เครดิตภาพ Netflixในที่สุดภาค3 ก็มีจริง ๆ ตอนแรกคิดว่าจะจบกันที่ภาค 2 ซะแล้ว เรื่องราวในภาคนี้ก็ตามหลังภาค 2 ครับหลังจากที่ทุกคนได้เงินก็ไปมีความสุขกันแยกกันไปเป็นคู่ ศาสตราจารย์ก็ไปราเกล เดนเวอร์ไปกับโมนิก้า ไนโรบีที่ไม่มีแฟนก็ไปเที่ยวกับเฮลซิงกิเพื่อนสาว และคู่สุดท้ายคือ โตเกียวและริโอ ที่ไปใช้ชีวิตแสนสงบที่เกาะแห่งหนึ่งหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปตามทาง โตเกียว(Ursula Corbero) ที่เปรียบเหมือนเด็กซนก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตที่สงบสุข และได้ตกลงกับริโอ(Miguel Herran) ว่าขอไปเที่ยวแสงสีเสียงบ้าง แต่กระนั้นทั้งสองก็ยังติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ดาวเทียมและต้องพยายามเปลี่ยนซิมการ์ดทุกครั้งหลังคุย แต่สุดท้ายก็พลาด ตำรวจที่พยายามตามตัวทีมปล้นโรงกษาปณ์ก็ยังคงตามรอยของพวกเขาอยู่ ทำให้ริโอถูกทางการจับตัวไป โตเกียวรู้สึกผิดมากจึงขอร้องให้ศาสตรจารย์กลับมาวางแผนช่วยริโอเครดิตภาพ NetflixในSS3 หนังยังมีคอนเซปต์ในการปล้นเช่นเคยครับ แต่ไม่ได้ปล้นเพื่อเงินทอง แต่เป็นการปล้นเพื่อช่วยเหลือริโอ ที่ถูกตำรวจจับทรมานอย่างไม่เป็นธรรม ภาคนี้มีตัวละครมาเยอะเลยครับ หัวหน้าทีมปล้นจากเดิมคือเบอร์ลินที่ตายไปในภาคก่อนก็ได้ ปาร์เลโมมาแทนที่ ส่วนราเกลและโมริก้าที่หลงรักโจรในตอนที่แล้วก็กลับมาร่วมทีมปล้นในcodename ลิสบอร์น และ สต็อคโฮล์ม ในช่วงแรกอาจจะมีความน่าเบื่อไปบ้างเพราะหนังจะเผยให้เห็นชีวิตของทุกคนหลังปล้น ภาคนี้ศาสตราจารย์ต้องรวบรวมสมาธิและใช้ไอเดียเทคนิคการคิดของ “เบอร์ลิน” พี่ชายของเขา เพื่อนำมาต่อรองในการขอตัวริโอคืน แน่นอนครับว่าตำรวจยอมคืนตัวให้เพราะมีบางอย่างแอบแฝงมากับตัวริโอด้วย แต่ว่าด้วยแผนการที่ไม่ได้ถูกเตรียมการมาอย่างดี ทำให้ภาคนี้เราจะได้เห็นศาสตรจารย์ได้เหงื่อตกและเจอทางตันหาทางออกไม่ได้กันบ้างละ เพราะสารวัตรคนใหม่ที่เข้ามารับผิดชอบคดีนี้เธอแสบไม่เบาและทำให้ศาสตราจารย์หลงกลเจอภาวะจิตตกในแผนที่เธอวางไว้เครดิตภาพ Netflixเมื่อแผนที่วางไว้มีเป๋ออกนอกทาง หลายคนเริ่มสติแตก แต่มีสมาชิกในทีมปล้นอยู่ 1 คน ที่ยังสามารถควบคุมอารมณ์และสติได้อย่างดี “ไนโรบี” ที่ตอนนี้มีแฟนคลับเยอะขึ้นหลังจากภาค 3 การแสดงของเธอมีเสน่ห์ เธอแทบจะเป็นศูนย์กลางการยึดเหนี่ยวจิตใจทุกคนในยามคับขันได้เป็นอย่างดี ไม่เหมือนหัวหน้าทีมอย่างปาร์เรโมที่บอกได้เลยว่าใช้อารมณ์ลูกเดียวและตัวละครตัวสุดท้ายที่สร้างสันและความยียวนกวนบาทามาตั้งแต่ 2 ภาคแรกอย่าง อาร์ตูโร โรมัน ที่ภาคนี้อยากจะรับบทฮีโร่โดยการพุ่งตัวเข้ามาในธนาคารกลางเพื่อที่จะพยายามทำตัวเป็นฮีโร่ แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่เป็นตัวละครที่สร้างสีสันได้เป็นอย่างดีครับ แต่จะมีปมดราม่าเล็ก ๆ กับสต็อคโฮล์ม( ก็โมนิก้าจากภาค1-2) ทำให้แฟนใหม่อย่างเดนเวอร์ที่อารมณ์ร้อนและถูกอาร์ตูโรยั่วยุได้ง่าย ระเบิดอารมณ์ไปซัดหน้าโรมันซะแหกยับ ซวยซ้ำอีกเพราะสต็อคโฮล์มก็ดันมาเพลียกับพฤติกรรมเดนเวอร์ คะแนนเนื้อเรื่อง 10/10 ยังคงทำผลงานได้ดีอย่างจ่อเนื่องสำหรับซีรี่ส์สเปนสุดฮิตเรื่องนี้ แม่ว่าช่วงแรก ๆ จะมีอืดอาดและความน่าหมั่นไส้ของโตเกียวเยอะไปบ้าง แต่ช่วงที่เข้ามาปล้นธนาคารกลางสเปน หนังก็เปลี่ยนจากความอืดอาดในช่วงแรกมาเป็นความลุ้นระทึกกันเต็มเหนี่ยวเครดิตภาพ Netflixข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์1. บางครั้งแผนที่วางก็ไม่ได้จะเดินหน้าไปตามที่เราต้องการเสมอไป ยกตัวอย่างเช่นศาสตราจารย์ที่พยายามวางแผนในแยบยลที่สุดในเวลาอันจำกัดและสถานการณ์ที่บีบคั้น แม้จะมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น ศาสตราจารย์ก็พยายามหาแผนใหม่มาสำรอง ไม่เคยคิดทิ้งลูกทีม2. ความขัดแย้งที่เกิดขี้นท่ามกลางความกดดัน เมื่อแผนผิดไปหมด ศาสตราจารย์ก็แย่มากพอแล้ว ลูกทีมก็ดันมาตีกัน มาแตกกันอีก แต่ยังดีมากที่ยังได้ไนโรบี 1ในทีมปล้นยังเป็นเสาหลักและศูนย์รวมจิตใจได้แม้จะไม่ได้เป็นหัวหน้าทีมปล้นก็ตามยังคงมาตรฐานความสนุกและบันเทิงกันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาคนี้ทุกอย่างจะไม่ได้เป็นไปตามแผนเป๊ะ ๆ เหมือนในภาคแรก แต่ว่าการมีอุปสรรคก็ทำให้เกิดความคิดในการแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าขึ้นมาเครดิตภาพปก Netflix