ข่าวใหญ่..จักรวาลดีซี! ประกาศสร้าง 10 โปรเจกต์ เสริมทัพยุคใหม่-ผู้นำใหม่

ถือว่ามาตามที่สัญญากันเอาไว้ "เจมส์ กันน์" กับ "ปีเตอร์ ซาฟราน" หัวเรือใหญ่คนปัจจุบันของ ดีซี สตูดิโอส์ จักรวาลหนังฮีโร่ยักษ์ใหญ่อีกแห่งของฮอลลิวูด ได้ฤกษ์มาบอกข่าวดีกับการเปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ ๆ ในยุคใหม่ของดีซี ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจนี้ ด้วยโดยเปิดโผ 10 โปรเจกต์ใหม่ให้กับแฟน ๆ ได้ทราบ ตามที่พวกเขาเคยออกปากบอกว่าจะมีการข่าวใหญ่เซอร์ไพรส์ในช่วงต้นปีนี้

เจมส์ กันน์ กับ ปีเตอร์ ซาฟราน ได้นัดรวมตัวกับสื่อชั้นนำของฮอลลิวูด เพื่อเรียกมาส่องทิศทางใหม่ของจักรวาลดีซี พร้อมกับเปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ 10 เรื่อง มีทั้งภาพยนตร์และซีรีส์คละเคล้ากันไป โดยพวกเขาระบุว่านี่คือบทที่ 1 (Chapter 1) ของจักรวาลดีซี (DCU) ในยุคใหม่ ที่จะเรียกสั้น ๆ ว่า "ทวยเทพกับอสุรกาย" (Gods and Monsters)

หัวเรือใหญ่แห่งดีซีทั้งสองคนได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับอนาคตของดีซีให้ฟังคร่าว ๆ ดีซีเป็นจักรวาลที่มีองค์ประกอบที่เข้มแข็ง แต่พวกเขาถูกตัดขาดการเชื่อมโยงระหว่างภาพยนตร์กับซีรีส์เข้าด้วยกันมาอย่างยาวนาน และนี่เป็นเสน่ห์จะเข้ามาเติมเต็มให้กับจักรวาลนี้ด้วยแนวทางใหม่ ๆ ของดีซีภายใต้การบริหารของพวกเขาจะเน้นความสดใหม่ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ชม ผ่านกระบวนการหารือกันอย่างเข้มข้นมาตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา ระหว่างทีมผู้สร้างและทีมแผนกสร้างสรรค์

แน่นอนว่าในปี 2023-2024 ที่จะถึงนี้ ถือว่าเป็นการล้างสต็อกที่ยังค้างคาของจักรวาลดีซี ที่เป็นผลมาจากแนวทางบริหารชุดเดิมที่ได้ทิ้งเอาไว้ ซึ่งพวกเขาก็จะรับหน้าที่ดูแลปล่อยของต่าง ๆ ออกไปตามแนวทางที่ควรจะเป็น ที่ประกอบด้วย "Shazam!: Fury of the Gods", "The Flash", "Blue Beetle" และ "Aquam: The Lost Kingdom" ที่จะออกฉายในปี 2023 พร้อมทั้งประกาศชื่ออย่างเป็นทางการให้กับ "The Batman Part II" และ "Joker: Folie à Deux" ที่จะเป็นหนังดีซีแบบสแตนอะโลนในปี 2024

และยุคใหม่ของจักรวาลดีซีนั้น จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2025 เต็มไป ตามแผนงานที่มีการประกาศสร้าง 10 โปรเจกต์ใหม่ ดังนี้

ภาพยนตร์

Superman: Legacy - ที่ถูกวางเอาไว้ให้เป็นหนังที่จะมาทำหน้าที่สตาร์ทจักรวาลดีซียุคใหม่ขึ้น โดยวางคิวฉายเอาไว้ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 เป็นโครงการที่เคยได้ยินข่าวกันมาบ้างแล้วว่าจะเป็นซูเปอร์แมนฉบับวัยเพิ่มก้าวพ้นช่วงวัยรุ่น กับสร้างสมดุลของฮีโร่หนุ่ม ระหว่างเชื้อสายชาวคริปโตเนียนกับการเลี้ยงดูของมนุษย์โลก โดยหนังเรื่องนี้ เจมส์ กันน์ รับหน้าที่เขียนบทร่วมด้วย (และก็มีการคาดหวังว่าจะเป็นเขาที่รับหน้าที่กำกับหนังด้วย) และหนังเรื่องนี้ก็คือคนละโครงการกับที่ เจ.เจ. แอบรัมส์ พัฒนาสร้างอยู่

The Authority - เป็นหนังที่มีความพัวพันมาจากชื่อเสียงของซูเปอร์แมน ที่จะมีความเชื่อมโยงจาก Superman: Legacy เกี่ยวกับเหล่ายอดมนุษย์ที่มีวิธีการที่ไม่ได้ยึดปฏิบัติเป็นไปตามอุดมคติในการกอบกู้โลกที่ควรจะเป็น โดยจะเป็นการหยิบเอาตัวละครจากคอมิกส์ค่าย Wildstorm มาประยุกต์ใช้ โดยหนังเรื่องนี้จะไม่ได้วนอยู่แค่ประเด็นฮีโร่หรือวายร้าย มันจะบียอนด์ไปมากกว่านั้น โปรเจกต์นี้ยังอยู่ระหว่างเขียนบท โดยที่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นนักเขียนคนใดที่รับมืออยู่

The Brave and the Bold - จะเป็นการแนะนำครอบครัวมนุษย์ค้างคาวเพิ่มเติม ซึ่งนี่จะเป็นการนำตัวละคร โรบิน กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในรอบหลายปี นับตั้งแต่ 1997 ที่ตัวละครนี้เคยปรากฏบนจอครั้งล่าสุด โดยในฉบับนี้ โรบิน คือ เดเมียน เวย์น ลูกชายแท้ ๆ ของบรูซ ที่บรูซไม่เคยรู้มาก่อน ที่จะเป็นทั้งนักฆ่าและไอ้ตัวแสบที่แท้ทรู ก่อนจะนำพามาสู่กับผนึกกำลังร่วมงานกันระหว่างพ่อลูกที่มีความสัมพันธ์ที่จะประหลาดน่าดู

Supergirl: Woman of Tomorrow - อิงมาจากคอมิกส์ที่ชื่อเดียวกัน ที่ตีพิมพ์เมื่อไม่กี่ปีก่อน คาร่า ซอร์-เอล ลูกพี่ลูกน้องของซูเปอร์แมน จะมารับบทเด่น เป็นซูเปอร์เกิร์ลที่ต่างออกจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะเส้นทางชีวิตในช่วง 14 ปีแรกของเธอ ไม่ได้อบอุ่นสวยหรูแบบซูเปอร์แมนเลย นี่จะเป็นซูเปอร์เกิร์ลฉบับฮาร์ดคอร์ขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะเลี่ยงประเด็นคริปโตมาอยู่ในเรื่องนี้ไม่ได้ก็ตาม

Swamp Thing - และแล้วก็ได้มาเป็นฉบับหนังใหญ่ ฮีโร่ที่มีความผสมผสานของความเขย่าขวัญเข้าไว้ได้อย่างลงตัว โดย เจมส์ กันน์ ได้ไอเดียมาจากแนวทางการทำงานใน Guardians of the Galaxy ของฝั่งมาร์เวล เพราะเขาเห็นว่า ร็อกเก็ต ที่มารบเคียงข้างกับ ธอร์ ได้ แล้วทำไมจะทำแบบนี้กับ Swamp Thing บ้างไม่ได้ โดยหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่มีคอนเซ็ปต์ที่น่ากลัวมาก ๆ เรื่องหนึ่งที่วางแผนไว้

ทีวีซีรีส์

Creature Commandos - เป็นซีรีส์แอนิเมชั่นที่ ปีเตอร์ ซาฟราน กับ เจมส์ กันน์ มาช่วยเขียนบทให้ทุกตอน เป็นการหยิบเอาทีมยอดมนุษย์ปนอสุรกายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาขึ้นจอ เพื่อต่อสู้กับพวกนาซี โดยโปรเจกต์ซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าลงทุนสร้างไม่ธรรมดา เพราะแว่วมาใช้เงินถึง 50 ล้านเหรียญต่อตอนเลยทีเดียว

Waller - เพราะว่า เจมส์ กันน์ ที่ต้องเบนเข็มไปสร้างหนังซูเปอร์แมนเรื่องใหม่แทนก่อน ทำให้โครงการซีซั่นใหม่ของ Peacemaker ต้องชะลอไว้ก่อน และจึงกลายมาเป็นโปรเจกต์ซีรีส์เรื่องนี้ที่จะมีความเชื่อมโยงกับบทสรุปซีซั่นแรกของ Peacemaker นั่นเอง กับการโฟกัสที่ตัวละคร วอลเลอร์ เป็นหลัก ซีรีส์จะได้ เจเรมี คาร์เวอร์ จาก Doom Patrol ที่เพิ่งได้ใบสั่งยกเลิกสร้างหมาด ๆ มาดูแลเรื่องนี้แทน ทั้งนี้ซีรีส์ทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นนั้น คาดหมายว่าจะทำการเปิดตัวก่อนการมาของ Superman: Legacy เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย

Lanterns - เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ยักษ์ เพราะเหล่ากรีนแลนเทิร์นจะได้กลับมาโลดแล่นอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยโชว์ใหม่นี้จะโฟกัสที่ 2 คาแรกเตอร์หลัก อย่าง ฮัล จอร์แดน ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี กับ จอห์น สจ๊วต ฮีโร่ผิวสีคนแรกของดีซี ซึ่งวางตัวเป็นซีรีส์ที่จะทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างหนังกับซีรีส์อย่างกลมกลืน และนี่จะเป็นคนละโครงการซีรีส์ที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมา

Paradise Lost - และนี่จะคล้าย ๆ กับ Game of Thrones ฉบับสตรีอะไรทำนองนั้น ตามที่หัวเรือดีซีเกริ่น ๆ เอาไว้ เพราะนี่คือซีรีส์ภาคต้นของ Wonder Woman ที่จะพาไปตรวจเกาะของชาวเทอมีสคีร่า ในช่วงยุคที่ไดอาน่ายังไม่ถือกำเนิดขึ้น

Booster Gold - ฮีโร่สายขำก็ได้มีซีนในที่สุด นี่ถือว่าเป็นการเปิดตัวตัวละครใหม่ที่่แฟน ๆ อาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ แต่เขาน่าจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้ผู้ชมหลงรักได้ บูสเตอร์โกลด์ ก็คือ ไมค์ คาร์เตอร์ นักฟุตบอลจากศตวรรษที่ 25 ที่สร้างตำนานอื้อฉาว ก่อนที่จะใช้ไทมืแมชชีนย้อนกลับมาสู่โลกในอดีต และแสร้งทำว่าตัวเองเป็นฮีโร่ ในโลกยุคก่อนที่เขายังไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงเรียงนาม

Source: Variety

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa