นความโรแมนติกของการเดทในสมัยนั้นแล้ว เรายังได้เห็นความเชื่อใน ‘พรหมลิขิต’ ของฮารุมิจิ และค่อย ๆ เข้าใจมากขึ้นว่า ทำไม ‘รักแรก’ จึงสำคัญและพิเศษมากสำหรับเขา ทำไมเขาถึงเฝ้าทะนุถนอมและอยากปกป้องคนที่เขารัก หากไม่ใช่เพราะเขาเชื่อว่าการได้เจอกับพรหมลิขิต คือเรื่องปาฏิหาริย์ ..และเขาเป็นหนึ่งในคนโชคดีคนนั้นนั่นเองด้วยความเชื่อนี้ เขาจึงเริ่มออกตามหา ‘เสียงของรักแรก’ ผ่านวิทยุสื่อสารในเมืองที่มีประชากรกว่าสองล้านคน ในขณะที่เพื่อนร่วมงานของเขาบอกว่ามันยากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ..แต่กับฮารุมิจิ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย‘นายจำเสียงเธอไม่ได้ซะหน่อย’‘จำได้สิ – ถ้าได้ยิน ฉันจะรู้เลย’เพราะเธอคนนั้น คือ พรหมลิขิต ของเขายังไงล่ะหากเรามีความสุขกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เราก็สามารถเจ็บปวดจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เช่นกัน – Hatsukoi, Utada Hikaruhttps://www.youtube.com/watch?v=ST3OrmLD6W4ในร้านซักผ้า แม้ฮารุมิจิจะไม่ได้พูดอะไร แต่ความห่วงหาอาทรได้ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาและการกระทำของเขาได้เป็นอย่างดี การนั่งเฝ้าคนคนหนึ่งที่ผล็อยหลับไป ขณะที่ปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำหน้าที่ของมันไปเรื่อย ๆ ชั่วขณะนั้น ได้พาเขาย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนของทั้งสองคน เหตุการณ์ที่เขาได้ทำร้ายคนที่เขารักด้วยความเจ็บปวดอันสิ้นคิดที่เกิดจากอารมณ์ที่เรียกว่า ‘รักแรก’ (ซึ่งเวลาต่อมาเขาเรียกมันว่า อาการป่วย ชนิดหนึ่ง)สำหรับชีวิตของนักเรียนทหารอากาศ ฮารุมิจิสามารถหาช่วงเวลาแห่งความสุขแต่ละวันด้วยการฟังเสียงคนรักผ่านโทรศัพท์เพียงไม่กี่นาที แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็สามารถเจ็บปวดกับคำพูดไร้สาระไม่กี่ประโยคของคนคนหนึ่งได้ เพียงเพราะกลัวการสูญเสีย โดยไม่รู้ตัว คำพูดและการกระทำของเขาได้สร้างบาดแผลให้กับยาเอะและตัวของเขาเอง กว่าจะดึงสติและต้องการกลับไปแก้ไข โชคชะตาก็ไม่อนุญาตให้เขาทำแบบนั้นได้แล้ว เพราะยาเอะเกิดอุบัติเหตุ และสูญเสียความทรงจำ ..ที่มีเขาอยู่ในนั้นบทเพลง Bridges burn ดังคลอขึ้น แทนความรู้สึกของฮารุมิจิในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี เขาทำทุกอย่างพังลงด้วยตัวของเขาเอง ไม่เพียงแค่ผิดคำสัญญาที่จะปกป้องให้ดีที่สุด เขายังเป็นคนที่ทำลายความฝันของคนที่เขารักคนนี้อย่างให้อภัยไม่ได้เราไม่มีทางรู้เลยว่าความเจ็บปวดจากการสูญเสีย พรหมลิขิต จะหยั่งรากลึกแค่ไหนได้แต่เดาว่าในชีวิตที่ผ่านมา ฮารุมิจิคงเป็นคนที่ใช้คำว่า ‘ถ้าหาก..’ ได้มากที่สุดคนหนึ่ง ฉัน..เป็นดาวเคราะห์สีน้ำเงิน ที่เต็มไปด้วยความเหงาและหนาวเหน็บ เธอ..เป็นดาวอังคารสีแดง ที่สุกสว่างและอบอุ่นที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอหากถามถึงความประณีตและละเอียดอ่อนของซีรีย์ #First Love คงยกให้เป็นการเล่าเรื่องโดยการใช้ metaphor ที่เปรียบให้ครอบครัวของยาเอะมาจากโลก หรือดาวเคราะห์สีน้ำเงิน (blue planet) และให้ครอบครัวของฮารุมิจิ มาจากดาวอังคาร หรือเรียกอีกชื่อว่า ดาวแดง (Red planet) โดยใช้เครื่องแต่งกาย โทนสีของสถานที่ รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร เป็นองค์ประกอบที่ถ่ายทอดให้เราได้ดื่มด่ำกับความโรแมนติกนี้ตลอดทั้งเรื่องยาเอะ โนกุจิ เด็กสาวที่เติบโตมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว สิ่งที่เธอรับรู้จากแม่ คือ พ่อของเธอมีครอบครัวอยู่อีกแห่งหนึ่ง เธอและแม่ 'ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก' ..สำหรับเธอ พ่อคือคนที่ใจดี มีความรู้ และโรแมนติก ของฝากที่พ่อคอยส่งมาให้จากการเดินทางไปหลาย ๆ ประเทศทำให้เธอเริ่มมีความฝันอยากออกเดินทางไปรอบโลก ยังมีป้ายชื่อที่พ่อของเธอส่งมันไปกับยานสำรวจดาวอังคาร ทำให้เธอเริ่มสนใจและเฝ้ารอฟังข่าวเกี่ยวกับมัน พ่อเป็นเหมือนไอดอลคนหนึ่งที่มีอิทธิพลกับเธอ ..แต่ขณะเดียวกัน คำสัญญาที่พ่อได้ให้กับเธอว่าจะมาเจอกันก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย ยาเอะจึงเป็นดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยความเหงาและหนาวเหน็บ เฝ้ารอคอยสิ่งที่จะมาเติมเต็มความอบอุ่นให้ชีวิตที่เว้าแหว่งให้สมบูรณ์นามิกิ ฮารุมิจิ เด็กผู้ชายที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน ในบ้านไม้ของเขาทั้งเล็กและแคบ หันไปทางไหนก็เจอหน้ากัน บนโต๊ะกินข้าวเต็มไปด้วยความวุ่นวายราวกับว่าบ้านนี้ไม่เคยมีช่วงเวลาแห่งความเงียบ ไม่มีใครคาดหวังอะไรกับเขา ส่วนเขาเองก็ไม่เคยตั้งเป้าหมายอะไรให้กับตัวเองนอกเสียจากความเชื่อที่ว่า ต้องเป็นคนเข้มแข็งเพื่อปกป้องคนในครอบครัว บรรยากาศที่อยู่รอบตัวของฮารุมิจิจึงมีแต่ความอบอุ่น และรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้ ๆโลกของยาเอะจึงได้สัมผัสความอบอุ่นเป็นครั้งแรก เมื่อดาวอังคาร ที่ชื่อ ‘ฮารุมิจิ’ โคจรเข้ามาใกล้ยานสำรวจดาวอังคารโนโซมิล้มเหลว เป็นเพียงแค่ยานที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศลองนึกว่าภาพว่าวันนี้เราลืมอะไรไว้ที่บ้าน ต่อให้นั่งคิดแทบตายยังไงก็นึกไม่ออก เชื่อว่าแค่นี้ก็ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดมากแล้ว..แล้วกับยาเอะ ที่ลืมชิ้นส่วนความทรงจำที่สำคัญและพลาดโอกาสที่เฝ้ารอมันตลอดทั้งชีวิตล่ะ ความรู้สึกของเธอจะมากกว่าเราสักแค่ไหน?ยาเอะเปรียบตัวเองเป็นเหมือนกับยานสำรวจดาวอังคารโนโซมิ ที่ทำภารกิจล้มเหลว ไม่สามารถวิ่งเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคารได้ มันจึงเป็นแค่เพียงยานที่ไร้เป้าหมาย แต่ก็ยังล่องลอยอยู่ในอวกาศ เช่นเดียวกับเธอในตอนนี้ที่มีชีวิตอยู่โดยไม่รู้ว่าจะตั้งเป้าหมายอะไรได้อีกภาพที่ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกภายในของเธอได้ดีที่สุด คงเป็นตอนที่เธอกำลังร้องไห้อยู่ในห้องเป่าลม (Air Shower) ที่จำลองให้เราเห็นภาพซ้อนของยานสำรวจโนโซมิที่กำลังลอยเคว้งอยู่ในห้วงอวกาศ ส่วนเธอคือนักบินที่ติดอยู่ในนั้น ได้แต่เฝ้ามองดาวอังคารอยู่ไกล ๆ ...จากนอกวงโคจรไม่มีเหตุผลในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เรารัก แม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้เราเจ็บปวดก็ตามถ้าฮารุมิจิเป็นดาวอังคาร ซุซูรุคงเป็นดวงอาทิตย์เจิดจ้า ที่คอยให้ความอบอุ่นแก่ชาวโลกที่หนาวเหน็บอย่างเธอหลังจากแยกทางกับสามี ยาเอะได้พาลูกชายย้ายกลับไปอยู่กับแม่ของเธอที่บ้านเกิดเธอทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถเลี้ยงลูกให้มีความเป็นอยู่ที่ดีได้ แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับเธออีกครั้ง เมื่อถูกเชิญให้ออกจากที่ทำงาน ..มันคือสัญญาณที่ทำให้เธอรู้ว่า จะต้องเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไปอีกครั้งแม้เธอจะดึงดันและฝืนทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกอยู่กับเธอ แต่ไม่ว่ายามหลับหรือตื่น เธอรู้อยู่แก่ใจดีว่าจะต้องเลือก แบบไหนที่จะดีที่สุด สำหรับอนาคตของลูก? เธอเรียนรู้มาจากพ่อว่า สำหรับลูกแล้วพ่อแม่มักจะมอบส่วนที่อร่อยที่สุดให้ลูกเสมอ ไม่ต่างอะไรกับการเลือกของเธอในครั้งนี้เป็นอีกฉากสะเทือนอารมณ์ที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับยาเอะจริง ๆ เมื่อเธอตักสตรอว์เบอร์รี่ที่อยู่บนเค้กให้กับซุซูรุ แต่ซุซูรุรู้ว่าสตรอว์เบอร์รี่นั้นอร่อยมาก เขาจึงแบ่งมันให้แม่ของเขาทานด้วย ..วินาทีนั้น คงทำให้ยาเอะยอมรับความจริงและตัดสินใจ ‘เลือกสิ่งที่ดีที่สุด’ ให้กับ ‘คนที่รักที่สุด’ แม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้เจ็บปวดเจียนตายก็ตามเด็กสาวยาเอะที่เต็มไปด้วยบาดแผลของความสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างในชีวิต ได้ถูกเยียวยาด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของซุซูรุ ลูก..เป็นเป้าหมายที่เธอค้นพบและทำให้เธอมีคุณค่าจากการเป็น 'คนที่ถูกรัก'การสูญเสียซุซูรุไป จึงไม่ต่างกับการเปิดบาดแผลที่ยังไม่สมานตัวแล้วกรีดมีดซ้ำลงไปอีกครั้ง โลกของเธอหนาวเหน็บและสั่นคลอนไปพร้อม ๆ กับความหมายของการมีตัวตนของเธอวงเวียนก็เหมือนชีวิต ถ้าไปตามกระแสรถไม่ได้ก็ไม่สามารถเป็นคนขับแท็กซี่ตัวจริงได้การกลับมาเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ในอาชีพคนขับแท็กซี่หญิง คงเป็นเรื่องที่แม้กระทั่งยาเอะก็ไม่เคยคิดมาก่อน และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เธอได้พบกับเพื่อนร่วมงานอย่างโอทาโร่ เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เธอค่อยๆ เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นเช่นกันวงเวียนบนท้องถนนดูน่ากลัว หากเข้าไปผิดจังหวะ ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ..สำหรับยานโนโซมิที่เคยทำภารกิจล้มเหลว คงไม่รู้ว่าของการวิ่งเข้าวงโคจรของดาวอังคารนั้นควรทำอย่างไรความกลัวทำให้ยาเอะหยุดรถตรงทางเลี้ยวเข้าและรู้สึกสับสน‘ห้ามหนี! หายใจลึก ๆ แล้ววิ่งเข้าไป’ คำพูดของโอทาโร่เป็นเหมือนแรงผลักให้เธอกล้าเหยียบคันเร่ง พาพวกเขาวิ่งเข้าไปในกระแสรถของวงเวียน แม้จะทุลักทุเลไปบ้าง แต่เธอก็เข้ามาได้แล้วยาเอะเรียนรู้ว่า เธอสามารถเป็นผู้ควบคุมการวิ่งเข้าออกวงเวียนนี้ได้ด้วยตัวเอง แม้จะหาจังหวะขับออกทางเส้นทางหลวงในครั้งแรกยังไม่ได้ เธอก็สามารถวนมาใหม่ได้อีกรอบ และฝึกทำอยู่บ่อย ๆ จนได้เป็นคนขับแท็กซี่ตัวจริงนอกจากจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครยาเอะในตอนนี้แล้ว เรายังได้เห็นโอทาโร่ในมิติใหม่ และเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรักในตัวละครนี้มากขึ้นเช่นกัน ..ในสายตาของเขา ยาเอะเหมือนแมวหลงทางที่มาจากต่างประเทศ หวาดกลัวและขาดความมั่นใจ ดูไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมแห่งใหม่และคงทนอยู่ได้ไม่นาน แต่เธอก็สามารถเติบโตและแข็งแกร่งสดใสขึ้นได้ ..กลับเป็นเขาเสียเองที่ได้รับพลังงานดี ๆ เหล่านั้น และค้นพบความหมายของการอยากไปทำงานทุกวัน นั่นเลยทำให้เขายิ่งเชื่อว่า ‘ชีวิตเรามีการแต่การพบเจอที่มีความหมาย’ในชีวิต มีช่วงเวลาที่เรียกว่าหัวเลี้ยวหัวต่อไม่กี่ครั้ง ..อยู่ที่เราจะเลือกเป็น คนกำหนด หรือปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา“ไม่น่าเจอกับเธอเลย ถ้าไม่เจอ คงไม่ต้องรู้สึกแบบนี้”แล้วสำหรับฮารุมิจิล่ะ เขาจะคิดเหมือนกันไหม?“งั้นนายคงมีชีวิตต่อไปโดยไม่รู้จักช่วงเวลาที่พิเศษมาก ๆ” ..คำตอบของเขายังเหมือนเดิมหลายครั้งที่เราเห็นซุซูรุมาปรึกษาฮารุมิจิเรื่องความรักของเขา คงมีแวบหนึ่งที่ฮารุมิจิคงคิดว่าเหมือนเห็นตัวเองในวัยเด็กอีกครั้ง ..บางเรื่องของซุซูรุก็สะท้อนให้ฮารุมิจิได้เห็นอะไรชัดขึ้น และบางคำตอบที่เขาให้กับซุซูรุ ก็เป็นคำตอบให้กับตัวเขาเองเช่นกันรวมถึงครั้งนี้ด้วย ที่เขาจะต้องเลือก ‘หยุด’ หรือ ‘ไปต่อ’เขาเลือก ‘หยุด’ ความสัมพันธ์กับซึเนมิ และเขาก็เลือก ‘ไม่ไปต่อ’ กับยาเอะหลายเหตุผลที่เราต่างคาดเดาว่าทำไมเขาถึงเลือกปล่อยโอกาสนั้นไป ทั้ง ๆ ที่พรหมลิขิตอยู่ตรงหน้าแล้ว ..แต่สำหรับฮารุมิจิ ผู้ที่ยึดติดกับอดีตมานานและไม่สามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้เลยสักครั้ง เขารู้ดีว่าความทรงจำที่เขามีร่วมกับยาเอะมีทั้งความสุขและความเจ็บปวด ไม่ใช่ยาเอะคนเดียวที่สูญเสียความทรงจำอันล้ำค่านั้น แต่เขาเองก็สูญเสียมันไปด้วยเช่นเดียวกัน ..เพราะจำไม่ได้ ..เลยเจ็บปวดเพราะจำได้ แต่ทำอะไรไม่ได้ ..ไม่ว่าจะแบบไหนก็ทรมานเหมือนกันการเลือกปล่อยวางอดีต และมอบชีวิตใหม่ให้กับยาเอะจึงเป็นการปกป้องคนที่เขารักในรูปแบบของเขา แม้ว่าตัวเองจะต้องเจ็บปวดก็ตามลูกไม่จำเป็นต้องทำให้ได้ตามคาดหวัง ลูกมีสิทธิ์เชื่อในสิ่งที่เลือก แม้จะเลือกผิดพลาดหรือไม่สำเร็จ มันมีจุดประสงค์ต่าง ๆ ในชีวิตเสมอจากเด็กสาวขี้อาย ที่มักจะฝืนทำอะไรตรงข้ามกับตัวเอง เพราะเธอชอบที่แม่บอกว่า ‘ยาเอะเป็นลูกสาวคนพิเศษของแม่’..กับยาเอะในโหมดพนักงานแท็กซี่ดีเด่น ที่ถนนทุกเส้นล้วนเป็นพื้นที่ของเธอเป็นตัวละครที่เรารักเธอมากขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่เธอก้าวพ้นขีดจำกัดที่เธอตั้งไว้แม้เธอจะบอกว่าการขับแท็กซี่เป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่เธอไม่รู้ตัวหรอกว่า ในทุก ๆ วันที่เธอทำงาน เธอได้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ รายละเอียดทุกเส้นทาง เวลาเปิดปิด ช่วงเวลาหนาแน่น เธอจำมันได้ขึ้นใจ เชื่อว่าถ้าเธอได้เห็นสายตาของซุซูรุที่มองเธออย่างชื่นชมคงปลื้มใจไม่น้อยสุดท้ายแล้ว เธอเองก็ยอมรับความจริงและปล่อยวางอดีตได้เหมือนกัน การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถทำงานที่ตัวเองชอบ ดังนั้น เธอจึงอยากให้ซุซูรุได้เป็นผู้กำหนดความฝันของตัวเอง เพราะเชื่อว่าหากเราเป็น 'ผู้เลือก' แล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็คงไม่เสียใจเท่ากับการใช้ชีวิตทำตามความคาดหวังของคนอื่นร่างกายของเรามีความทรงจำ หากได้รับการกระตุ้น อาจช่วยให้ความทรงจำกลับคืนมาได้ในซีรีย์ เราค่อย ๆ เห็นการประกอบร่างของจิ๊กซอว์ชิ้นที่หายไป ไม่ว่าจะด้วยความตั้งหรือไม่ตั้งใจ ดอกไลแลคที่ฮารุมิจิทิ้งไว้กับโอทาโร่ รสชาติของสปาเก็ตตี้นโปลิตัน ภาษามือที่ใช้คุยกับน้องสาวของฮารุมิจิ เคเบิ้ลคาร์ที่เคยนั่งด้วยกัน ภาพทิวทัศน์ที่มองจากบนเขา สัมผัสของจูบรสบุหรี่ ...ลึกสุดใจ เชื่อว่าฮารุมิจิเองคงมีความหวังเล็ก ๆ ที่ยาเอะจะกลับมาจำเขาได้อีกครั้ง เพราะคนที่เขาคิดถึงมากที่สุดในชีวิตก็คือยาเอะนั่นเองเธอจะเป็นคนที่ฉันรักเสมอ แม้ว่าวันใดวันหนึ่ง ฉันจะไปตกหลุกรักใครก็ตามฉันจะจดจำวิธีที่จะรักเอาไว้เสมอ เพราะเธอคือผู้ที่สอนให้ฉันรู้จักความรักนี้เอง– First Love, Utada Hikaruhttps://www.youtube.com/watch?v=AzAQrNe2tqcฉากที่ยาเอะนั่งฟังเพลงจากเครื่องเล่นซีดีกับซุซูรุ แม้จะพอรู้อยู่แล้วว่าในนั้นน่าจะเป็นเพลง First Love แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ทุกอย่างมันกะทันหันมาก! เพียงไม่กี่ประโยคที่บทเพลง First Love ดังขึ้น จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลไปพร้อมกับยาเอะโดยไม่รู้ตัว เหมือนหมัดฮุกเข้ามาอย่างจัง จุกจนพูดไม่ออก ..เป็นความรู้สึกทั้งตื้นตัน ดีใจ ในที่สุดเธอก็สามารถเรียกชิ้นส่วนที่สำคัญในชีวิตกลับมาได้แล้ว ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจ เสียดาย ..ถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์นั้น ความรักของเด็กทั้งสองคนจะสดใสแค่ไหน ตอนนี้ทั้งสองคนจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นแบบไหน และคิดต่อไปอีกว่า ทุกครั้งที่ฮารุมิจิได้ฟังเพลงนี้ ในใจเขาจะเหงาและเจ็บปวดขนาดไหน เรียกว่าเป็นฉากที่บีบคั้นอารมณ์มากที่สุดในซีรีย์เลยก็ว่าได้ ห้วงทำนองของเพลง First Love เป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่พาทุกอย่างให้กลับมาเข้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ และพาให้เราลุ้นไปกับอีก 1 ตอนที่เหลือว่าเรื่องราวในตอนจบจะเป็นอย่างไรหากไม่ได้พบกับเธอ ฉันคงแค่ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ความหมายของการเกิดมา – Hatsukoi, Utada Hikaruเรื่องราวในตอนสุดท้ายเป็นสิ่งที่ทำให้อบอุ่นหัวใจ ด้วยจดหมายที่ฮารุมิจิทิ้งไว้ในไทม์แคปซูล เป็นการเติมเต็มความสุขของคนดูด้วยการเผยความลับของการพบกัน ‘ครั้งแรก’ ของฮารุมิจิ และยาเอะ ยิ่งทำให้เราเข้าใจคำว่า ‘รักลึกซึ้ง’ มีหน้าตาเป็นอย่างไร เริ่มต้นจากการตกหลุมรัก การเฝ้ามอง การแอบสืบเรื่องราวเกี่ยวกับเธอ การตั้งเป้าหมายและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แม้ว่าฮารุมิจิจะบอกว่ามันเป็นพรหมลิขิต แต่ตัวเขาเองต่างหากที่เป็นผู้เลือกพุ่งเข้าหามันสุดชีวิต“ฉันดีใจที่เธอสบายดีถ้าเราได้พบกันอีก ฉันก็อยากฟังเรื่องราวของเธอบ้าง”นั่นคือข้อความของเขาที่ส่งถึงคนที่เขาคิดถึงสุดหัวใจ เป็นแรงปรารถนาอันสิ้นหวัง ที่อาจจะถูกฝังอยู่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น และมีเพียงเขาคนเดียวที่รู้ความลับนี้ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเราจะเห็นฮารุมิจิเป็นคนวิ่งเข้าหาพรหมลิขิตมาตลอด ในฉากสุดท้ายที่ยาเอะออกเดินทางไปหาฮารุมิจิจึงทำให้รู้สึกตื่นเต้นนิด ๆ และคอยลุ้นไปกับเธอ พอ ๆ กับอยากรู้ว่าฮารุมิจิจะดีใจแค่ไหนเมื่อได้เจอกับ ‘รักแรก’ ของเขาอีกครั้งเสียงเรียก “ฮารุมิจิ” อันคุ้นเคย ..แววตาคู่นั้นที่จดจำเขาได้ ..อ้อมกอดที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความคิดถึงแค่มีเธออยู่กับเขา เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับฮารุมิจิเป็นฉากสุดท้ายที่ประทับใจมาก และเต็มอิ่มไปด้วยความสุขตลอดการเดินทางของทั้งสองคน https://www.youtube.com/watch?v=7U7rb3OXo3c คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหม?การพบเจอกับคนมากมายในชีวิตเรา ไม่รู้เลยว่าใครจะเป็นคนที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตหากไม่มีบอนจิ ..ฮารุมิจิคงไม่รู้ว่านั่นคือคำสารภาพรักของยาเอะหากไม่มีแม่ ..ยาเอะคงไม่มีช่วงเวลา ‘ได้รัก’ และ ‘จากลา’ กับฮารุมิจิหากไม่มีโอทาโร่ ..ยาเอะคงไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง และกล้าเสี่ยงทำตามหัวใจตัวเองหากไม่มีโอโคชิ ..ฮารุมิจิคงไม่รู้วิธีตามหาเสียงของรักแรกจนพบหากไม่มียูตะ ..ยาเอะคงไม่รู้ว่าจะตามหารักแรกของเธอที่ไหนหากไม่มีซึเนมิ ..ฮารุมิจิคงอาจหลงทางอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลก และคงไม่รู้ว่า ลึกสุดใจของเขาไม่มีใครแทนที่ยาเอะได้เลยหากไม่มีซุซูรุ ..ยาเอะคงไม่ได้จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่เรียกความทรงจำกลับคืน#First Love คำสัญญาที่มีเธอเพียงคนเดียวในใจ ..แม้ว่าดวงดาวของเราต้องโคจรห่างกันไกลแค่ไหน จะไม่มีวันลืมเรื่องของเราอย่างแน่นอน แล้วเราจะได้พบกันอีก. เครดิตภาพ :ภาพปก / Instagram : netflixjpภาพประกอบ : [1],[2],[3],[4.1,4.2],[6],[7],[8.1,8.2],[9.1,9.2,9.3],[10],[11],[12],[13],[14.1,14.2],[15],[16],[17],[18.1,18.2],[19] / Instagram : netflixjpภาพประกอบ : [5] / Facebook : Netflix Thailandเครดิตวิดีโอ :วิดีโอ 1 : It’s Laundry Day for Yae | First Love / Youtube : Netflix Philippinesวิดีโอ 2 : 『First Love 初恋』特別映像「初恋」ショート版 - Netflix /Youtube : Netflix Japanวิดีโอ 3 : 『First Love 初恋』特別映像「First Love」ロング版 - Netflix /Youtube : Netflix Japanจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !