Series ReviewAnone อาโนเนะ (2018)ทุกคนล้วนมีส่วนที่ขาดรอการเติมเต็มถูกเล่าได้อย่างยอดเยี่ยมประหนึ่งชีวิตจริงที่แสนอบอุ่นกับที่พักพิงหัวใจเพราะมนุษย์ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองให้เชื่อมั่นอาการเว้าแหว่งในชีวิตจึงมาเยือนในบางครั้งที่อาจมีบ้างที่ผ่านมาแล้วผ่านไปและอาจมีบ้างทีสร้างร่องลึกในใจให้กลายเป็นช่องว่าง และนั่นก็คือปัญหาชีวิตที่จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตที่เมื่อมองเข้าไปในมิติเชิงลึกอาจเห็นความยากเข็ญในการใช้ชีวิตของแต่ละคนที่ก็แน่นอนว่าว่าเราไม่สามารถมองเห็นของคนอื่นได้และคนอื่นก็สามารถมองเห็นของเราได้เช่นกัน กระนั้นในบางเรื่องราวที่ว่าอาจเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาที่อาจบอกได้ว่าใครๆก็เป็นแค่ต่างกันที่เหตุหรือผลของมันที่อาจมีความเหมือนหรือต่างกันก็ว่ากันไปตามแต่พื้นฐานการใช้ชีวิต แต่เรื่องธรรมดาแบบที่เหมือนได้ยินแม่ค้าตลาดสดคุยกันเรื่องคนนั้นคนนี้ที่เป็นอย่างนี้อย่างนั้นบางครั้งก็สามารถอ่านและวิเคราะห์ได้เพราะบางคราวคนเราก็ไม่สามารถมองลึกถึงข้างในของตนเอง หนังหรือซีรีส์จึงมีหน้าที่แบบนี้คือการเอาเรื่องแบบนี้มาบอกกล่าวให้ได้คิดวิเคราะห์เพื่อตกผลึกทางความคิดและสามารถมองเห็นช่องว่างเพื่อเติมเต็มมันได้ แต่น่าเสียดายที่บางเรื่องก็ธรรมดาเกินไปที่จะหยิบมาบอกเล่าแต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้สึจิซาวะ ฮาริกะ (ซึสึ ฮิโรเสะ) คือหญิงสาววัยสิบเก้าทีเป็นเด็กกำพร้าที่ทำงานพาร์ทไทม์ทุกอย่างเพื่อหาเงินและใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อในในร้านอินเตอร์เน็ตที่เป็นที่กินที่นอน วันนึ่งเพื่อนของเธอไปเจอถุงเงินถูกทิ้งไว้ที่ชายหาดแล้วก็พากันไปเอาแต่ก็ถูกหญิงชราปริศนาตามไล่เอาคืนอย่างไม่ลดละ ระหว่างนั้นก็มีอีกสองคนมาเกี่ยวพันคือโมชิโมโตะ คาจิ (ซาดาโอะ อาเบะ) ผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่กำลังจะใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายด้วยความโลดโผนกับอาโอบะ รูอิโกะ (ซาโตมิ โคบายาชิ) และแล้วเงินก็ตกไปอยู่ในมือของคุณอาโอบะและฮาริกะกับคุณโมชิโมโตะก็ไปตามจนเจอแต่เงินนั้นกลับหายไปแล้ว ด้วยความรู้สึกผิดทั้งสามคนจึงมาขอโทษหญิงชราคนนั้นและเธอคือฮายาชิดะ อาโนเนะ (ยูโกะ ทานากะ) และอาโนเนะซังก็ไม่เอาเรื่อง ทั้งสามคนจึงได้เข้ามาอยู่ในบ้านคุณอาโนเนะที่เป็นโรงพิมพ์เก่าและการได้ใช้ชีวิตร่วมกันกลายเป็นความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นเพราะทั้งสี่คนต่างมีหลุมลึกในชีวิตต่างกัน กระนั้นเมื่อชีวิตกำลังจะลงตัวปัญหาก็ย่างกรายเข้ามาในนามของธนบัตรปลอมแล้วมันจะเกี่ยวของกันอย่างไรเหมือนเป็นบทหนังสักเรื่องที่สามารถจบได้ในเวลาจำกัดแต่เก่งมากที่หาเรื่องมาเล่าได้อย่างไม่รู้สึกว่าเรื่องถูกยืดออก นี่คือเรื่องของคนสี่คนที่ต่างมีความยากลำบากในการใช้ชีวิตต่างกันไปและโชคชะตาได้พาให้มาอยู่ร่วมกันโดยมีจุดร่วมเดียวและการใช้ชีวิตร่วมกันครั้งนี้จะเติมเต็มช่องว่างในหัวใจให้กันได้ ถ้าเอาเท่านี้เรื่องนี้สามารถเป็นหนังดีๆสักเรื่องที่จะลงเอยสวยงามได้และจบได้ในเวลาจำกัด แต่ความเก่งกาจของคนเขียนบทยูจิ ซากาโมโตะนั้นคือการหาเรื่องมาเล่าให้เป็นเหมือนชุดแต่งในรถสวยๆสักคันที่อาจไม่ใช่ชิ้นส่วนที่จำเป็นแต่เมื่อเอามาติดแล้วกลายเป็นเพิ่มความสวยงาม ตั้งแต่การหาเรื่องให้พัวพันกันเรื่องเงินสิบล้านจนถึงการพิมพ์ธนบัตรปลอมที่เอาจริงหรือถ้าคิดดีๆยกออกไปก็จะกลายเป็นหนังเรื่องสั้นอย่างที่ว่า แต่การเอาสถานการณ์เหล่านั้นเข้ามาเล่าที่เหมือนเป็นชุดแต่งอย่างที่ว่านั้นความเยี่ยมของมันคือไม่รู้สึกว่าเรื่องหลักถูกยืดให้ยาวอันจะทำให้ยาน แต่กลายเป็นเดินหน้าไปอย่างมีพลังได้ลุ้นและสงสัยในบทสรุปในเรื่องเหล่านั้นโดยที่แกนหลักเรื่องความรักความผูกพันยังแข็งแรงดีด้วยประเด็นที่จะสื่อแข็งแรงต่อให้เอาเรื่องท้าทายมโนสำนึกในใจมาประกบก็กลายเป็นส่วนเสริมที่ดี เพราะอย่างที่บอกคือประเด็นหลักคือคนสี่คนที่ต่างคนต่างขาดในบางเรื่องที่ต่างกันแล้วต้องมาพบกันเพื่อเป็นความรักความผูกพันที่จะลงท้ายด้วยการเติมเต็มหัวใจให้ทั้งตัวละครและคนดูได้อบอุ่นตื้นตัน และเรื่องนี้ก็ยืนหยัดอย่างแข็งแรงเพราะส่วนเสริมที่มีความน่าติดตามและมีเป้าประสงค์มาเพื่อท้าทายมโนธรรมในใจเรื่องผิดและถูกหรือการให้อภัยกันอันเป็นที่มาของความผูกพันเพื่อพัฒนาไปสู่ความรักที่แนบแน่นจนยอมไม่ได้ที่จะเห็นใครต้องเสียสละ ทำให้ถ้านับว่าเป็นส่วนเสริมก็คือการส่งเสริมที่ทรงคุณค่าเพราะการท้าทายหัวใจนั้นจะยิ่งทำให้ความรู้สึกทางใจลงลึกสู่ก้นบึ้งที่สำคัญคือไม่ได้บีบเค้นเร่งเร้า ซึ่งก็ตามแนวของซีรีส์ญี่ปุ่นที่จะไม่บีบเค้นหรือขยี้ทั้งที่มีช่องมากมายมีเรื่องมากมายที่สามารถเรียกน้ำตาได้เพราะเรื่องของแต่ละคนไม่ใช่เบาๆ และที่น่าทึ่งคือการเดินเรื่องยังเหมือนกับไปเรื่อยๆคล้ายการดูชีวิตจริงๆแต่เก็บเกี่ยวความผูกพันไปจนหมดสิ้นกระทั่งว่าคนดูจะรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้แล้วอบอุ่นตื้นตันเติมเต็มเพราะทุกคนต่างขาดและคำว่า "อาโนเนะ" ก็มีความหมายที่แยบยล เพราะคำว่าอาโนเนะมีความหมายของมันคือเป็นคำเริ่มต้นการสนทนาเพื่อบอกเล่าเช่นฟังนะหรือคุณรู้อะไรไหม? ซึ่งบทสนทนาหลังจากนั้นก็เป็นการบอกเล่าเรื่องบางอย่างให้คู่สนทนาฟังซึ่งก็คือธีมของเรื่องที่จะเหมือนกับสะกิดความสนใจคนดูเพื่อบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างของคนทั้งสี่คน โดยที่มีอาโนเนะซังเป็นศูนย์กลางปานว่าเธอคือคนกระจายเรื่องเล่าเพราะเธอก็มีเรื่องเล่าตัวเองและแน่นอนทุกคนต่างมีปัญหาของตนเองที่เป็นส่วนที่ขาด แล้วการมาอยู่ร่วมกันครั้งนี้จะทำดีหรือไม่ดีทำเรื่องถูกผิดอาโนเนะซังจะมีส่วนร่วมเสมอเช่นเมื่อฮาริกะลังเลที่จะยืนรอมองหน้าต่างโรงพยาบาล แต่สิ่งที่ลึกที่สุดกลับเป็นตัวอาโนเนะซังเองที่หลุดพ้นลำยากและเอาจริงคือน่าสงสารที่สุดแต่เธอก็มีจิตใจดีที่สุดและการเข้ามาของคนสี่คนที่ต่างคนต่างมีเรื่องของตนเอง ก็คือการเติมเต็มให้อาโนเนะซังให้กลายเป็นศูนย์รวมใจและมอบที่พักพิงทั้งกายใจให้ทุกคนกลับมาไม่ใช่แวะมาจึงเป็นความหมายที่แยบยลของคำว่าอาโนเนะการประชันบทบาทของสองสุดยอดนักแสดงสองรุ่นที่กลายเป็นความน่าจดจำ แม้ด้วยฉากหน้าเหมือนจะชูซึสึ ฮิโรเสะเป็นตัวเอกนำรายการแต่แท้จริงแล้วเรื่องนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือที่มีผลงานคลาสสิคมากมาย นั่นคือยูโกะ ทานากะที่บ้านเรารู้จักเธอในบทโอชินที่คนรุ่นผู้เขียนไม่มีใครไม่รู้จักขนาดที่แม้จะไม่รู้ชื่อจริงแต่ก็รู้จักในนามโอชิน และเรื่องนี้ยูโกะ ทานากะก็มอบการแสดงสมราคาสุดยอดนักแสดงเพราะมีให้หมดทั้งความจิตใจดีที่เห็นเลยว่าหัวใจติดหล่มอยู่หลังใบหน้านิ่งๆและแน่นอนมอบความอบอุ่นให้ทุกคนที่มาอยู่ร่วมกัน โดยเฉพาะการเข้าขากันดีกับสุดยอดนักแสดงอีกคนรุ่นหลานคือซึสึ ฮิโรเสะที่เป็นเด็กมีปัญหาจนสร้างความทรงจำใหม่มากลบบาดแผลและพร้อมจะแหกโค้งได้ทุกเมื่อถ้าไม่เจอกับอาโนเนะซังเสียก่อน ความเข้ากันนี้ทำให้แทบจะมีโฟกัสอยู่ที่คนสองคนที่มอบความรักความเข้าใจและเติมเต็มให้กัน กระนั้นที่ต้องยกนิ้วให้คือนักแสดงอีกสองคนที่แม้จะเหมือนเป็นตัวสมทบแต่ก็ไม่ถูกกลบหายคือซาดาโอะ อาเบะและซาโตมิ โคบายาชิที่มองเห็นอะไรข้างในเช่นกันและเรื่องนี้อาจเป็นเหตุผลที่ใครบางคนรักซีรีส์ญี่ปุ่น ด้วยการเล่าเรื่องโทนเรื่องภาพและเพลงที่ไม่ตางจากหนังใหญ่สักเรื่องที่สเกลเล็กหน่อยที่ไม่เน้นอลังการแต่เน้นความรู้สึกและหัวใจ และสารภาพว่าผู้เขียนดูเรื่องนี้ก็คิดถึงหนัง Shoplifters (2018) ที่ว่าด้วยเรื่องครอบครัวที่ไม่ใช่ครอบครัวกันจริงๆที่การอยู่ร่วมกันได้สร้างความงดงามของคำว่าครอบครัวได้ลงตัวยิ่ง และเรื่องนี้ก็เป็นอย่างนั้นจนอดคิดไม่ได้ว่าบทเริ่มแรกอาจจะมาเพื่อสร้างเป็นหนังแต่ไอเดียมันคล้ายกันจนมาสร้างเป็นซีรีส์หรือไม่ก็ไม่ทราบได้เพราะนักแสดงอย่างยูโกะ ทานากะหรือซึสึ ฮิโรเสะก็ไม่ใช่จะรับงานซีรีส์บ่อย และถ้าว่ากันที่ความเป็นคอนเทนต์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ก็ยังคงความเป็นญี่ปุ่นที่เรียบเรื่อยซึมลึกค่อยๆเก็บเกี่ยวโดยดึงความสนใจด้วยส่วนเสริมที่สนุกน่าติดตาม โดยที่แก่นแท้ของคำว่าครอบครัวก็ยังคงแข็งแรงกับการที่นกไร้รังที่บินเดี่ยวเพียงลำพังหนึ่งตัวที่ได้พบกับรังที่มอบความรักให้ที่เรียกได้ว่าบ้านที่พร้อมจะรอมันบินกลับมาไม่ใช่แวะมา เพราะครอบครัวคือการที่ทุกคนรักและห่วงหาอาทรกันแม้อาจจะจากเป็นหรือจากตายก็ตามดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 8 จาก X 広瀬すずภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 จาก X モデルプレスภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก X 【公式】『anone』最終回3月21日 ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/1GyjnZ4Ewnlrhttps://entertainment.trueid.net/detail/oPVG6V4lbKdLhttps://entertainment.trueid.net/detail/lOxbXMoBB970https://entertainment.trueid.net/detail/nJw29RjOV8D4เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !