เดือนเมษายนก็กำลังจะผ่านไปแล้ว ต่อไปเป็นเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ได้ กักตัวอยู่ที่บ้าน เป็นระยะเวลานานเหลือเกิน แน่นอนว่าการแก้เบื่อที่ดีก็คือ การที่หานั่นหานี่มาดู ดูจนปวดหัว ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์เกาหลี หนังเกาหลี ซีรีส์ฝรั่ง หนังฝรั่ง ซีรีส์จีน ซีรีส์ญี่ปุ่น อนิเมะต่าง ๆ มีทั้งแบบฟิน ๆ ให้อินให้จิ้นกันไป แบบบู๊ล้างผลาญ Action! ก็มา แต่จะว่าไปแล้วดูไปดูมา ก็เริ่มจะเบื่อแล้วล่ะค่ะ เปิดเลื่อนดูฟีดข่าวหนังใน Facebook ก็ไม่รู้จะเลือกดูเรื่องไหนดี จนวันหนึ่งเราบังเอิญเจอคลิปอนิเมะ เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เราก็เลยลองเข้าไปดู พระเจ้าช่วย! เป็นอนิเมะแนวตลกคอมเมดี้ เรียกเสียงหัวเราะได้ดีมากเลย ปกติต้องบอกเพื่อน ๆ ก่อนนะคะว่าเราเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดูอนิเมะที่ออกแนวไม่ค่อยจะมีพล็อตเรื่องเท่าไหร่ หรือแนวพวกน่ารักใส ๆ แบบนี้เราก็ไม่ชอบ แต่พอเจอเรื่องนี้เท่านั้นแหละดูตอนแรกแล้วหยุดดูไม่ได้เลยก่อนอื่นเราต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า เราไม่ใช่สาวกอนิเมะ แต่เนื่องด้วยว่างมาก ๆ ก็เลยหาอนิเมะดูซะงั้น! หากเรากล่าวผิดหรือกล่าวไม่ครบในส่วนใด ก็ขออภัยไว้ด้วยค่ะ เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับอนิเมะเรื่องนี้กันเลย ( ไม่มีสปอยล์นะจ๊ะ! ) อนิเมะที่ว่านั่นก็คือ " เทพศาสตร์ซากาโมโต้ " อนิเมะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึง นักเรียนหนุ่มรูปหล่อที่ชื่อว่า “ ซากาโมโต้ ” ที่จะทำอะไรก็ดูดีไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามในชั้นเรียน การแก้ไขปัญหาเวลาโดนเพื่อน ๆ แกล้ง ก็จะเก๊กหล่อดูดีเท่ได้เสมอ จนกลายเป็นขวัญใจของสาว ๆ หลายคน หรือแม้แต่ชายหนุ่มก็ยังแอบปลื้มซากาโมโต้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ มีผู้ชายหลาย ๆ คนอิจฉาเขาและพยายามจะกลั่นแกล้งเขา แต่เขาก็สามารถแก้ไขปัญหาและเอาตัวรอด จากสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ แถมยังดูดีขึ้นมามาก ๆ ในสายตาของสาว ๆ เอาเป็นว่าไม่ว่าใคร ๆ ได้พบเจอซากาโมโต้ ก็จะหลงรักเขาทั้งนั้น อนิเมะเทพศาสตร์ซากาโมโต้ มีด้วยกันทั้งหมด 12 ตอนจ้า ( ตอนที่พระเอกถูกใช้ไปซื้อหนังผู้ใหญ่ก็มีนะ ฮา ฮา ฮา สาย 18+ ต้องดูแล้วละ! )อนิเมะเรื่อง " เทพศาสตร์ซากาโมโต้ " ถือว่าเป็นอนิเมะที่มีความน่าสนใจพอสมควร เริ่มต้นมาด้วยการเปิดเรื่องที่สามารถทำให้เข้าใจได้เลยว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร เป็นเรื่องของใคร และจุดเด่นอีกจุดหนึ่งก็คือ วิธีการที่ตัวละครจะใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ แล้วทำอย่างไรให้ผลลัพธ์ออกมาได้ดีมากที่สุด เราชอบมาก ๆ ตรงวิธีการแก้ไขปัญหานี่แหละ! มันทำให้เราได้ อุทาน!!! ออกมาว่า " แบบนี้ก็ได้หรอ! " " มันใช่หรอ! " " หลบแค่นี้ก็ไม่เห็นแล้วหรอ! " " มนุษย์เราจริง ๆ คงจะไม่สามารถไต่กำแพงได้เหมือนจิ้งจกหรอก! " " ใช้หลอดเป่าหูตัวร้ายแค่นี้ตัวร้ายก็ยอมแล้วหรอ! " และอีกอื่น ๆ มากมายค่ะเพื่อน ๆ เราไม่อยากจะโม้ มันเหลือเชื่อมาก ๆ ตรงนี้ล่ะค่ะที่ทำให้หัวเราะก๊าก!!!!! ออกมาเลย ทำให้ได้รอติดตามว่าตัวของซากาโมโต้ จะทำอะไรแปลก ๆ ออกมาให้เราได้เห็นวิธีแปลก ๆ ที่เราคาดไม่ถึง นี่ล่ะค่ะเสน่ห์ของเรื่องนี้ ( ฮา ฮา ฮา ) นอกจากนี้ข้อดีของอนิเมะเรื่องนี้อีกอย่างก็คือ เป็นอนิเมะที่สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของโรงเรียน อย่างเช่นในตอนที่ 2 ซึ่งมีเด็กสาวคนหนึ่งที่อยากได้ซากาโมโต้เป็นแฟน และพยายามใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อที่จะให้ซากาโมโต้สนใจ และอีกหลาย ๆ ตอนที่สะท้อนให้เห็นถึงการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน ที่พบได้ในชีวิตจริง ๆตอนที่เราประทับใจที่สุดนั่นก็คือ ตอนที่ 9 กล่าวถึงเรื่องราวของมุมมองของครอบครัว เป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนของพระเอกที่เป็นคนอ่อนแอ ต้องให้แม่ปกป้องอยู่เสมอ แต่วันหนึ่งเขาอยากจะลุกขึ้นสู้ แต่พอมาถึงวันหนึ่งเขาก็สู้ไม่ไหว ซากาโมโต้ จึงได้สะท้อนให้เขาเห็นถึงเรื่องราวของครอบครัวที่อยู่ด้านหลังเขามาตลอด คอยสนับสนุนดูแลเขามาเสมอ ตอนนี้เราว่าเป็นตอนที่ดีมาก ๆ เลย สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวของครอบครัว เช่นเวลาที่เราเหนื่อยเวลาที่เราท้อ ก็ยังมีพ่อแม่ที่คอยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาเราอยู่เสมอ ถือว่าตอนนี้ดูไปก็ได้เรียนรู้คำสอนไปในตัวด้วย สอนให้รักครอบครัวนั่นเองค่ะ ดูแล้วอบอุ่นหัวใจมาก ๆและอีกฉากที่เราชื่นชอบก็คือ ฉากตอนจบ เพราะว่าสุดท้ายแล้วตัวของพระเอก เหมือนจะต้องย้ายไปที่ไหนสักแห่ง แล้วเพื่อน ๆ ทุกคน ก็ร่วมกันส่งเขา นั่นแสดงให้เห็นถึงว่าทุกคนรักพระเอก และทุกคนเศร้าที่พระเอกต้องจากไป สำหรับข้อเสียของอนิเมะเรื่องนี้ก็คือ การเน้นที่ตัวละครหลักมากเกินไป และการปูเนื้อเรื่องที่เนิ่นนาน ทำให้ดูแล้วอาจจะเบื่อได้ ส่วนตัวละครตัวอื่นไม่ได้มีจุดโดดเด่นอะไรเลย โดดเด่นเพียงแค่ในตอนของตัวเองเท่านั้น ถ้าเกิดเรื่องนี้ไม่มีตัวของพระเอก ก็คงจบ! ไม่ต้องเป็นอนิเมะกันเลยล่ะค่ะ!แต่โดยรวมเราถือว่าเราชอบเรื่องนี้มากนะคะ ให้คะแนนเต็ม 10 เลยค่ะ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่อนิเมะคอมเมดี้ แนวตลกที่ทำให้เราลุ้นว่าตัวของพระเอกจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ แบบเท่ ๆ แบบหล่อ ๆ อย่างไร แต่มันยังสอดแทรกเรื่องราวความรัก การเสียดสีสังคม เรื่องราวของชีวิตนักเรียน ชีวิตครอบครัวมิตรภาพเอาไว้อีกด้วย ตอนแรกเรานึกว่าจะมีแต่เสียงหัวเราะ ไป ๆ มา ๆ ฉากร้องไห้ก็มีเด้อ! ด้วยเหตุนี้นี่เองค่ะเราจึงอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ดูอนิเมะเรื่องเทพศาสตร์ซากาโมโต้ รับรองได้ว่าดูแล้วต้องชอบกันแน่นอนค่ะ หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจจะตามไปดู สามารถไปดู แบบภาคภาษาไทยได้ที่ แฟนเพจ Facebook ที่ชื่อว่า JustMaker Studio ดูแล้วรับรองเรื่องนี้ดีต่อใจแน่นอนค่ะเครดิตภาพที่ใช้ในการประกอบบทความ(1 2 3 4 5 6 7)