หนังเรื่อง Gangubai Kathiawadi หญิงแกร่งแห่งมุมไบ เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชื่อคังคุที่ถูกแฟนหนุ่มหลอกมาขาย แต่สุดท้ายเธอก็ได้ประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำของกามธิปุระ เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่กำลังดังเป็นอย่างมากในช่วงนี้ เราจึงอยากมาวิเคราะห์ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ให้ผู้อ่านทุกๆคนได้ลองทำความเข้าใจ และปรับใช้กับตนเองกันดูค่ะ*เนื้อหาด้านล่างนี้มีสปอยล์ ถ้าใครยังไม่ได้ดูสามารถไปดูก่อนได้นะคะ ^^1. การที่คุณนิ่ง จะทำให้คุณชนะเมื่อใดที่มีคนพยายามทำให้คุณโมโห ทำให้คุณรู้สึกพ่ายแพ้ จงสงบนิ่ง เพราะการที่แสดงความนิ่งเฉยจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถรู้อารมณ์ของคุณ และยังไม่สามารถรู้ได้ว่าคุณกำลังคิดวางแผนอะไรอยู่หรือไม่ นั่นจึงอาจเป็นการทำให้อีกฝ่ายเกรงกลัวโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยนั่นเอง มากไปกว่านั้น อีกฝ่ายอาจจะรู้สึกไม่สนุกที่สิ่งที่เขาทำไม่สามารถทำอะไรเราได้ ซึ่งข้อคิดนี้ได้มาจากตอนที่คังคุถูกขู่โดยราเซียระหว่างช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เธอไม่ได้มีท่าทีว่าโกรธ หรือเสียใจในตอนที่ราเซียแสดงท่าทีดูหมิ่นเธอ เธอกลับเชิญให้นั่งทานข้าวด้วยกัน และไม่ได้ต่อว่าราเซียเลยด้วย ซึ่งสุดท้ายคังคุก็ได้วางแผนไว้แล้ว เพราะหลังจากนั้นเธอได้เปิดหนังให้ผู้คนเข้ามาดูในวันเดียวกับวันที่ฝั่งตรงข้ามอภิปราย นั่นหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องอภิปรายเก่งกว่าถึงจะชนะได้ เพราะการที่คังคุนิ่งนั้นทำให้เธอสามารถแก้แค้นได้สำเร็จ เธอตั้งใจฟังว่าฝั่งตรงข้ามต้องการที่จะทำอะไร และไปจู่โจมโดยตรงที่จุดนั้นโดยที่ศัตรูไม่อาจไหวตัวทัน 2. จงรู้จักเลือกคบคนตัวคังคุเองก็ได้เจอกับผู้คนมากมาย แต่หนึ่งคนที่เธอสนิท และถือได้ว่าเป็นพี่ชายของเธอนั้น คือ ราฮิม เขาผู้นี้เป็นมาเฟียที่มีอิทธิพล และได้ถูกผู้คนขนานนามว่าเป็นคนมีหลักการ จริงใจ ในตอนแรกนั้น คังคุต้องการที่จะได้รับความยุติธรรมจากการที่เธอถูกทำร้าย คนที่คังคุเลือกที่จะเข้าไปหาเพื่อขอความยุติธรรมนี้ก็คือราฮิม เพราะเธอรู้ว่าคนประเภทนี้ที่มีหลักการ จะยอมช่วยคนที่ต้องการความยุติธรรม ในทางกลับกัน ถ้าคังคุเลือกที่จะไปขอความช่วยเหลือจากคนที่มีอำนาจแต่ไม่มีคุณธรรม เธอจะไม่มีทางได้รับความช่วยเหลือเลย เพราะคนพวกนั้นจะมองว่าสิ่งที่เธอร้องขอ ไม่ได้มีความสำคัญอะไร เพราะฉะนั้นการเลือกคบคนให้ถูกจำเป็นอย่างมาก 3. จงอย่ายอมจำนนต่อโชคชะตาคังคุอาจจะไม่ได้มีโชคชะตาที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนกับคนอื่นๆ เธอถูกหลอกมาขายโดยแฟนของเธอในตอนแรก แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอยอมจำนนต่อชีวิตที่เหลืออยู่ จึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะเดินต่อในอาชีพนี้ เธอตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชื่อ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และเธอก็ยังตั้งความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่จะเป็นผู้นำของเมือง เริ่มวางแผนจากการเป็นผู้นำของซ่อง ทำความรู้จักกับคนที่สามารถช่วยเหลือเธอได้ ช่วยเหลือหญิงสาวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีทางการเมือง วางแผนมาเป็นอย่างดีกับทุกๆอย่างที่เธอทำ นั่นหมายความว่าการที่เธอประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆเข้ามาในชีวิต เสียใจได้ แต่อย่ายอมจำนนต่อมัน 4. จะอยู่หรือจะตายคำพูดนี้เป็นคำพูดที่คังคุได้พูดกับมธุ เด็กผู้หญิงที่ไม่อยากทำงานนี้ ว่าให้เลือกลูกอมสองเม็ดที่เม็ดหนึ่งจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ แต่นั่นหมายความว่าเธอจะต้องยอมทำงานนี้ หรืออีกเม็ดที่เป็นยาพิษที่เธอจะตายทันทีหลังทาน แต่สิ่งที่เด็กคนนั้นเลือกก็ทำให้คังคุตกใจไม่น้อย เพราะว่าเธอยอมเลือกความตายมากกว่าทำงานนี้ และนั่นทำให้คังคุยอมจ่ายเงินเพื่อพาเด็กคนนี้กลับบ้าน และไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมต่อ ถ้าวันใดวันหนึ่งคุณเองก็รู้สึกว่าไม่ต้องการที่จะทำสิ่งที่คุณทำอยู่อีกต่อไป คุณยอมตายมากกว่าที่จะทำสิ่งนั้นต่อ มันหมายความว่าคุณควรที่จะหยุด ชีวิตของเรายังมีอีกหลายอย่างมากมายที่คุณสามารถทำได้ ทุกคนล้วนมีทางเลือก ถ้ามันไปต่อไม่ได้แล้ว จงถอยออกมา 5. เปลี่ยนแปลงท่าที และวาจาตามสถานการณ์จากในเรื่องเราสามารถเห็นคังคุได้ในบุคลิกที่หลากหลาย ซึ่งเธอจะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญ เมื่อยามที่มีคนมาเยี่ยมเธอ เธอจะแสดงท่าทีมีอำนาจ เสียงแข็งกับผู้ที่ทำงานให้เธอเพื่อข่มฝ่ายตรงข้าม ให้เกรงกลัว และเคารพเธอ เมื่อยามที่เธอต้องขอร้องผู้อื่น เธอจะแสดงท่าทีที่ให้เกียรติและเกรงใจ ท่าทีที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามใจอ่อนและสงสาร เช่นตอนที่อยู่กับท่านนายก เธอดื่มน้ำจากจานแทนแก้วเพื่อให้เห็นว่าเธอเจียมตัวและต้องการความเห็นอกเห็นใจ เมื่อยามที่เธอต้องการให้ผู้คนเชื่อมั่นในตัวเธอ เธอจะพูดจาด้วยความมั่นใจ ฉะฉาน ยืนอย่างสง่าผ่าเผย เพื่อแสดงถึงความมั่นคงที่ผู้คนจะสามารถเชื่อใจเธอได้ 6. เป็นคนยิ่งใหญ่ได้จากการเสียสละคังคุถือได้ว่าเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ มีคนมากมายเคารพและนับถือ นั่นเพราะทุกคนเชื่อว่าสิ่งที่เธอทำนั้นก็เพื่อผู้หญิงในกามธิปุระ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เธอทำ คนของเธอ และเหล่าผู้หญิงที่ฝากชีวิตไว้กับเธอนั้นต้องมาก่อน ซึ่งจากในเรื่อง หนึ่งในการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ คือการเสียสละคนรักอย่างอัฟชาน ให้ได้แต่งงานกับหญิงสาวที่มีชื่อว่าโรชนี เพราะเธอไม่ต้องการให้โรชนีมาทำอาชีพนี้ และเพื่อลบคำสบประมาทของผู้คนรวมถึงราเซียที่มีต่อโสเภณี นั่นจึงทำให้เธอต้องการให้ผู้คนได้เปลี่ยนมุมมองต่ออาชีพนี้ ว่าพวกเขาเองก็สามารถมีชีวิตคู่ได้เหมือนคนปกติทั่วไปเช่นกัน และทำให้เธอยอมเสียสละได้แม้กระทั่งคนรักของตนเอง การเสียสละเพื่อผู้อื่นเช่นนี้ ก็สามารถทำให้คุณเองเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน 7. จงเปลี่ยนความกลัวเป็นพลังในตอนแรกคังคุกลัวที่จะมีนโยบายรื้อถอนบ้านในกามธิปุระ เพราะมีเรื่องร้องเรียนจากทางโรงเรียนให้ย้ายออก สิ่งที่ราฮิมได้บอกกับเธอคือ จงเปลี่ยนความกลัวเป็นพลัง การที่เธอกลัวว่าจะสูญเสียบ้านไปนั้น ทำให้เธอกล้าที่จะไปเจรจากับผอ.โรงเรียน ทั้งเรื่องการรื้อถอน และการรับลูกบุญธรรมของเธอเข้าเรียน เมื่อใดที่คุณเองก็เจอกับปัญหา จงเปลี่ยนความกลัวในใจที่มีให้เป็นพลัง นั่นจะทำให้คุณสามารถก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นได้เช่นเดียวกันกับคังคุ ข้อคิดทั้งเจ็ดข้อที่กล่าวไปข้างต้นถูกวิเคราะห์จากมุมมองของนักเขียน แต่ละคนอาจมีการตีความเนื้อหาที่แตกต่างกัน และอาจมีข้อคิดอีกมากมายที่สามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเราหวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยให้ทุกคนนำข้อคิดต่างๆมาปรับใช้ในชีวิตของตนเอง พัฒนาตนเองให้เป็นคนที่ดียิ่งขึ้นในทุกๆวันได้ค่ะ :-) เครดิตรูปภาพภาพปก: NetflixIndia/twitterภาพที่ 1: NetflixIndia/twitterภาพที่ 2: netflix_in/Instagramภาพที่ 3: NetflixIndia/twitterภาพที่ 4: netflix_in/Instagramภาพที่ 5: NetflixIndia/twitter จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !