เป็นหนังไทยจากค่าย GDH กำกับโดย Claire Jirasaya Wongsuput ที่เคยอาศัยอยู่ในแฟลตตำรวจมาก่อน แฟลตที่ถ่ายทำในเรื่องก็เป็นแฟลตที่ผู้กำกับเคยอยู่มาก่อน จึงให้กลิ่นอายและความมาจากชีวิตจริงของผู้กำกับไปด้วย หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย Fairy Kirana Pipityakorn,เอินเอิน ฟาติมา เดชะวลีกุล และ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ซึ่งสามารถเข้าไปรับชมได้แล้วในโรงภาพยนตร์ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ หนังเล่าเรื่องของเด็กสาววัยรุ่นสองคนที่พี่เจนและน้องแอน ที่ทั้งสองคนนี้เติบโตและเล่นด้วยกันในแฟลตตำรวจและสนิทกัน จนกระทั่งการเข้ามาของอาตอง ตำรวจวัย 35 ปีที่เข้ามาทำงานใหม่และอาศัยอยู่ในแฟลตแห่งนี้ ความสัมพันธ์ของพี่เจน น้องแอนจึงเริ่มสั่นคลอนและเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น ความรู้สึกที่ดู สำหรับคนที่เข้าไปดูในโรงหนังเพราะดูจากตัวอย่างแล้วคิดว่าเป็นหนังแนว Girl Love ตอนแรกผู้เขียนก็คิดแบบนั้น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย มันเป็นอะไรที่สะท้อนสังคมและระบบชนชั้นได้จริงและสะเทือนใจมากกว่านั้นแบบที่เราหน่วงและดิ่งไปกับตัวละครในเรื่องได้เลย ในพาร์ทแรกของหนัง หนังก็เล่าไป ไม่มีอะไรมาก แค่เด็กสองคนสนิทกัน เล่นด้วยกัน โตมาด้วยกัน ในขณะที่พาร์ทหลัง หนังจะเล่าเรื่องแบบทำร้ายจิตใจคนดูแบบเนิบๆ เรื่อยๆ นิ่งๆ ช้าๆ แบบ Slow Burn ไม่ได้มีจุดพีคที่กระแทกใจคนดูในครั้งเดียวเหมือนกับเส้นเรื่องหนัง GDH เรื่องอื่นๆทำ แต่มันจะค่อยๆ ช้าๆ ละเมียดละไม ประณีตและละเอียดมากแบบที่ดูจบ เรารู้สึกได้ถึงความหน่วงของหนังแน่นอนว่า มันจะหน่วงได้มากขนาดไหนกัน ว่าด้วยเรื่องของระบบชนชั้นที่แตกต่าง คนหนึ่งอยากอยู่ในแฟลตแห่งนี้ตลอดไป อีกคนอยากทำทุกอย่างเพื่อออกไปจากแฟลตแห่งนี้ ก็เป็นหนังแนว Coming Of Age ของ GDH อีกเรื่องที่เนื้อหาดีมากๆ สิ่งที่ผู้เขียนต้องชื่นชมว่ามันสุดมากๆก็คือการแสดงของน้องเอินเอินที่รับบทเป็นพี่เจนนะ เพราะมันทำให้เราอยากเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้ อยากเห็นเขาออกไปจากแฟลตตำรวจแห่งนี้จริงๆ อยากให้เขาทำตามความฝันของตัวเอง ในขณะที่การแสดงของแฟร์รี่ ผู้เขียนยังไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น และการแสดงของบอย ปกรณ์ ก็มองว่าเป็นการแสดงที่ดีที่สุดในหนังทุกเรื่องที่เขาเคยเล่นเลยนะ เพราะหนังเล่าเรื่องแบบปลายเปิด และมันก็มีบางอย่างค้างๆคาๆแบบที่รอเวลาเฉลยได้แต่หนังก็ไม่เล่าอะไร ก็เหมือนกับชีวิตจริงที่เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่มีทั้งเหตุผล และหาคำตอบอะไรไม่ได้ในเรื่องที่อีกฝ่ายทำ และตัวละครก็ไม่ได้เป็นแบบสูตรสำเร็จของหนังไทยแบบคนรวยเลว คนจนดี แต่มันก็แค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งเลย ที่เราเจอได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เป็นเพื่อนข้างห้อง เป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นคุณลุงที่เดินผ่านแล้วเราซื้อขนมให้และคุยกันจนสนิทกัน เป็นคนที่ดูธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่หลังจากดูจบ ผู้เขียนพบว่ามันสะท้อนประเด็นสังคมได้มากกว่าที่คิด เพราะสุดท้ายคนเราก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อ move on และเคลื่อนไปข้างหน้าอยู่ดี คะแนนรีวิว 9/10 เป็นหนังที่ดูจบแล้วเจ็บและหน่วงมากกว่าที่คิดในความธรรมดาที่บางอย่างในหนังไม่ธรรมดาเลย สำหรับคนที่ชอบ Where We Belong (2019) น่าจะชอบเรื่องนี้ได้ง่ายๆ เพราะหนังมันก็ดูจริงแบบนั้น บทความอื่นๆที่น่าสนใจ รีวิว Wednesday (2022) พบกับความสยองขวัญสุดเพี้ยนของน้อง Wednesday จากบ้าน Addams จากบ้าน Addams รีวิว The Crown Season 5 กลับมาอีกครั้งกับครอบครัวราชวงศ์จากประเทศอังกฤษ รีวิว ANNA (2022) เมื่อเธอต้องโกหกว่าเป็นคนอื่นจนได้ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่ รีวิว Do Revenge (2022) เจ็บลึกกับบาดแผลเหมือนรอยสักของคนที่โดนเพื่อนแกล้งเลยวางแผนซ้อนแผน รีวิว Sky Castle (2018) เสียดสีเรื่องตลกร้ายของวงการการศึกษาประเทศเกาหลีใต้ ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 โดย Major Group รูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย Major Group เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !