หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า พิง ลำพระเพลิง เป็นนามปากกาของเขา จริง ๆ แล้วชื่อของเขาก็คือ ภูพิงค์ พังสอาด เขาเป็นผู้ชายที่มากด้วยความสามารถ เป็นทั้งนักเขียน ผู้กำกับและก็ยังแสดงเองอีกด้วย ที่สำคัญคือเขายังเป็นนักแสดงละครใบ้ที่สร้างเสียหัวเราะให้กับผู้คน แต่มันช่างสวนทางกับชีวิตจริงของเขา ที่ต้องสูญเสียภรรยาซึ่งเป็นที่รักไป จึงทำให้เขานำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ให้เราชม และมียังบทเพลงที่ซึ้งกินใจ ทำให้ใครต่อใครต้องเสียน้ำตาไปตาม ๆ กันภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay >>>link ภาพภาพจาก : Youtube ช่อง นักผจญเพลง Song Hunter >>>link เพลงเพลงแรก คือ เพลงเขียนถึงคนบนฟ้า ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง โคตรรักเองเลย หนังเรื่องนี้เขาได้สร้างขึ้นเกี่ยวกับความรัก ในหนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเขาและภรรยาที่มีปัญหาทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง โดยผ่านตัวละครของรงค์ แสดงโดย อุดม แต้พานิช เป็นสามี และแดง แสดงโดย วิสา สารสาส เป็นภรรยา เพลงประกอบภาพยนตร์ในเรื่องนี้ก็คือ เพลงเขียนถึงคนบนฟ้า เป็นเพลงที่ พิง ลำพระเพลิง ได้ขับร้องด้วยตนเอง ด้วยน้ำเสียงที่สื่อถึงอารมณ์เพลงได้เป็นซาบซึ้ง ทำให้ใครหลาย ๆ อินจนเผลอน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว โดยเนื้อเพลงนี้จะพูดถึงความรู้สึกที่ต้องอยู่คนเดียวเพียงลำพังว่าอ้างว้างและโดดเดี่ยวแค่ไหน การที่เขาอยู่คนเดียวทำให้เขาพึ่งรู้ว่าคนที่สำคัญที่สุดคือภรรยา มันทำให้เขารู้ว่าตัวเองรักและคิดถึงภรรยามากแค่ไหน สำหรับผู้เขียนแล้วเมื่อได้ฟังเพลงนี้ทำให้รู้สึกว่า หลายครั้งที่เรารู้ตัวว่าทำผิดพลาดไปเรามักจะรู้สึกผิดเมื่อว่าที่สายไปแล้ว ถึงแม้ว่าอยากจะแก้ไขในเรื่องราวต่าง ๆ แก้ไขวันข้างหน้าให้ดีขึ้น ทั้งที่ในวันที่เรามีโอกาสทำดีต่อคนที่เรารักเรากลับไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไร กลับมาคิดได้เมื่อวันที่เขาไม่อยู่กับเราแล้ว ทำให้เราต้องรู้สึกเจ็บและเสียใจอยู่ลำพัง สิ่งนี้ก็เป็นเหมือนข้อคิดที่คอยเตือนเราว่า หากเรายังมีโอกาสที่จะมอบสิ่งที่ดีให้กับคนที่เรารัก เราก็ควรทำในวันที่เรายังมีโอกาส ไม่ควรเก็บความรู้สึกดี ๆ นั้นไว้แค่ในใจแล้วหวังว่าขาจะรับรู้ ซึ่งนั่นมันจะทำให้เขารู้สึกว่าเราไม่เห็นคุณค่าของเขา เราควรทำดีที่สุดในเวลาที่มีกันและกันอยู่ ดีกว่าต้องมานั่งรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำในวันที่อยู่ด้วยกัน ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay >>>link ภาพภาพจาก : Youtube >>>link เพลงเพลงที่สอง คือ เพลงความรักทำให้คนหัวขาด ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องคนหิ้วหัว หนังเรื่องนี้เขาได้สร้างขึ้นเกี่ยวความศรัทธา ซึ่งเขาต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกชายให้ได้ เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยเป็นพี่ที่และไม่เคยเป็นสามีที่ดีเลย ซึ่งหนังเรียกนี้ก็เรียกน้ำตาได้ไม่น้อยเลย โดยเนื้อเพลงจะพูดถึงผู้ชายที่ไม่เคยทำอะไรดี ๆ เลยชีวิตมีแต่ความล้มเหลวและทำแต่เรื่องไม่ดีมาตลอดชีวิต ซึ่งเขาขอโอกาสสุดท้ายกับภรรยาเพื่อที่จะกลับตัวจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีก ถึงเขาจะยอมแรกด้วยชีวิตก็ยอมเพลงนี้หากฟังเนื้อหาดี ๆ แล้วก็เป็นเพลงหนึ่งที่สะท้อนสังคมพอสมควร โดยเฉพาะความกดดันของคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อรับผิดชอบภาระภายในครอบครัว ต่อให้ต้องทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมายก็ต้องยอม โดยที่ไม่เคยสนใจและไม่เคยห่วงเลยว่าชีวิตัวเองจะเป็นอย่างไร บางคนอาจมองเหมือนว่าทำอะไรสิ้นคิด แต่หากใครที่ต้องตกอยู่ในสภาวะกดดันที่ไม่สามารถทนมองเห็นลูกเมียหรือคนในครอบครัวต้องลำบากได้ จะเข้าใจว่าความรู้สึกที่มันเข้ามากดดันภายในใจนั้นมันเป็นทุกข์แค่ไหน และเพลงที่ก็ได้เสนอแง่มุมของการทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องว่าสุดท้ายแล้วการทำเลวมันก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม สุดท้ายแล้วคนที่ต้องลำบากและเสียใจก็คือคนในครอบครัว เพลงนี้พยายามแนะนำให้ทุกคนเห็นผลเสียของการคิดและกระทำการอย่างขาดสติ และให้ทุกคนรู้จักใช้สติคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องซึ่งจะทำให้มีผลเสียที่ร้ายแรงตามมาภาพโดย Gabriel Ferraz Ferraz จาก Pixabay >>>link ภาพภาพจาก : Youtube ช่อง นักผจญเพลง Song Hunter >>>link ภาพเพลงที่สาม คือ เพลงเวลาตาย ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เอง ฝันโคตรโคตร เรื่องนี้สร้างขึ้นมาเกี่ยวกับความฝัน ของผู้ชายที่ต้องสูญเสียภรรยาซึ่งเป็นที่รักมากไปจึงทำให้เขาไม่ศรัทธาในความรักอีกเลย และเขายังต้องวิ่งตามความฝันของเขาให้เป็นจริงให้ได้ ในเนื้อหาของเพลงพูดถึงตัวของเขาเองที่เป็นคนเห็นแก่ตัวไม่เคยเห็นคุณค่าของเวลาที่ได้อยู่กับภรรยาของเขา พอมารู้อีกทีมันก็สายไปแล้วเพราะเธอได้จากไปแล้ว เขาจึงแต่คล่ำครวญ โหยหาอยู่แบบนั้น ในเพลงนี้อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนคิดคุณค่าของภรรยาตัวเองมากขึ้นเพลงนี้แสดงให้เราเห็นว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ แต่ถ้าเราไม่เห็นค่าในความรักที่มีเราก็ไม่สามารถรักษาความรักที่ดีไว้ได้ จะเหลือแค่เพียงความเดียวดายที่ทำให้รู้สึกเศร้าเสียใจเท่านั้น คนเราถึงแม้ว่าจะส่องกระจกก็ไม่สามารถมองเห็นว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร เรามักจะคิดว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว แต่สิ่งที่สะท้อนการกระทำของเราคืออาการและความรู้สึกของคู่รักของเราที่แสดงออก มาซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่แสดงออกมาจากความรู้สึกที่เขาได้รับจากเรา หลาย ๆ ครั้งที่เราไม่รู้ใจการแสดงอาการแบบนั้น โดยที่เราก็ไม่เคยได้นึกย้อนกลับเลยว่าเราก็เคยแสดงอาการแบบนั้นออกไปต่อคู่รักของเราเหมือนกัน และที่สำคัญเรามักจะคิดได้ในเวลาที่มันสายไปแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าเราต้องการที่จะทำดีกว่าเดิมมันก็ได้มีโอกาสอีกต่อไป เพลงนี้จึงทำให้เราหากเรารักใครสักคนอย่างจริงใจเราก็ควรใส่ใจในความรู้สึกของเขามากกว่าความรู้สึกของเรา ดีกว่าแสดงความรักเอาใส่ใจในวันที่เขาไม่ได้อยู่กับเราแล้วเป็นยังไงบ้างคะในแต่ละบทเพลงของพิง ลำพระเพลิง ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ แต่ละเพลงล้วนมีความหมายที่ดีลึกซึ้ง ทำให้เราเห็นคุณค่าและความสำคัญของภรรยาที่อยู่เคียงข้างเรามากขึ้น เราควรทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทำให้คนที่เรามีความสุขเพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าเราจะต้องจากกันไปวันไหน ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย เพราะอย่างน้อยเราก็ทำทุกอย่างที่อยากจะทำอย่างดีที่สุดแล้ว เราจะได้ไม่ต้องนั่งมาเสียใจภายหลัง ภาพหน้าปก : ภาพโดย Kari Shea จาก Pixabay >>>link ภาพ