“เก๋ไก๋ สไลเดอร์” เผยสาเหตุ “พ่อมงคล” เสียชีวิต เมินดราม่าไม่อยู่กับพ่อ

“เก๋ไก๋ สไลเดอร์” เผยสาเหตุ “พ่อมงคล” เสียชีวิต เมินดราม่าไม่อยู่กับพ่อ
หลังจากมีการแจ้งข่าวการเสียชีวิต “คุณพ่อมงคล” พ่อของนางเอก ยูทูบเบอร์สาว “เก๋ไก๋ สไลเดอร์” หรือ “เก๋ไก๋ ณัฐธิชา” ขณะอยู่บ้านพักที่จ. อำนาจเจริญ ก่อนจะนำร่างมาทำพิธีที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน กรุงเทพมหานคร
และก่อนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม นางเอกสาว “เก๋ไก๋” ได้เปิดเผยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ “คุณพ่อ” ว่า…
“คุณพ่อป่วยเป็นโรคเกาต์อาการจะมาในช่วงที่พ่อกินของอร่อย ทำให้ปวดตามข้อ ส่วนโรคประจำตัวอย่างอื่นไม่มี แต่ที่เห็นเป็นหนักมากก็คือโรคเกาต์ เขาเป็นคนรักอิสระมากๆ ช่วงที่อยากจะพาพ่อไปรักษา แต่เขารู้สึกว่าเขาอยากรักษาด้วยตัวเขาเอง
เขาก็จะโทรมาคุยอยากได้อะไรก็จะโทรมาบอก หนูไม่รู้จะช่วยพ่อยังไง เพราะช่วงที่รู้ว่าพ่อป่วยหนูเพิ่งอายุ 17 เริ่มเข้าแคสต์งานต่างๆ ยังไม่มีความสามารถอะไรที่จะมีเงินรักษาพ่อได้ในตอนนั้น อาการหนักแต่ว่าคุณพ่อก็ยังเดินได้และใช้ชีวิตปกติได้ ตอนที่พ่อมาอยู่กับทางญาติฝั่งแม่ เขาก็จะขับมอเตอร์ไซค์ไปกินของที่เขาชอบและได้อยู่ในที่ธรรมชาติ
เรื่องการทานยาคุณพ่อก็ทานยามาเป็นเวลานานแล้ว ที่ผ่านมาได้มีการโทรคุยกับคุณพ่อบ้าง วันไหนไปที่อำนาจเจริญก็จะไปหาพ่อเหมือนกัน ตอนแรกหนูคิดว่าพ่อป่วยจากโรคแล้วเสียชีวิต แต่จริงๆ ไม่ใช่พ่อเกิดอุบัติเหตุพ่อกำลังจะถอดเสื้อ แล้วมีรอยแผลที่หัวคือเขาน่าจะล้มฟาดกับเตียง ตอนนั้นหนูอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นวันที่หนูไปร่วมแสดงความเสียใจกับพี่ๆ นักแสดงช่อง
แล้วก็มาทราบว่าคุณพ่อเสียชีวิตวันที่ 12 เพราะทางโรงพยาบาลและตำรวจโทรมาบอกเวลาคุณพ่อเสีย แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าพ่อได้จากไปแล้ว มารู้ก็ตอนที่พี่ไปรษณีย์ไปส่งของแล้วไม่มีการตอบ จนผ่านมาสองวันพี่ไปรษณีย์คนนี้ก็ไปหาอีกทีแล้วก็ได้ไปตามญาติๆ มาจนมาเจอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คุณพ่ออยู่คนเดียวในบ้าน แต่ว่ารอบๆ จะมีเพื่อนบ้าน หลังจากที่ย่าโทรมาบอกพี่ชายก็เดินทางไปรับร่างคุณพ่อมาที่กรุงเทพฯ เพราะว่าคุณพ่อเกิดและโตที่กรุงเทพฯ ตลอด เพียงแต่ว่าในช่วง 5ปีที่ผ่านมาคุณพ่อได้ไปใช้ชีวิตในที่ๆ เขาอยากอยู่คือที่ๆ เป็นธรรมชาติ ซึ่งบ้านตรงนั้นก็เป็นบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านของคุณยาย
ข้างหลังเป็นภูเขาข้างหน้าเป็นแม่น้ำ แล้วเขาก็มีมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ขับรถไปทำอะไรที่เขาอยากทำ เราเห็นด้วยที่เขาไปใช้ชีวิตแบบนั้น แล้วก็ขอพ่อว่าถ้าหนูจะอยู่กับพ่อตลอดแล้วจะหาเงินได้จากที่ไหน หนูต้องทำหน้าที่ของหนูให้ดี ตอนนั้นก็เป็นช่วงชีวิตที่หนูกำลังเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงก็เลยขอให้พ่อในอยู่ที่ๆ มีคนดูแลพ่อ แต่พ่ออยากอยู่อิสระ เพราะเขารักสันโดษ
ถามว่าตอนนี้มีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจอยู่ไหม หนูรู้สึกว่าวันที่พ่อไปเราไม่รู้และไม่ได้อยู่ข้างเขาตอนนั้น รู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเจ็บ หนูให้กำลังใจตัวเองว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องเจ็บปวดกับโรคเพราะเขาเคยบอกว่าเขาอยากหาย แต่หนูไม่รู้ว่าจะช่วยให้เขาหายยังไง
ส่วนดราม่าต่างๆ ที่เข้าใจเราผิดในหลายเรื่องก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะเข้าใจในแบบของตัวเขาเพราะมันเป็นเรื่องจริงที่หนูไม่ได้อยู่ในวันที่พ่อเสียแต่ที่ผ่านมาเราก็ทำหน้าที่ของตัวเองมาอย่างดีที่สุดโดยตลอด ใครๆ ก็อยากอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว พ่อสอนให้หนูตั้งใจเรียน อย่างน้อยเราได้ช่วยในแบบของเรา พ่อได้มอบพลังนี้ให้กับหนู สิ่งที่คนเข้าใจผิดจริงๆ หนูไม่ได้อ่านมาก แล้วแต่คนจะคิดเลย แต่ว่าคนรอบๆ ตัวเขาเข้าใจก็พอ พี่ชายก็เป็นห่วงเพราะมีน้องสาวคนเดียวเขาก็ทำเต็มที่ในรูปแบบของพี่เท่าที่เขาจะทำได้ เขาก็รู้ว่าเราทำอะไร เราก็รู้ว่าเราทำอะไรอยู่
มันเป็นช่วงที่พ่อได้อยู่อย่างอิสระแล้ว ตอนนี้พ่อได้หลับสบายที่สุดแล้วในชีวิต ก็ขอให้พ่อได้หลับสบาย แล้วหนูก็จะได้ส่งของกินที่อร่อยให้พ่อโดยที่พ่อไม่ต้องเจ็บป่วย
พ่อเป็นห่วงอะไรเรามากที่สุด คิดว่าพ่อก็คงรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยเนอะ เพราะอาจจะไปรออยู่ที่ดาวดวงอื่น เขาก็คงภูมิใจที่เราสามารถดูแลตัวเองได้
หนูขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปเพราะว่าพ่อได้ให้พลังที่ดีมาแล้วให้เราอยู่ตรงนี้อย่างเข้มแข็ง น่าจะไปลอยอังคารที่สมุทรปราการ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกัน”