การปะทะแห่งสองยุค: "ราชานรก" เรย์ลี่ ปะทะ "พลเรือเอก" คิซารุ ณ หมู่เกาะซาบอนดี้ หนึ่งในการต่อสู้ที่น่าจดจำที่สุดในโลกของ "วันพีช" คือการเผชิญหน้าระหว่างสองผู้แข็งแกร่งต่างยุคสมัย "ราชานรก" ซิลเวอร์ เรย์ลี่ อดีตรองกัปตันกลุ่มโจรสลัดโรเจอร์ และ "พลเรือเอก" คิซารุ (โบร์ซาลิโน) หนึ่งในสามขุนพลผู้มีอำนาจสูงสุดแห่งกองทัพเรือ การดวลดาบที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันบนหมู่เกาะซาบอนดี้แห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงพลังอันน่าทึ่ง แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางรอดพ้นจากวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่หลวงที่สุด รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ฉากเปิดม่านแห่งการต่อสู้: วิกฤติของกลุ่มหมวกฟาง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางกำลังตกที่นั่งลำบากอย่างที่สุด หลังจากที่ลูฟี่ได้ทำร้ายชาวมังกรฟ้า (เท็นริวบิโตะ) ซึ่งถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและสั่นคลอนอำนาจของรัฐบาลโลก ส่งผลให้กองทัพเรือส่งกำลังระดับสูงสุดเข้ามาจัดการทันที นำโดยพลเรือเอกคิซารุ พร้อมด้วยแปซิฟิสต้า (กองทัพมนุษย์ดัดแปลง) และเซ็นโตมารุด้วยพลังของผลปิกะ ปิกะ หรือผลแสง คิซารุสามารถเคลื่อนที่และโจมตีด้วยความเร็วแสง ทำให้กลุ่มหมวกฟางที่ในขณะนั้นยังขาดประสบการณ์ในโลกใหม่ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิงและใกล้จะถึงจุดจบเต็มที การปรากฏตัวของตำนาน: แสงสว่างในความมืดมิด ในจังหวะที่คิซารุกำลังจะปลิดชีพโรโรโนอา โซโล ด้วยการเตะลำแสงมรณะ "ราชานรก" ซิลเวอร์ เรย์ลี่ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน เขาสามารถสกัดกั้นการโจมตีความเร็วแสงของคิซารุได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พร้อมกับกล่าวประโยคเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความกดดันว่า "อย่าเด็ดหน่ออ่อนที่จะผลิบานทิ้งไปเลย" การปรากฏตัวของเรย์ลี่สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกฝ่าย เขาคือตำนานที่ยังมีลมหายใจ เป็นถึงมือขวาของอดีตราชาโจรสลัด โกล ดี. โรเจอร์ การเผชิญหน้ากันระหว่างเขากับพลเรือเอกคิซารุจึงเปรียบเสมือนการปะทะกันของยุคสมัยเก่าและยุคสมัยใหม่ เพลงดาบสะท้านหมู่เกาะ: แสง ปะทะ ฮาคิ การต่อสู้ระหว่างเรย์ลี่และคิซารุเป็นการดวลดาบที่น่าตื่นตาตื่นใจ คิซารุได้สร้างดาบแห่งแสง "อาเมะ โนะ มุราคุโมะ" ขึ้นมาจากพลังผลปีศาจของเขา ในขณะที่เรย์ลี่ใช้ดาบคาตานะธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้เขาสามารถต่อกรกับพลเรือเอกได้อย่างทัดเทียมคือ "ฮาคิ" เรย์ลี่ได้แสดงให้เห็นถึงการใช้ฮาคิเกราะ ในระดับสูง เขาสามารถใช้ดาบของตนเองปะทะกับดาบแสงของคิซารุได้โดยตรง และยังสามารถสร้างบาดแผลให้กับคิซารุผู้มีร่างกายเป็นแสงได้ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าฮาคิคือหนทางเดียวที่จะต่อกรกับผู้มีพลังสายโรเกียได้ ตลอดการต่อสู้ เรย์ลี่สามารถรับมือกับการโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรงของคิซารุได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าเรย์ลี่จะยอมรับด้วยตนเองว่าด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้สภาพร่างกายของเขาไม่สมบูรณ์เหมือนเก่าและเริ่มมีอาการหอบเหนื่อย แต่ประสบการณ์และฝีมือดาบที่สั่งสมมาตลอดชีวิตก็ยังคงฉกาจฉกรรจ์พอที่จะตรึงพลเรือเอกไว้ได้ ผลลัพธ์และการซื้อเวลา การต่อสู้ของทั้งสองไม่ได้มีผลแพ้ชนะอย่างเด็ดขาด จุดประสงค์หลักของเรย์ลี่คือการ "ซื้อเวลา" เพื่อให้กลุ่มหมวกฟางสามารถหลบหนีไปได้ ซึ่งในท้ายที่สุด บาโธโลมิว คุมะ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและใช้พลังผลปีศาจ "นิคิว นิคิว" ส่งสมาชิกกลุ่มหมวกฟางแต่ละคนกระจัดกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกเพื่อฝึกฝนตนเอง คิซารุเองก็ยอมรับว่าการจะจับกุม "ราชานรก" นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องมีการเตรียมการที่ดีกว่านี้ เขาจึงไม่ได้ไล่ตามไปอย่างสุดกำลังและปล่อยให้การต่อสู้จบลงตรงนั้น สรุป การต่อสู้ระหว่างเรย์ลี่และคิซารุบนหมู่เกาะซาบอนดี้ แม้จะเป็นเพียงการปะทะกันในช่วงสั้นๆ แต่ก็ได้แสดงให้เห็นถึงระดับพลังของตัวละครระดับตำนานในเรื่องวันพีชได้อย่างชัดเจน มันคือการยืนยันว่า แม้กาลเวลาจะล่วงเลยไป แต่เปลวไฟของ "ราชานรก" ยังคงลุกโชนและแข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับอำนาจสูงสุดของกองทัพเรือได้เสมอ และที่สำคัญที่สุด การต่อสู้ครั้งนี้คือการเปิดทางให้ยุคสมัยใหม่ของโจรสลัดอย่างลูฟี่และกลุ่มหมวกฟางได้มีโอกาสเติบโตต่อไปบนเส้นทางสู่การเป็นราชาโจรสลัดในอนาคต ทุกคนสามารถดูวันพีชที่ TrueID ได้ที่ลิงค์นี้ครับ >>>ลิงค์ดูวันพีซ<<< ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านครับ ภาพปก จาก One Piece ภาพประกอบ : 1 2 3 4 จาก One Piece จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !