รีวิวหนัง "The Exorcism นรก สิง สาป" สู้กับสภาวะสัปหงกไป 3 ที มาเจอผีชวน..หึหึ

บอกตามตรงก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ที่ปีนี้กลับมาดูผลงานใหม่ของนักแสดงยอดฝีมือ "รัสเซลล์ โครว์" อีกครั้ง ที่ดันมาคาแรกเตอร์และภาพลักษณ์เหมือนก้อปปี้มาจากเรื่อง The Pope's Exorcist อะไรทำนองนั้น แต่จริง ๆ แล้วนี่คือ "The Exorcism นรก สิง สาป" หนังสยองขวัญอีกเรื่องของลุงรัสเซลล์ ที่บังเอิญภาพตัวละครของเขาจะซ้ำซากไปหน่อย แต่จริง ๆ เนื้อหาของหนังค่อนข้างต่างกันอยู่

The Exorcism นรก สิง สาป เล่าเรื่องราวของ แอนโทนี นักแสดงรุ่นใหญ่ที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาพฤติกรรมหนักหน่วงระหว่างกำลังถ่ายทำหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่งอยู่ ขณะที่ลูกสาวที่ห่างเหินกันที่กลับมาเป็นผู้ช่วยดูแลในกองถ่ายให้กับเขาเริ่มสงสัยว่าพ่ออาจจะกลับไปใช้สารเสพติดอีกครั้ง แต่เธอก็เอะใจว่าหรือจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ชั่วร้ายเข้ามาเกี่ยวข้องและทำให้พ่อกลายเป็นเช่นนี้

สำหรับผลงานเรื่องนี้เป็นฝีมือการกำกับและเขียนบทโดย "โจชัว จอห์น มิลเลอร์" อดีตนักแสดงช่วงยุคปี 80s-90s ที่นับว่าเป็นงานสร้างหนังใหญ่ในรอบ 25 ปีของเขา โดยที่เป็นงานเรื่องที่ 2 ที่ทิ้งช่วงไปนาน เพราะผลงานเรื่องแรกก็เผชิญหน้ากับความบ้งแสนสาหัสอยู่ไม่น้อย แต่ถึงแม้ว่าจะเว้นว่างสั่งสมประสบการณ์มาเป็นทศวรรษ กลับมาคราวนี้ก็ยังคงไม่สามารถสร้างมาตรฐานความน่าประทับใจได้เท่าไหร่

The Exorcism กลายเป็นหนังสยองขวัญที่ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้กันแน่ เพราะในแง่คอนเซ็ปต์และประเด็นของหนังที่ใส่เข้ามา ก็แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ใด ๆ เลย เราเคยเห็นหนังผีและซาตานที่พยายามสิงสูมนุษย์แบบเดิม ๆ ซ้ำยังเป็นการใส่เข้าแบบไม่สมเหตุสมผล และยังสอบตกในแง่การอธิบายให้ผู้ชมได้กระจ่างแจ้งกระจ่างใจกับประเด็นที่ต้องการสื่อสาร

เราพบว่าหนังพยายามหยอดและใส่ประเด็นเข้ามาค่อนข้างเยอะไปหมด จะเล่นประเด็นความเชื่อความศรัทธาในศาสนาที่ก็ไม่ชัดเจน หรือจะเน้นปมอดีตของตัวละครกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกก็ยังเป็นไฮไลต์ที่ยังเบาโหวงอยู่ ขณะที่ในมุมมองงานโปรดักชันกับเบื้องหลังงานสร้างหนังสยองขวัญที่ซ้อนอยู่ในหนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้รับทรีทเมนต์ให้ขับเคลื่อนความน่าสนใจออกมาเท่าที่ควร

ดังนั้นจึงไม่แปลกใจนัก ที่ระหว่างนั่งดู The Exorcism เรื่องนี้อยู่ ต้องพยายามต่อสู้กับอาการง่วงหงาวหาวนอน เผลอสัปหงก-หัวผลุบไปอยู่หลายที เพราะสิ่งที่หนังพยายามปูเรื่องและร้อยเรียงออกมานั้น เต็มไปด้วยปัญหาการเชื่อมต่อกับคนดูอย่างน่าผิดหวัง กว่าที่จะเริ่มเข้าที่เข้าทางและกระตุ้นความสนใจของผู้ชมให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หนังก็นำพาเราไปเรื่อย ๆ เป็นชั่วโมงเสียแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม The Exorcism ค่อนข้างมีงานโปรดักชันดีไซน์ งานออกแบบฉากต่าง ๆ ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว แต่กลายเป็นว่ายังมีอีกสิ่งในส่วนของงานสร้างที่ไม่ประทับใจเท่าไหร่ที่ นั่นก็คืองานแสงและองค์ประกอบในการจัดแสงของหนังเรื่องนี้ ที่มีหลายฉากที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับดวงตาผู้ชมเลย เพราะหนังมักจะตัดต่อจัดแสงได้แสบตามาก จากฉากมืด ๆ ก็ตัดฉับเข้ามารับฉากแสงจ้าแบบกะทันหัน ที่กลายเป็นประสบการณ์การดูหนังที่ค่อนข้างน่าหงุดหงิดไม่น้อย เพราะรูรับแสงของสายตาผู้ชมไม่สามารถรับตัวได้ทัน

แน่นอนว่า "รัสเซลล์ โครว์" คือนักแสดงที่เป็นทำน่าที่เป็นนายแบกอันดับหนึ่งของเรื่องนี้ และน่าจะเป็นสิ่งดีสิ่งเดียวที่พบเห็นได้ในหนังเรื่องนี้ ถึงในส่วนคาแรกเตอร์และบทบาทที่เขาได้รับจะค่อนข้างไร้เหตุผลมากไม่สักหน่อยก็ตาม ถึงแม้ว่าลุงรัสเซลล์จะเต็มที่สักแค่ไหน มาอยู่ในหนังที่มีโครงสร้างไหวเอนเยอะไปสักหน่อย รัสเซลล์ โครว์ ก็ไม่สามารถพาหนังเรื่องนี้ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่งเช่นกัน

ขณะที่นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ แทบจะไม่มีประโยชน์เลย ทั้งที่ได้นักแสดงดี ๆ อย่าง "แซม เวิร์ทธิงตัน", "ไรอัน ซิมป์คินส์" หรือ "เดวิด ไฮด์ เพียร์ซ" มาร่วมแสดง แต่ซีนของพวกเขาแทบจะไม่มีอะไรให้น่าจดจำ เผลอ ๆ แทบจะไม่สร้างฝ่ากระแสความมึนงงของหนังเรื่องนี้ออกมาได้สู่จุดที่โดดเด่นได้เลย นับว่าเป็นหนังที่น่าเสียดายมาก ๆ ที่ได้ใช้บริการนักแสดงระดับดี แต่ให้ผลลัพธ์ที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่เต็มที่

โดยสรุปในภาพรวมแล้ว The Exorcism นรก สิง สาป ค่อนข้างเป็นหนังที่ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าผิดหวังและผิดท่าไปเยอะสักหน่อย เสียดายทีมนักแสดงระดับเจ๋ง ๆ ที่ไม่สามารถช่วยขับเคลื่อนตัวหนังไปได้ไกลกว่านี้ แม้งานโปรดักชันบางส่วนจะทำออกมาได้ดี แต่ปัจจัยโครงสร้างและคอนเซ็ปต์ของหนังที่ค่อนข้างงงงวยและไร้เสน่ห์ ก็ไม่สามารถดึงดูดในคนดูได้เพียงพอ ท่ามกลางตลาดหนังสยองขวัญที่ล้นทะลักในช่วงศักราชนี้ นี่อาจจะเป็นหนังสยองที่ซ้ำซากมาก ๆ เรื่องนี้ อีกทั้งยังไม่มีอะไรให้ชวนจดจำได้เลยสักฉากเดียว