หนังสารคดีจาก Netflix ที่มีความยาว 3 ตอน ตอนละ 47 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เล่าเรื่องการสืบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นสี่แห่งใกล้ๆกันที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยเล่าผ่านการสัมภาษณ์ตำรวจและทีมสืบสวนในสมัยนั้น ที่ไม่มีทั้งเทคโนโลยีติดตามตัว เครื่องตรวจจับสัญญาณอันตราย CCTV เรียกได้ว่าการสืบสวนในสมัยนั้น เหมือนการงมเข็ทในมหาสมุทรเลย ตำรวจแทบจะค้นกระเป๋าของประชาชนทุกๆคนที่เดินผ่านแถวๆนั้นเพื่อมองหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี เบื้องบนสั่งห้ามไม่ให้พูดคำว่า ฆาตกรต่อเนื่องออกสื่อ แต่ก็ปิดไม่มิด เรียกว่าสมัยนั้น ตำรวจเกาหลีทำงานกันอย่างหนักแต่ตามจับเบาะแสอะไรไม่ได้เลยมีบ้านถูกเผาไหม้ ทำให้ตามจับรอยนิ้วมือไม่ได้ คนแก่และผู้หญิงถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมภายในบ้าน และบางบ้านก็มีเด็กที่ถูกทิ้งไว้ และมีทรัพย์สินบางส่วนในตู้เซฟที่ถูกขโมยไป ส่วนมากเหยื่อที่เสียหายจะเป็นบ้านของคนรวย ซึ่งในยุคนั้น เป็นยุคที่เศรษฐกิจเกาหลีพากันล้ม แทนที่คนที่มีจะช่วยเหลือหรือยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือมอบโอกาสให้กับคนที่ไม่มี แต่ช่องว่างระหว่างฐานะของชนชั้นกลับห่างขึ้นไปเรื่อยๆ คนรวยรวยมากขึ้น และคนจนก็จนลงกว่าเดิม มากกว่าความแบ่งแยกทางฐานะที่ผู้คนในสมัยนั้นเจอ คนจนรู้สึกเหมือนถูกกีดกันให้รู้สึกเข้าสังคมไม่ได้ รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งไม่ได้ เมื่อความเครียดสะสม ผู้คนก็จะมีความคิดว่าถ้าฉันทำให้ชีวิตของแกเดือดร้อนหรือเสียหายได้ ฉันก็คงจะไม่รู้สึกผิด หรือต้องขอโทษอะไรสารคดีมีความเครียด มีความจริงจัง มีการถ่ายสลับระหว่างการสัมภาษณ์กับรูปคดีที่เกิดขึ้นในยุคนั้น และการบรรยายความน่ากลัวของฆาตกรที่ฆ่าเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม และสะท้อนปัญหาความบิดเบี้ยวทางจิตใจ สารคดีแอบน่าเบื่อเล็กน้อยระหว่างที่ดู และมีเนื้อหาที่ดำเนินเรื่องได้ช้าและยืดมาก ก็เข้าใจว่าสร้างจากเรื่องจริง แต่บางทีมันก็น่าเบื่อนิดหนึ่ง สำหรับสารคดีที่มีความยาวสามชั่วโมงhttps://www.instagram.com/p/CUeTfteLwG7/ในตอนที่จับยูยองชอลได้ จากการหายตัวไปของโสเภณี ยูยองชอลถึงกับออกปากบอกกับสายสืบด้วยตัวเองเลยว่าโชคดีแล้วที่คุณจับผมได้ถ้าคุณไม่จับผมตอนนี้ ผมอาจจะฆ่าคนบริสุทธิ์ต่อไปเรื่อยๆถึง 100 ศพ แม้ว่าผมจะถูกปล่อยตัวออกไป และถูกหวยก็ตาม ผมก็จะใช้ชีวิตต่อไป โดยไม่หยุดฆ่าคนยูยองชอลเป็นต้นตำรับในการสร้างตัวละครที่เป็นฆาตกรในหนังเรื่อง the voice และภาพยนต์เรื่อง The Chaser ที่จีซูเป็นคนแสดง ปกติดูหนังที่มีฆาตกรต่อเนื่อง ผู้เขียนจะรู้สึกเฉยๆ แต่ The Chaser คือที่สุดของความน่ากลัวเลยสารคดีถ่ายทำแบบสัมภาษณ์ตำรวจและทีมสืบสวนสลับกับการจำลองสถานการณ์และวิธีสืบรูปคดีในยุคสมัยนั้น และการออกสื่อต่างๆ การลงหนังสือพิมพ์ โดยเน้นไปที่การตามจับตัวยูยองชอลมากกว่า ถ่ายเจาะประวัติเบื้องลึกและที่มาที่ไปหรือชีวิตของฆาตกรคนนี้ สารคดีเรื่องนี้ผู้เขียนให้คะแนนที่ 6.5/10 ค่ะขอขอบคุณภาพหน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 โดย netflixth /3 โดย KlausHausmann/ 4 โดย BruceEmmerling : Pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !