รีเซต

‘เคน’แฮปปี้ธุรกิจ-งาน มั่นใจ‘เอสเธอร์’คือคู่ชีวิต

‘เคน’แฮปปี้ธุรกิจ-งาน มั่นใจ‘เอสเธอร์’คือคู่ชีวิต
ข่าวสด
24 เมษายน 2564 ( 13:07 )
379

คอลัมน์ อาทิตย์ใส

‘เคน’แฮปปี้ธุรกิจ-งานมั่นใจ‘เอสเธอร์’คือคู่ชีวิต - ในละคร “มายาเสน่หา” ที่ออกอากาศอยู่ทาง ช่อง 3 เรื่องราวก็กำลังเข้มข้น สนุกสนาน วันนี้เลยชวนหนุ่ม ‘เคน’ ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค หรือ ‘ชาครีย์’ ขวัญใจสาวๆ ในจอละคร มานั่งคุยกันนอกจอ อัพเดตชีวิตที่ห่างหายหน้าจอพักใหญ่ ไป มุ่งมั่นกับงานเพลงที่ชอบ และขลุกอยู่ในแวดวงต้นไม้ถึงขั้นแฟนสาว ‘เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา’ มีงอนกันเลย

ช่วงนี้มีผลงานเพลงด้วย?

เคน - “เป็นเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ทำมา 3 ปีแล้วพยายามส่งค่ายที่มีดีเจระดับโลกอยู่ ตอนนี้มี 1 เพลงที่ได้เซ็นกับค่าย Actuation Music แล้ว ดีใจมาก เป็นค่ายที่มียอดสตรีมมิ่งสูงมาก ในพวกเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ดีใจที่ได้ขยับไปอีกเลเวลนึง”

ทำไมถึงอยากร่วมงานกับค่ายเพลงต่างประเทศ?

เคน - “ค่ายนี้มียอดสตรีมมิ่งของศิลปินหน้าใหม่ที่เข้าไปสูงมาก เหมือนกำลังมาแรง แล้วเขาหาศิลปินใหม่ๆ อะไรใหม่ๆ เข้าค่าย เราก็ลองดูเลยส่งไป ค่ายใหญ่ๆ จะอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ อเมริกา เป็นเส้นหลักของสายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถ้าเราเข้าไปได้ก็แสดงว่าเพลงที่เราทำก็อยู่ในระดับที่โอเคนะ อันนี้เป็นเพลงแรกเลยที่ได้รับการยอมรับ”

เป็นปัญหาไหมค่ายอยู่ต่างประเทศแล้วตัวเราอยู่ที่นี่?

เคน - “ไม่เป็นครับ ส่วนใหญ่ดีเจหรือโปรดิวเซอร์จากทั่วโลกเขาก็จะส่งเพลงไปที่ค่ายใหญ่ แล้วถ้าเพลงผ่านขึ้นสตรีมมิ่งเสร็จเราก็จะได้คนฟังจากแชนเนลของเขาที่เป็นแฟนคลับจาก ทั่วโลก คนที่ฟังเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเริ่มรู้จักชื่อของเขา เริ่มรู้จักชื่อของเรา ว่า Crossthy ทำเพลงนี้ได้ออกค่ายนี้นะ การที่เราได้อยู่ค่ายใหญ่ก็เหมือนเราได้มีชื่อให้คนเห็นจากทั่วโลกมากขึ้น”

เรียกว่าโกอินเตอร์ได้แล้ว?

เคน - “ไม่แน่ใจครับ แต่ผมคิดว่ามันก็ถือว่าเป็นก้าวที่ดี เราพอใจเพลงที่เราทำก็ได้ไปติดค่ายเพลงหลักๆ ของแนวอิเล็กทรอนิกส์ จริงๆ ผมแค่อยากทำเพลง ผมคิดว่าถ้าผ่านเพลงแรกแล้วเพลงต่อไปที่จะไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ยากแล้ว เพราะว่าเขาก็รู้ว่าเรามีศักยภาพพอที่จะผลิตเพลง ให้เขาได้ต่อไป”

ความฝันของเราในทางด้านนี้เป็นยังไงบ้าง?

เคน - “ก็อยากเล่นเวทีใหญ่ระดับโลกซักครั้ง แต่ ตอนนี้อยากทำเพลงให้เป็นที่ยอมรับในหมู่ของคนที่ฟังอิเล็กทรอนิกส์ จากที่ 3 ปีนิ่งๆ ตอนนี้ก็โอเคได้ขยับไปอีกเลเวลนึงแล้วก็ดีใจ”

ถ้าด้านนี้ได้ดี แล้วงานละครล่ะ?

เคน - “ผมอยากจะบาลานซ์ทุกอย่างให้ดีที่สุดไม่ได้อยากทิ้งอะไร ผมคิดว่าแบ่งได้ อย่างละครรับทีละเรื่องก่อน เพราะว่ามีอะไรให้ทำหลายอย่างมาก ถ้าว่างจริงๆ หรือมีอะไรที่น่าสนใจจริงๆ ก็รับได้ครับ”

มีรับช่องไหนไว้บ้างเพราะตอนนี้เราอิสระแล้ว?

เคน - “มีของช่อง one ครับ ผมเป็นนักแสดงอิสระมาครึ่งปีแล้วครับ คือผมรู้สึกว่าผมก็โตแล้ว ก็คิดอยู่นานผม 29 ปีแล้ว อยากลองทำอะไรใหม่ๆ หาประสบการณ์ใหม่ๆ มันก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม”

ต้องปรับตัวเยอะไหมเป็นฟรีแลนซ์ จากเคยมีสังกัด?

เคน - “จริงๆ ไม่ต้องปรับตัวเลยนะครับเพราะงานเราก็คือ การแสดง ไปที่อื่นก็คือแสดงเหมือนกัน ก็แค่ลองแสดงใหม่ๆ เป็นความรู้สึกท้าทาย ก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน”

แล้วสามารถกลับมารับงานที่ช่อง 3 ได้อีกไหม?

เคน - “รับได้ครับ”

ทำไมถึงเลือกที่จะเล่นช่อง one ก่อน?

เคน - “ด้วยบทมั้งครับ หลักๆ ที่ดูก็คือเป็นบท รู้สึกว่ามันท้าทาย ใหม่และน่าสนใจ”

จะมีโอกาสได้เห็นการร่วมงานกับ เอสเธอร์ในละครไหม?

เคน - “ไม่แน่ใจนะครับ ไม่รู้ว่าพอมาเล่นด้วยกันจริงๆ แล้วมันจะเป็นยังไง ผมก็ไม่ค่อยพร้อมที่จะอยู่ในจุดนั้นด้วย อาจจะรู้สึกเขินๆ มันไม่เหมือนแบบที่เรา ใช้ชีวิตกัน พอเล่นละคร ต้องมีบทสมมติ บทดราม่า แล้วผมกับเอสเราแทบไม่ได้ทะเลาะกันเลยก็เลยยังคิดไม่ออกว่า ถ้าไปเจอกันในละครต้องมาทะเลาะกัน มาโน่นนี่นั่นจะเป็นยังไง”

ไปช่อง one เอสเธอร์มีส่วนกับการตัดสินใจรับงานไหม?

เคน - “ไม่มีนะ หลักๆ เลยเป็นเรื่องของบท เท่าที่เราอ่านแล้วเรารู้สึกว่า ถ้าตัวเราไปอยู่ในนั้นแล้วมันจะเป็นยังไง ก็เป็นอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็น 100 เปอร์เซ็นต์”

ช่วงนี้ได้ทำอะไรหลายอย่าง ทำธุรกิจ ทำต้นไม้ ไปเรียน?

เคน - “ชิลชิลครับ เหมือนได้มีเวลาทำอะไรที่ตัวเองชอบ มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ปลูกต้นไม้ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับต้นไม้ รู้สึกว่ามันก็มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา”

วางแผนยังไงบ้าง แบ่งพาร์ตธุรกิจ ละคร งานเพลง?

เคน - “ละครคือรับทีละเรื่อง ส่วนเพลงก็รอเซ็น รอทำเพลงใหม่ ส่วนต้นไม้ก็คือปลูกขายนำเข้า ส่งออกร้านอาหาร ร้านกาแฟ แล้วก็กำลังจะทำในอนาคตก็คงมีธุรกิจที่เกี่ยวกับต้นไม้ที่หลากหลายขึ้น”

ดูสนใจเรื่องต้นไม้มากถึงขั้นไปเรียน?

เคน - “ใช่ครับ ผมชอบครับ รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกดี และเป็นธุรกิจในระยะยาว เป็นอะไรที่คนคิดไม่ถึงหรอกว่าอันนี้มันดีแค่ไหน”

ทำไมถึงต้องคิดว่าเราต้องไปเรียน?

เคน - “ผมเห็นคนอื่น ผมก็อยากรู้ว่ามันทำยังไง ในสิ่งที่ผมชอบคือต้นไม้ การทำแบบนี้มันก็เป็นการขยายพันธุ์ต้นไม้ทีละเยอะๆ อยากรู้ว่าทำยังไง ทำแล้วได้อะไร อันไหนทำได้ ทำไม่ได้ ดีไม่ดี ต่อไปถ้ามันเป็นธุรกิจขนาดใหญ่เราก็ควรรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับมัน ตอนนี้สามารถเพาะพันธุ์ต้นไม้ขายเองได้แล้ว ก็เพาะจากต้น แม่พันธุ์ที่เรามีแล้วก็จากแล็บก็จะเป็นอีกส่วนนึง”

แล้วรายได้เข้ามาเยอะเกินคาดไหม?

เคน - “เยอะมากครับ ตลาดต้นไม้เป็นตลาดทั่วโลก ชอบต้นไม้เหมือนกัน ชอบต้นไม้สายพันธุ์เดียวกัน แต่ต้นไม้มันมีไม่พอสำหรับโลกใบนี้”

ขยายธุรกิจไว มีห้องแล็บแล้ว?

เคน - “ผมทำธุรกิจนี้มา 1 ปีแล้ว ไม่ได้ไวขนาดนั้นครับ ห้องแล็บก็ใช้เวลานานมากครับกว่าต้นไม้จะโตขึ้นมาเป็นปีครับ ก็คืนทุนแล้ว ตอนนี้ทำทั้งส่งออกแล้วก็นำเข้าต้นไม้ครับ ที่แพงที่สุดก็ 7 หลักส่งออกทั่วโลกเลย คนรู้จักเยอะแล้ว อย่าง ฟิลิปปินส์อินโดนีเซีย เกาหลี จะติดตามเพจหรือว่าในไอจี weplant_studio คนรักต้นไม้เขาก็จะมีคนที่เหมือนเป็นเซเลบสำหรับต้นไม้ โพสต์ไปโพสต์มา เราก็ไปดังที่ฟิลิปปินส์(หัวเราะ) คนเห็นว่าเราเป็นคนปลูกต้นไม้เขาทักมาสอบถามเพราะว่าเรามีต้นไม้ สปีชีส์ที่ค่อนข้างจะหายาก และมีน้อยเป็นต้นที่คนอยากเก็บสะสมกันทั่วโลก”

แล้วดูยังไงถึงได้รู้ว่าจะต้องเป็นต้นที่เพิ่มมูลค่าได้เยอะ?

เคน - “เราอยู่กับต้นไม้เยอะครับ แล้วก็เราได้อยู่กับคนที่เก่งๆ ในเรื่องต้นไม้ เราก็ศึกษาด้วยว่าต้นนี้มันยากง่าย มาจากประเทศอะไร อยู่ตรงไหนของโลก มันก็เลยเป็นอะไรที่เหมือนมีเซนส์ ว่าต้นนี้ คนต้องอยากได้ เพราะมันโตไปแล้วมันจะสวยมากครับ”

เป็นปีของการโกอินเตอร์ทั้งธุรกิจต้นไม้ ทั้งเพลง?

เคน - “แบบนั้นก็ว่าได้ครับ (ยิ้ม)”

รู้สึกยังไงที่ประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จักมากขึ้นทั่วโลก?

เคน - “รู้สึกว่า โอ้โห! ไวมากเลย มันก็อยู่ที่เราตั้งใจทำ ตั้งใจที่จะศึกษาหา ความรู้ด้วยมันก็เลยส่งผล ผมพยายาม ถ่ายยูทูบต้นไม้ที่มันหายาก ต้นไม้ที่ควรมีในปี 2021 ซึ่งมันไม่ได้มีเยอะมาก แค่ขายในไทยก็ไม่พอแล้วครับ คนก็แย่งกันเก็บ”

เป็นเซเลบในวงการต้นไม้?

เคน - “ครับ (หัวเราะ) ผมก็อยากสะสมไปเรื่อยๆ แล้วก็อยู่กับต้นไม้ รอดูว่าจะทำอะไรต่อที่เป็นการขยายธุรกิจด้วยได้ แล้วก็เป็นคอลเล็กเตอร์เก็บสะสมต้นไม้ ที่หายากๆ เลี้ยงให้เป็นท็อปฟอร์มสวยๆ เอาไว้ถ่ายให้คนทั่วโลกดู เพราะบางประเทศเขาอาจจะเลี้ยงในบ้าน แต่ฟอร์มมันอาจจะแบบไม่สวยเท่าที่เราเลี้ยงอยู่ ข้างนอกครับ”

กลายเป็นรายได้หลักของเราแล้วตอนนี้?

เคน - “อาจจะใช่นะครับ”

ชีวิตดี ลงตัวหมดแล้ว ความรักเป็นยังไงบ้าง?

เคน - “ ดีเหมือนเดิม เรียบๆ ครับ (หัวเราะ) เพราะว่าเอสก็ถ่ายละครแล้วก็ ดูแลร้านอาหาร ร้านกาแฟ ส่วนผมก็ ถ่ายละครปลูกต้นไม้แล้วก็ทำเพลง เราแยกส่วนกันทำ เพราะทำรวมกันแล้วจะตีกันครับ (หัวเราะ) ความคิดไม่ตรงกัน ผมเป็นคนที่อ่านไลน์ช้า บางทีผมอยู่ในสวน ผมก็ไม่ได้อ่านไลน์ ไม่ได้อะไรที่เกี่ยวกับร้าน คือให้จัดการไปเลย ผมก็ค่อนข้างไว้ใจ”

กี่ปีแล้วที่คบกัน?

เคน - “น่าจะเข้าปีที่ 5 แล้วมั้งครับ”

เขามีบ่นไหม เรารักต้นไม้มากกว่า?

เคน - “มีครับ (หัวเราะ) ก็บอกว่า โหเดี๋ยวนี้เจอต้นไม้มากกว่าหนูอีก (หัวเราะ) คืออาทิตย์นึงถ้าเจอกันจริงๆ 1-2 วัน เพราะว่าผมอยู่สวนเสียส่วนใหญ่ แล้วก็ ไปยิม ไปสวนแล้วก็กลับมาคือมืดไปแล้ว เตรียมนอน เอสก็ถ่ายละคร 2 เรื่อง ก็ 7 วัน ผมก็อยู่กับต้นไม้ เอสก็อยู่กอง”

เราไม่ค่อยเติมหวาน?

เคน - “ครับ (ยิ้ม) ก็มีโดนบ่นบ้างครับแต่หลังๆ มาก็พยายามที่จะโอเค เทกแคร์มากขึ้น เขาก็แค่บ่นๆ แต่เขาไม่ได้จริงจังอะไร เพราะว่าเขาก็คงรู้สึกว่า ผมชอบต้นไม้ ผมอยู่ตรงนี้ก็มีความสุข ไม่ได้ไปเที่ยวไปลั้ลลา”

แล้วเราเติมความหวานยังไง เขาเริ่มบ่นเวลาที่เจอกันน้อย?

เคน - “อย่างเขาไปถ่ายละครที่ ต่างจังหวัดผมก็ไปด้วย ไปหัวหินใช่มั้ย โอเค ผมก็ไปด้วย เหมือนแบบมาอยู่ด้วยให้กำลังใจนะ แล้วก็ไปกินข้าว กินขนมหรือว่าไปทำอะไรที่เขาอยากทำ ผมก็พยายามเคลียร์งานให้เสร็จแล้วให้เขาไปเลยครับ”

วางแผนอนาคตหรือยังคบกันมา 5 ปีแล้ว?

เคน - “ตอนนี้คิดว่ามันก็โอเค เรื่อยๆ ไปก่อนอีกสักพักครับ ก็คงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแหละ คนนี้แล้วครับ แต่ตอนนี้ยุ่งมาก ก็ขอลุยก่อน ถ้าสมมติแต่งปุ๊บก็คืออยากที่จะโอเคทุกอย่าง มันสบายใจแล้ว ไม่ใช่ แต่งแล้วยังต้องมาหัวฟูทำโน่นทำนี่”

แต่งแล้วให้เอสเธอร์ได้เบางานลง?

เคน - “ใช่ครับ ก็ควรจะมีเวลาได้ เอ็นจอยเต็มที่กับโมเมนต์กับการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบนึง ผมก็พยายามทำเต็มที่ให้มันเร็วที่สุด”

จริงๆ ก็ดูเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว สนิทกับครอบครัวเอสมากๆ?

เคน - “สนิทกันหมดทุกคนเลยครับ ทั้งทิมมี่ เอบิเกล ชอบอะไรคล้ายกัน ผมกับทิมมี่ก็ชอบเพลง ส่วนเอบิเกลก็ชอบเต้นชอบเพลงก็คุยกันได้ครับ”

ที่บ้านไม่เร่ง?

เคน - “ไม่เร่งครับ น่าจะเร่งให้ทำงานมากกว่า (หัวเราะ)”

อนงค์ จันทร