Series Full Review : A Piece of Your Mind เสี้ยวหัวใจยังไงก็เป็นเธอเหมือนการเก็บชิ้นส่วนเล็กน้อยมาประดิดประดอยทางความรู้สึกจนซึมลึกสัมผัสได้ แต่อาจต้องอาศัย "จริต" ของคนดูมาช่วยเพราะเหตุผลของแต่ละคนต่างกันบางครั้งจึงอาจต้องทำความเข้าใจหรือบางครั้งก็ไม่ต้องเข้าใจ เพราะสิ่งที่เรียกว่า "จริต" เป็นเรื่องปัจเจกส่วนบุคคล เช่นกันกับการเลือกอะไรบางอย่างที่จะสามารถชุบชโลมหัวใจเหมือนดั่งต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาพึงได้รับน้ำและแสงแดด รสสัมผัสจากสิ่งที่ได้รับจากสิ่งเดียวกันอาจมีผลต่อหัวใจคนแต่ละคนต่างกันซึ่งบางครั้งก็เข้าใจได้และบางครั้งก็ไม่ต้องเข้าใจก็ไม่เป็นไร เช่นเดียวกับการดูซีรีส์เกาหลีเรื่องที่ดูไปบ่นไปไปเจอโดยบังเอิญแต่หากเป็นท่านอื่นอาจดูเพราะพระเอกจองแฮอินหรือนางเอกแชซูบิน แต่ผู้เขียนกลับอยากดูเพราะต้องการรู้ว่าอีฮานาจะแสดงบทอื่นได้เป็นอย่างไรเมื่อเธอแสดงบทเดียวแทบจะผูกขาด กระนั้นงานซีรีส์เรื่องนี้ที่ดูแล้วมีดีพอตัวแต่เหมือนไม่ได้รับการกล่าวถึงมากซึ่งก็แปลก แต่เมื่อดูแล้วก็พอทราบได้ว่าทุกอย่างมันอยู่ที่จริตของคนดูที่จะรับสารลงไปซึมลึกได้ขนาดไหนว่าด้วยเรื่องแผลในใจที่กักขังความคิดและหัวใจของตัวละครทุกคนคือมุนฮาวอน (จองแฮอิน) นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮันซออู (แชซูบิน) ซาวด์เอ็นจิเนียร์ มุนซุนโฮ (อีฮานา) เจ้าของสตูดิโอบันทึกเสียง คิมจีซู (พัคจูฮยอน) รักแรกของมุนฮาวอนและเป็นภรรยาของคังอินอุค (คิมซองคยู) นักเปียโนฝีมือดีที่กำลังจะบันทึกเสียง เรื่องของคนทั้งหมดได้มาผูกพันดั่งโชคชะตาที่มุนสตูดิโอ เมื่อคิมจีซูเสียชีวิตเพราะการตามหาชิ้นส่วนของความทรงจำ มุนฮาวอนที่ยังยึดติดกับคิมจีซูจึงให้ฮันซออูที่ได้รับการจ้างให้บันทึกเสียงของคิมจีซูก่อนหน้านั้นนำเสียงของคิมจีซูมาสร้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เป็นเอไอจึงไม่ต่างจากคิมจีซูยังอยู่ แต่การที่คังอินอุคคิดเสมอว่าคิมจีซูที่เป็นภรรยาไม่เคยมีใจให้ตัวเองเพราะมุนฮาวอนก็ได้พบชิ้นส่วนต่างๆที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวผ่านฮันซออูที่กลายเป็นเพื่อนกับคิมจีซู แต่แล้วเรื่องก็ยิ่งยุ่งเมื่อมุนซุนโฮรู้สึกอะไรบางอย่างกับคังอินอุคเสียแล้วด้วยความที่เรื่องเล่าเรื่องของคนหลากหลายที่ต่างก็มีแผลใจที่กักขังหัวใจของตน บทจึงค่อนข้างละเอียดเต็มไปด้วยเรื่องเล็กน้อยยิบย่อย แต่ก็เข้าใจได้เพราะชื่อเรื่องก็บอกแล้วว่า A Piece of Your Mind ตั้งแต่ต้นคนดูจึงได้เห็นการหยิบเอาชิ้นส่วนของจิตใจของแต่ละคนมาทีละน้อย แล้วค่อยๆประดิดประดอยเข้าด้วยกันจนเห็นเป็นรูปร่างที่สวยงาม เห็นเหตุของผลที่ได้เห็นที่จุดเริ่มต้นของแต่ละคน แน่นอนว่าการได้เจอกับคนที่ต่างฝ่ายต่างมีปมหรือมีเรื่องเจ็บปวดที่ยากจะก้าวผ่าน ก็คือการได้เผยแง่มุมที่ทั้งเหมือนและทั้งต่างเพื่อเติมเต็มให้กันจนกระทั่งถึงที่สุดก็คือการเยียวยา แล้วสิ่งที่ตามมานั้นก็คือความรู้สึกดีที่มีกันและกัน มีความสุขที่ได้มองอีกฝ่ายจนกลายเป็นความรัก สุดท้ายทุกคนก็สามารถมีความสุขในชีวิตได้โดยที่ใช้อดีตที่เจ็บปวดมาเป็นบทเรียนสิ่งที่สวยงามของเรื่องนี้คือการที่สามารถบอกเล่าถึงเรื่องเล็กน้อยที่อาจเกิดจากเรื่องใหญ่ที่มาจากความสูญเสีย แต่ความจริงชีวิตคนต้องก้าวผ่านมันให้ได้และเดินต่อไปใช้ชีวิตให้ดีโดยที่เก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่บางครั้งชิ้นส่วนที่ขาดหายไปในเรื่องราวที่รับรู้หรือชิ้นส่วนของความรู้สึกที่คิดว่าผิดพลาด กระทั่งเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่อาจสร้างจุดด่างช่องว่างในหัวใจซึ่งมันคือจุดเล็กๆช่องว่างเพียงน้อยนิด แต่เป็นจุดที่มนุษย์มักจะเก็บเอาไว้เพื่อกักขังหัวใจด้วยความรู้สึกผิดหรือเฝ้าโทษตัวเองกระทั่งตั้งคำถาม ความฉลาดของบทคือการใช้ความสัมพันธ์ในทุกมิติในการลบรอยด่างเล็กๆน้อยๆด้วยความเอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นแค่การจับมือ เพื่ออุดรูรั่วหรือถมช่องว่างที่ชิ้นส่วนในหัวใจที่ขาดหายไปทิ้งไว้ ซึ่งแม้จะเป็นการเล่าเรื่องด้วยเรื่องเล็กน้อยยิบย่อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้เพียงแค่อาจมีวิธีรับมือที่ต่างกันเท่านั้นและการเล่าเรื่องแบบประดิดประดอยด้วยความรู้สึกแบบนี้สิ่งที่ตามมาคือการรับรู้ด้วยความรู้สึกที่ซึมลึก เพราะมันเกี่ยวกับภาวะจิตใจที่อยู่ข้างในของแต่ละคนและทุกคนในเรื่องนี้ล้วนแต่มีอะไรที่เป็นช่องว่างหรือรอยด่างเล็กน้อยทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเรื่องเหล่านี้มันซึมลงในความรู้สึกแล้วคนดูจะสัมผัสได้ถึงตัวจุดปฏิกิริยาของสิ่งที่อยู่ข้างในนั้นให้มันออกมาเพื่อที่จะทำร้ายคนที่ถือครองมัน แต่นั่นก็กลายเป็นราคาที่ต้องจ่ายเมื่อการเล่าด้วยชิ้นส่วนเล็กๆก็คือการไม่มีเรื่องใหญ่ให้มาปะทะทางอารมณ์ และสิ่งที่ต้องแลกมาคือความเรียบเรื่อยที่ไร้คลื่นลมให้เร้าใจ แม้ว่าถ้าสิ่งที่บทต้องการจะสื่อสามารถซึมลึกลงไปในความรู้สึกได้คนดูจะมีความรู้สึกร่วมเต็มที่ แต่ทั้งนี้ตัวแปรของคนดูก็อยู่ที่ความรู้สึกเช่นกันก็คือจริตของแต่ละคนที่มีไม่เหมือนกัน และหากเป็นคนที่ต้องการความหวือหวาในความโรแมนติกหรือดราม่าที่แรงกว่านี้เรื่องเล็กๆเหล่านี้ก็จะกลายเป็นเรื่องไกลตัวและไร้ความบันเทิงกระนั้นแม้ว่าจะต้องอาศัยจริตคนดูในการซึมซับความรู้สึกให้เกิดอารมณ์ร่วม แต่สิ่งที่คนดูสัมผัสได้แน่คือการแสดงที่สื่อสารจากข้างใน เพราะมันคือชิ้นส่วนของหัวใจจึงไม่เห็นการเล่นอะไรเกินเบอร์ ทุกเรื่องจึงถูกสื่อออกมาจากข้างในและจองแฮอินและแชซูบินคือจัดการได้ เพราะนอกจาเสน่ห์และมิติภายนอกที่ต่างกันแล้วทั้งสองคนคือสื่อสารออกมาจากข้างในจนคนดูรู้ว่าทั้งคู่มีปมในใจที่ไม่เหมือนก็ดูคล้าย และมีแง่มุมที่เติมเต็มให้กันได้มีความเข้มแข็งในบางแง่ที่ต่างกันรวมไปถึงความอ่อนไหวในบางมุม น่าเสียดายที่บทไม่จับเอาพลังงานที่รุนแรงหรือจุดเด่นของเสน่ห์เฉพาะตัวของทั้งสองคนมาใช้ให้คุ้ม เพราะดูเหมือนทั้งสองคนยังเล่นบทบาทที่เคยเห็นมาจนชินตา นั่นคือไม่ได้ตั้งใจฉายแสงเปล่งพลังดึงดูดมากมายทั้งที่บทก็ดูเอื้อให้ในตอนท้าย แต่แล้วตอนสุดท้ายกลับกลายเป็นรวบรัดและเหมือนไม่รู้จะลงยังไงเลยทำให้เหมือนกับใช้เสน่ห์นักแสดงไม่คุ้มและส่วนที่ผู้เขียนต้องทึ่งคืออีฮานา กับสามปีที่ผูกขาดบทที่ต่างจากบทนี้แบบคนละคนแล้วพอมาแสดงเป็นคนที่ต่างสุดขั้วก็ยังมอบการแสดงที่เชื่อได้ เพราะดูแล้วยังไงก็ไม่ใช่คนคนเดียวกัน เพราะอีฮานาสามารถแสดงออกมาจากข้างในสู่แววตาที่บุคลิกที่ต่างไปจากการแสดงใน Voice ที่ถ้าคนที่ได้ดูเรื่องนั้นมาทุกซีซันก่อนหน้าเรื่องนี้จะเห็นชัดเลยว่าเป็นอีกคนได้แม้กระทั่งทัศนคติ ที่เรื่องนี้มองเห็นชัดเจนในความเป็นคนรักษ์โลกรักต้นไม้มองโลกในมุมสวยงามแต่ข้างในอ่อนไหว เป็นพี่สาวที่จุ้นจ้านจู้จี้แต่น่ารักได้แบบสลัดภาพจำติดตาออกไปจนสิ้น ส่วนอีจองอึนนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะการแสดงของเธอไม่เคยทำให้คนดูผิดหวัง และกับเรื่องนี้เป็นตัวละครข้างเคียงที่เปรียบเทียบการเสาะแสวงหาความหลุดพ้นจากความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในใจ จนสุดท้ายก็ได้ผ่านพ้นมันไปเพราะเรื่องเล็กๆแค่การจับมือ หรือการได้เห็นว่าคนอื่นที่เจอเรื่องหนักหนากว่าก็ยังก้าวข้ามมันได้เพราะทัศนคติในใจเรื่องนี้อาจไม่ใช่งานซีรีส์ที่เลิศหรูขึ้นหิ้งอะไรเพราะยังมีหลายจุดที่เชื่อมกันไม่ติด มีตัวละครไม่จำเป็นมากมายกระทั่งมีอะไรถูกทิ้งไว้กลางทางเยอะแยะ หรือจะรวมไปถึงตอนสุดทานที่หาทางลงไม่ได้แล้วสรุปเอากันแบบนี้ก็ยังได้ แต่สิ่งที่สามารถทำให้คนดูที่จริตตรงกับเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องที่ละเอียดในสิ่งที่จะเล่า ละเมียดในเรื่องที่จะสื่อแบบประดิดประดอยความรู้สึก และอาจเป็นมาตรฐานซีรีส์เกาหลีแล้วกระมังที่ไม่ว่ายังไงต้องให้บทกับประสบการณ์ชีวิตของคนดูมาสัมผัสกันไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ถ้าว่ากันที่สารที่จะสื่อในเรื่องของช่องว่างที่ชิ้นส่วนในหัวใจทิ้งเอาไว้แล้วพาไปสู่การเติมเต็มและเยียวยากันได้เรื่องนี้คือทำได้เยี่ยมแล้ว เพราะคนดูสัมผัสได้เต็มที่ที่เริ่มจากเห็นความทุกข์ในใจค่อยๆสลายไปผ่านความสัมพันธ์และมีกุญแจสำคัญคือการคิดไปเอง และจะยิ่งสัมผัสได้ลึกซึ้งถ้าประสบการณ์ชีวิตคนดูสัมผัสได้กับสิ่งที่ได้รับรู้จากเรื่องนี้ดูจบด้วยความประทับใจในเรื่องที่ต้องการจะสื่อด้วยจริตที่ตรงกันโดยดูไปบ่นไปviuขอบคุณภาพประกอบภาพปก จาก Facebook tvN (International)ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 จาก Facebook tvN dramaเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !