รีเซต

ขอบคุณที่ทักท้วง "แอนนา" เคลื่อนไหวทันที หลัง "สรยุทธ" โพสต์ขออภัย ปมเผยแพร่คลิป

ขอบคุณที่ทักท้วง "แอนนา" เคลื่อนไหวทันที หลัง "สรยุทธ" โพสต์ขออภัย ปมเผยแพร่คลิป
TNN ช่อง16
7 มิถุนายน 2565 ( 10:29 )
307

จากกรณีที่มีคลิปจากในสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อมีเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายคลิปวิดีโอขณะไปเชิญตัว "แอนนา" พิธีกรชื่อดัง ไปสน.ทองหล่อ จากคดีหวยทิพย์ ซึ่งเธอได้โพสต์ถึงสิทธิผู้ต้องหาที่ไม่มีอยู่จริง และแชร์โพสต์ในเพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ซึ่งได้ปรากฏคลิปของเธอขณะเดินทางมาถึงประเทศไทย กระทั่งด้านสรยุทธได้นำคลิปดังกล่าวออกไป อีกทั้งล่าสุดในเฟซบุ๊กของ "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" ได้โพสต์ขออภัยแอนนา 


โดยเผยข้อความว่า ขออภัยแอนนา แต่ขอพูดถึง ‘ศาสดาสื่อ’ ตาฝ้า! กรณี ‘แอนนา’ แชร์โพสต์ของผม ขอความเป็นธรรมว่า “ด้วยความเคารพถึงคุณอาสรยุทธ คลิปนี้คุณอาได้มาจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไหมคะ แอนนาขอความกรุณาเจ้าหน้าที่แล้วว่าขอใช้สิทธิ PDPA แต่สุดท้ายแอนนาก็ถูกละเมิดสิทธิตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐจนถึงสื่อใหญ่ ถ้าเป็นตาสีตาสาคนธรรมดาเขาจะปกป้องตัวเองยังไง” 


ภาพจาก Facebook แอนนา


ภาพจาก Facebook แอนนา


ด้วยความเข้าใจความรู้สึกของแอนนา คลิปนี้ได้มาจากระบบข่าวปกติ ซึ่งผมก็เชื่อว่า เจ้าหน้าที่เป็นผู้ถ่ายและนำมาให้สื่อ และเมื่อแอนนาได้ทักท้วงมา ผมก็ลบคลิปดังกล่าวทันที และต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ส่วนประเด็นเรื่อง ‘พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล’ หรือ PDPA ซึ่งบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ในกรณีนี้ เข้าใจว่ายังคงเป็นที่ถกเถียงหรือตีความกันอยู่เรื่องการเปิดเผยภาพหรือชื่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา 


ซึ่งที่แล้วมา ปกติทั่วไปในแวดวงสื่อ ถ้าเป็นกรณีเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นที่รับรู้อยู่แล้ว ก็ไม่มีเหตุจะต้องบังชื่อหรือใบหน้า เหมือนเมื่อครั้งที่แอนนา เคยบอกให้ผมเปลี่ยนรูปในหมายจับที่มีการคาดดวงตา (ซึ่งเป็นภาพจากเจ้าหน้าที่) ให้มาใช้ภาพแอนนาสวยๆ ไม่ต้องคาดตา แต่หากกรณีผู้ต้องหาทั่วไป ก็จะปิดบังใบหน้า (ซึ่งสังคมก็มักจะตั้งคำถามว่าปิดทำไม) ประเด็นของแอนนา ไม่ใช่ประเด็น PDPA แต่เป็นประเด็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์แล้วนำมาให้สื่อ 


ภาพจาก IG sorrayuth9111


และสื่อที่นำมาเผยแพร่ อาจสุ่มเสี่ยงว่าจะเป็นการละเมิดต่อบุคคล ตามมาตรา 29 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน ว่า “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้” ยกตัวอย่างกรณี ตำรวจออกกฎเกณฑ์ ห้ามไม่ให้เอาผู้ต้องหามาแถลงข่าว ก็เพราะหลักตรงนี้ครับ ต้องขอบคุณแอนนาที่ทักท้วง 


และผมยินดีเสมอที่จะรับฟังคำท้วงติง และพร้อมจะแก้ไขบรรเทาความเสียหายโดยทันที เพราะโดยส่วนตัวถือหลักว่า เมื่อได้รับการทักท้วงที่มีเหตุผล ต้องแก้ไข โดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน โดยเฉพาะที่มีผลกระทบต่อบุคคลในคดีอาญา เพราะผมเองก็เคยเป็นผู้ถูกกระทำจากสื่อมาก่อน แต่ได้มีผู้ที่พยายามแสดงความเห็น ประหนึ่งอยากเป็นศาสดาของสื่อ หยิบยกเอาประเด็นนี้ไปนำเสนอ ทำนองว่า พีดีพี? ตม. หรือ แอนนา หรือ สื่อใหญ่ ใครผิดใครถูก


ภาพจาก Facebook สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

ภาพจาก IG sorrayuth9111

กรณีนี้ ขออนุญาต ถถถถถถถถถถถถถถถถ เห็นเป็นผมเท่านั้นแหละ เอาใหญ่ แข็งขันขึ้นมาทีเดียว ทั้งๆ ที่สื่อที่เบิกประจานผู้เสียหายในคดีอาญา ก็มีอยู่มากมาย ร้ายแรงยิ่งกว่านี้ ชัดเจนยิ่งกว่านี้มาก จะเป็นคนเด่นคนดัง หรือ ตาสีตาสา ไปอยู่ไหนมา ถึงไม่เคยเห็น หรือการพาดหัวเหยียดเพศล่ะ ผู้อยากเป็นศาสดาสื่อกล้าไหม ข่าวใส่ร้ายป้ายสีดารา ทำทีพาดหัวตั้งคำถาม “นาง ก.เป็นชู้กับชาวบ้านจริงไหม?” แล้ว นาง ก.ก็เสียหายไปแล้ว 


อยากเป็นศาสดาข่าวจนตัวสั่น แต่ตาฝ้า “…ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้” มีมาก่อน 1 มิถุนายน ตั้งนานแล้วครับ เคยทำอะไรไหมครับ หรือต้องเกิดเฉพาะกับผม แล้วก็ยกให้เป็นสื่อใหญ่ ตีฟูทันทีทันควัน 


ซึ่งหลังจากที่แชร์โพสต์ดังกล่าวไป ด้านแอนนา ได้เข้ามาตอบกลับถึงสรยุทธว่า "แอนนาต้องขอโทษคุณอาด้วยนะคะ ถ้าหนูทำอะไรหรือเข้าใจผิดไป ขอบคุณที่คุณอาชี้แจงและให้ความเป็นธรรมมากๆ ค่ะ" เช่นเดียวกันกับ "หนุ่ม กรรชัย" ได้เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าวเช่นกันว่า "จัดไปครับพี่" 


ภาพจาก Facebook สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

ภาพจาก IG sorrayuth9111