13 หนังสยองขวัญ ที่อยากให้ลิ้มรสในวันฮาโลวีน by Kanin The Movie
ดูหนังออนไลน์ หนังผีฮาโลวีน
สำหรับปลายเดือนตุลาคม คงไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่าเทศกาลฮาโลวีนที่เชื้อเชิญให้ทุกคนได้เปิดหนังสยองขวัญดูกันในยามค่ำคืน วันนี้ KANIN THE MOVIE จึงอยากรวมลิสต์หนังสยองมาให้เพื่อนๆ ได้ดูบิวต์บรรยากาศกัน ซึ่งทั้ง 13 เรื่องที่คัดมาก็จะมีความสยองแตกต่างกันไป ตั้งแต่ความสยองเหนือธรรมชาติ สยองแบบมนุษย์ สยองหรรษา และสยองอีกมากมายเพื่อให้มีหลายๆ ตัวเลือกในการตัดสินใจกัน จะมีเรื่องอะไรบ้างมาอ่านกันได้เลยครับ
1. The Conjuring
สองภาพยนตร์สยองขวัญลุ้นระทึกของ เจมส์ วาน ที่เป็นการเปิดจักรวาลคอนจูริ่งให้กับหนังผีเรื่องอื่นๆ ที่ตามมาเพียบ อาทิ Annabelle, The Nun และ The Curse of La Llorona แม้ว่าภาคแรกจะล่วงเลยมา 7 ปีแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า The Conjuring คือหนังที่เบิกทางภาพยนตร์สยองขวัญให้กับยุคใหม่ มันว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัววอร์เรนนักสืบเรื่องลี้ลับ กับเคสสุดสยองที่พวกเขาต้องช่วยกันกำจัดปีศาจร้ายที่กำลังทำลายครอบครัวของเหยื่อ โดยทั้งสองภาคจะพูดในมุมที่แตกต่างกัน ส่วนตัวเราเอนจอยทั้งคู่แต่จะชอบภาคสองก็ตรงที่เราได้เห็นชีวิตของครอบครัววอร์เรนมากขึ้น โดยเฉพาะในมุมที่พวกเขาถูกโจมตี หาว่าเป็นพวกหลอกลวง เป็นมายากล เป็นเรื่องตลก ซึ่งสอดคล้องกับครอบครัวในเรื่องที่กำลังถูกตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วพวกเขากำลังเจอผี หรือแค่สร้างกระแสเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์กันแน่
The Conjuring
The Conjuring 2
2. Final Destination Series
หนึ่งในแฟรนไชส์ที่ใครหลายคนน่าจะดูครบทุกภาคแล้ว Final Destination เล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุสยองขวัญเพราะใครคนหนึ่งในพวกเขาได้เห็นนิมิตถึงการเสียชีวิตล่วงหน้า แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสยองสำหรับเหล่าคนโกงความตาย - นอกจากฉากหายนะในตอนต้นเรื่องจะเป็นเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า Final Destination ทำให้ผู้ชมรู้สึกพารานอยด์กับชีวิตประจำวันของตัวเอง เพราะหนังเต็มไปด้วยเหตุการณ์สยดสยองที่สามารถเกิดขึ้นได้จากเรื่องใกล้ตัว จนไม่แปลกใจหากใครดูจบแล้วจะไม่กล้าทำอะไรไปชั่วขณะ , ส่วนตัวชอบภาค 2 กับ 5 ในแฟรนไชส์เป็นหลัก ภาค 2 ค่อนข้างเข้มข้นสมจริงสำหรับเรามากๆ และเซอร์ไพรซ์ในตอนท้ายที่ไปไกลกว่าที่คิด ส่วนภาค 5 แม้ว่าจะล้ำไปไกลมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนจบโคตรเจ๋ง ปิดแฟรนไชส์อย่างสมบูรณ์ (แต่เชื่อเถอะว่าสักวันหนึ่งมันจะทำอีก)
3. Paranormal Activity
แฟรนไชส์สยองขวัญชื่อดังที่กลายเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของหนัง Found Footage ยุคใหม่ Paranormal Activity เล่าเรื่องราวของปรากฎการณ์ลี้ลับที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่ง โดยพวกเขาเลือกจะบันทึกภาพพื้นที่ในบ้านของตัวเองเพื่อหาความจริงว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ โดยหนังใช้ทุนสร้างเพียง 10,000 กว่าดอลลาร์ฯ แต่สามารถกวาดรายได้ไปมากถึง 193 ล้านเหรียญทั่วโลก ทำให้หนังถูกสานต่อออกมาอีก 5 ภาค พร้อมๆกับภาพยนตร์ Found Footage ทุนต่ำอีกมากมายที่มีทั้งประสบความสำเร็จ และเจอกับความล้มเหลว - เชื่อว่าภาคแรกน่าจะเปิดประสบการณ์ให้กับใครหลายคน และถ้าใครชอบแนวๆนี้ก็อยากแนะนำให้ดู The Blair Witch Project ด้วย เรียกได้ว่าเป็นบิดาแห่งหนัง Found Footage งานดิบสุดขีด สยองสุดขั้ว
Paranormal Activity 2
Paranormal Activity 3
Paranormal Activity 4
4. The Cabin in the Woods
ภาพยนตร์สยองขวัญลี้ลับที่เราไม่อยากให้คุณรู้พล็อตอะไรเลย (และถ้าคุณได้อ่านโพสต์นี้โดยที่ไม่รู้ว่าเรื่องมันเกี่ยวกับอะไร ถือว่าคุณโชคดีมาก) คร่าวๆก็คือ The Cabin in the Woods ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่เดินทางไปพักร้อนก่อนจะเจอกับเรื่องประหลาดที่ไม่คาดคิด ฟังแค่นี้อาจจะดูธรรมดา แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่แบบนั้น นี่คือหนังสยองขวัญที่เราชอบและสนุกมากๆ ในยุค 2010’s เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ และความทะเยอทะยานอันไร้ขีดจำกัด ยิ่งถ้าคุณเป็นแฟนหนังสยองขวัญคุณจะเพลิดเพลินไปกับการคารวะสารพัดสิ่งในเรื่องนี้ แต่นั่นแหละครับ ดูได้เลย ไม่ต้องรู้ไรไปมากกว่านี้
5. It Chapter 1 และ 2
เหมือนยุคนี้หนังสยองขวัญกับเด็กจะกลายเป็นของคู่กัน มีหลายๆเรื่อง หรือกระทั่งหนังสยองขวัญเก่าก็ถูกนำมาทำใหม่ในสไตล์ของเด็กปะทะปีศาจ (แบบโหดๆ) หลายๆคนอาจนึกถึง Stranger Things แต่ก็ไม่ควรลืม It ฉบับใหม่ด้วยเช่นกัน นี่คือหนึ่งในผลงานหนังจากนิยายของ สตีเฟ่น คิงส์ ณ ยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จมากๆ หลายๆคนอาจจะรู้จักกับเจ้าเพนนิไวส์แต่ก็ไม่เคยดูหนังของมัน จนกระทั่งเขาเอากลับมารีบู๊ดในเวอร์ชั่นใหม่ที่ผสมผสานความเป็นหนังโมเดิร์นเข้าไป ผลลัพธ์คือดีมากๆ หนังใช้เส้นเรื่องสยองขวัญมาเป็นแกนสำคัญในการก้าวข้ามผ่านพ้นวัยของตัวละคร และดำเนินไปสู่ Chapter 2 ที่พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ยังไม่หลุดพ้นจากบาดแผลในอดีตของวัยเด็ก ทั้งสองภาคเป็นหนังสยองขวัญที่สนุก สร้างสรรค์ เต็มไปด้วยวิชวลเจ๋งๆ ที่เป็นภาพจำ รวมถึงการแสดงที่น่าประทับใจของใครหลายคน
It Chapter 1
It Chapter 2
6. The Shining และ Doctor Sleep
The Shining คือผลงานสยองขวัญขึ้นหิ้งของ สแตนลีย์ คูบริก ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวที่เดินทางไปยังโรงแรมอันห่างไกลก่อนจะได้พบกับเรื่องราวประหลาด เมื่อมีพลังบางอย่างที่ครอบงำพ่อให้กลายเป็นคนก้าวร้าวรุนแรง และสร้างภาพนิมิตหลอนให้กับลูกชาย ทุกอย่างเริ่มตึงเครียด บ้าคลั่ง จนนำไปสู่จุดแตกหักเมื่อพ่อได้กลายเป็นคนบ้าไล่ฆ่าครอบครัวตัวเอง - แน่นอนว่าหลายๆคนน่าจะเคยผ่านงานคลาสสิกเรื่องนี้กันมาบ้าง หนังสยองขวัญที่กลายเป็นต้นแบบให้กับหนังหลายๆเรื่องจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งถูกสานต่อเรื่องราวใน Doc-tor Sleep ที่พูดถึงชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของลูกชายที่ต้องเดินทางไปช่วยเหลือเด็กสาวที่มีพลังบางอย่างเหมือนกับเขา แม้ทั้งสองเรื่องจะมีบรรยากาศแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ และเราอยากให้คุณดูมากๆ
Doctor Sleep
7. Funny Games
หนังทริลเลอร์จิตวิทยาของ ไมเคิล ฮาเนเก้ เรื่องนี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีผี มีเหตุการณ์ลี้ลับ แต่ก็ทำให้คุณสยองได้เช่นกัน Funny Games เล่าเรื่องราวของครอบครัวที่ได้เข้าไปพัวพันกับพี่น้องเพื่อนบ้านที่ค่อยๆ แสดงพฤติกรรมประหลาดจนนำไปสู่การจับขัง ทรมาน กลายเป็นฝันร้ายไร้สิ้นสุดของครอบครัวบริสุทธิ์ครอบครัวนี้ - ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นต้นฉบับ หรือล่าสุดของอเมริกา (ที่รีเมคกันแบบช็อตต่อช็อตเลย) Funny Games คือหนังที่น่าสนใจในการพูดถึงความรุนแรง หนังวางสถานะของตัวเองเป็นเกมที่กำลังเล่นตลกกับผู้ชม ความรุนแรงที่กลายเป็นความบันเทิง ความรุนแรงที่ทำให้เรารู้สึกพึงพอใจ การทำลายกำแพงที่สี่ของหนังเลยกลายเป็นสิ่งที่สุดยอดมากๆ และสำหรับเรามันคือความสยองขั้นสุดที่ติดอยู่ในใจมาจนถึงวันนี้ ใครที่ได้ดูแล้วคงจะฝังใจกับฉากรีโมทไปอีกนานเหมือนเรา
8. Don't Breathe
ภาพยนตร์ระทึกขวัญคอนเซ็ปต์ดีที่ว่าด้วยเรื่องของวัยรุ่นสามคนที่ต้องการจะบุกขโมยบ้านชายชราตาบอดคนหนึ่งโดยไม่รู้เลยว่าเขาไม่ได้ไร้ความสามารถอย่างที่คิด - หนังมีพล็อตง่ายๆ แต่สามารถพาผู้ชมไปสู่สถานการณ์ที่ตึงเครียดได้อย่างสร้างสรรค์ โจทย์ตาบอดของตัวละครชายแก่กลายเป็นไอเดียที่นำไปสู่การไล่ล่าในความมืด ตัวละครต้องงัดจุดแข็งออกมาสู้กับจุดอ่อนของอีกฝ่ายซึ่งทั้งสองต่างมีแตกต่างกัน สำหรับเรานี่คือหนังทริลเลอร์ที่สนุก สามารถใช้คอนเซ็ปต์ของตัวเองนำเสนอได้อย่างแข็งแรง แม้ว่าหลายๆประเด็นในเรื่องเราจะไม่ซื้อ แต่ก็ถือว่าเป็นหนังระทึกที่น่าประทับใจเรื่องหนึ่งในยุคนี้เลย ใครยังไม่ได้ชมเราแนะนำครับ ซีนมองไม่เห็นนี่กลั้นหายใจตามของจริง
9. Event Horizon
ภาพยนตร์ไซไฟสยองขวัญจากผู้กำกับ พอล ดับเบิ้ลยู.เอส. แอนเดอร์สัน แห่ง Resident Evil ว่าด้วยเรื่องราวในอนาคตของลูกเรือหน่วยกู้ชีพที่ได้ค้นพบยานอวกาศที่ครั้งหนึ่งมันเคยหายไปในหลุมดำ แต่ตอนนี้มันได้กลับมาอีกครั้ง พวกเขาได้เดินทางไปเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตแต่กลับได้พบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่คนอาศัยอยู่ในยานลำนี้ - แม้ว่าหนังจะมีความเป็นไซไฟอวกาศแต่จริงๆแล้ว Event Horizon คือหนังบ้านผีสิงที่เกิดขึ้นในอวกาศเลย หนังพูดถึงศาสนา นรก ผสมกับเรื่องของอวกาศ ดินแดนที่มนุษย์ไม่ล่วงรู้ แม้ว่าหนังจะโดนนักวิจารณ์สับเละ แต่สำหรับเรานี่คืองานที่ดีมากๆของ พอล ดับเบิ้ลยู.เอส. แอนเดอร์สัน อาจจะไม่ได้ถึงกับยอดเยี่ยม แต่ก็สามารถมอบความสยองได้สุดทางจริงๆ โดยเฉพาะฉากนั้น
10. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ
หนึ่งในที่สุดของภาพยนตร์สยองขวัญไทยที่ทุกวันนี้ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่ หรือว่ากันง่ายๆ คำว่าชัตเตอร์ที่เป็นชื่อหนังก็กลายเป็นคำทับศัพท์ที่ใช้ในการอธิบายถึงการถ่ายติดบางสิ่งที่ผิดปกติไปด้วยเช่นกัน (ซึ่งความจริง Shutter ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น) สำหรับเรา ชัตเตอร์ฯ เป็นงานที่ออกมาสมบูรณ์ในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะในด้านของความสยองขวัญ บทภาพยนตร์ งานสร้าง และอื่นๆ เป็นหนังที่ถ้าเอากลับมาดูทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันเจ๋ง เต็มไปด้วย execution หนุกๆ ซีนน่าจดจำ แม้ปัจจุบันการถ่ายภาพติดผีจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลายเป็นหนึ่งในสถานการณ์ทั่วไปของหนังผี แต่มันก็ไม่ใช่ในแบบเดียวกับที่ชัตเตอร์ฯ นำเสนอ หากใครยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ แนะนำมากๆครับ เพราะอีกไม่นานเราก็จะได้ดูหนังสยองขวัญเต็มตัวในรอบหลายปีของ โต้ง บรรจง ครับ
11. Unfriended
หนึ่งในภาพยนตร์ที่เราชอบโดยส่วนตัว แม้ว่าการนำเสนอของ Unfriended จะมีความเป็นหนัง Found Footage แต่ถูกนำเสนอผ่าน Desktop คอมพิวเตอร์ (ซึ่งในช่วง 2010’s มีเยอะมาก) หนังเล่าเรื่องของกลุ่มเพื่อนจำนวนหนึ่งที่กำลัง Skype กัน แต่อยู่ๆก็พบว่ามี User ประหลาดเข้ามาร่วมแชทด้วย โดยพวกเขาเชื่อว่านี่คืออดีตเพื่อนที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายไปเมื่อปีที่แล้วหลังถูกใครคนหนึ่งกลั่นแกล้งในโลกอินเทอร์เน็ต ในส่วนของภาค 2 หนังเล่าอีกเรื่องราว และเป็นอีกประเด็น เพราะในภาคนี้จะพูดถึงด้านมืดของอินเทอร์เน็ตที่คนจำนวนหนึ่งได้เข้าไปพัวพัน หลังชายหนุ่มเจอแล็ปท็อปตัวหนึ่งถูกทิ้งไว้ก่อนจะนำมาใช้เองที่บ้านโดยไม่รู้เลยว่ามันกำลังนำอันตรายมาสู่ตัวเขา และเพื่อนคนๆอื่น - หนังหยิบเอาโลก Social Media ที่เราคุ้นเคยมานำเสนอในรูปแบบระทึกขวัญสมจริง เปิดเผยให้เห็นผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงของหลายๆสิ่ง ตั้งแต่เรื่องธรรมดาที่เราไม่สนใจ จนถึงอาชญากรรมที่กลายเป็นเครือข่ายยักษ์
12. A Cure of Wellness
ภาพยนตร์สยองขวัญแฟนตาซีจากผู้กำกับ กอร์ เวอร์บินสกี้ จากแฟรนไชส์ Pirates of the Caribbe-an ว่าด้วยเรื่องราวของชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นที่ถูกบริษัทส่งตัวไปยังสถานบำบัดอันห่างไกล เพื่อนำตัวประธานบริษัทกลับมา แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวลี้ลับชวนสยองหลังเขาประสบอุบัติเหตุจนต้องติดอยู่ในสถานบำบัดแห่งนี้ - แม้ว่าหนังจะไม่ได้ประสบความสำเร็จ แต่นี่คืองานคุณภาพที่ Underrated มากๆ เรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะงานสร้าง และความเป็น Original ของมันที่คู่ควรแก่การได้ลองชมสักครั้ง หนังมีความจัดหนักจัดเต็มในการนำเสนอสิ่งต่างๆ ซึ่งเราชอบความไม่ประนีประนอมนี้ แม้โดยรวมเนื้อเรื่องจะไม่ได้สุดยอด แต่ก็ถือว่าเป็น 2 ชั่วโมงครึ่งที่น่าประทับใจ และเพลิดเพลินไปกับงานศิลป์อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ
13. The Purge Series
ฟิล์มซีรีส์ที่ใครหลายคนน่าจะรู้จัก The Purge เล่าเรื่องราวในโลกอนาคตอันใกล้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแต่งตั้งให้วันๆหนึ่งประชาชนสามารถกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายได้ โดยพวกเขาเรียกมันว่าคืนล้างบาป เพื่อให้ประเทศได้ถือกำเนิดใหม่อีกครั้งในเช้าวันถัดไป โดยรัฐบาลเชื่อว่าการมีวันดังกล่าวจะทำให้อัตราอาชญากรรมน้อยลง รวมไปถึงอัตราการว่างงาน โดยในแต่ละภาคหนังจะพาเราไปสำรวจมุมมองที่แตกต่างกันต่อไป ขยายสเกลมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน จนถึงการเมือง ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบภาคสองเป็นพิเศษเพราะตอนจบเท่มากๆ แต่จริงๆใครที่ชอบหนังทำนองนี้ก็ควรดูทุกภาคเลยฮะ
The Purge 1
The Purge 2
-------------------------------------
🗲 รีวิวหนังชนโรง เกาะติดเทรนด์หนัง-ซีรีส์ใหม่ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลยที่นี่!! 🗲
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/2RDrg8O