ก็ขอสวัสดีนักอ่านทุกคนกันด้วยนะครับ หลังจากที่เข้าฉายกันไปแล้วในปลายปี 2021 ล่าสุด Venom: Let There Be Carnage หรือ Venom 2 ก็ได้เข้า Netflix ของโซนบ้านเรากันแล้ว ทาง Keydaily จึงขอถือโอกาสมารีวิวหนังเรื่องนี้กันอีกครั้ง สำหรับใครที่พลาดไม่ได้รับชมช่วงที่อยู่ในโรงภาพยนตร์นั่นเอง จะเป็นยังไงก็เชิญไปติดตามอ่านกันได้เลยครับเรื่องย่อhttps://www.youtube.com/watch?v=jaTHTR-5pD4เรื่องราวก็จะต่อจากภาคแรกหลังจากที่ Eddie Brock ที่แสดงโดย Tom Hardy และปรสิตต่างดาว Venom ร่วมมือกันเอาชนะ Riot ลงได้ ต่อมา Eddie ก็มีความพยายามที่จะจุดประกายให้กับอาชีพนักข่าวของเขาอีกครั้ง ด้วยการไปสัมภาษณ์ฆาตกรต่อเนื่องสุดอำมหิตอย่าง Cletus Kasady ที่แสดงโดย Woody Harrelson ที่ต่อมานั้น เขาจะได้กลายเป็น Host ของ ปรสิตสีแดงมฤตยูอย่าง Carnage ซึ่งเป็นตัวร้ายหลักของภาคนี้ภาคต่อที่แสนผิดหวังต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า Venom:Let There Be Carnage นั้น สำหรับตัวผู้เขียนแล้วไม่ได้เป็นหนังภาคต่อที่ดีอะไร เนื่องจากตัวหนังเองมีการเล่าเรื่องที่เร็วมากๆ ปมปัญหาและความขัดแย้งต่างๆในเรื่องนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในส่วนองค์ประกอบของหนังเองก็ใส่มาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องของการอยู่ร่วมกันระหว่าง Eddie และ Venom หรือการเล่าเรื่องของทางฝั่ง Cletus และอื่นๆ ทำให้ตัวหนังเองไม่สามารถพาเราไปได้สุดสักทางนักแสดงหลักนักแสดงที่มาแสดงในหนังเรื่องนี้ ต่างก็เป็นนักแสดงที่เก่งและมีความสามารถมากๆ และเล่นได้ดีตามบทที่ได้รับมาแล้ว แต่จากที่กล่าวไปข้างต้น ว่าหนังเรื่องนี้มีการเล่าเรื่องที่เล่ายิ่งกว่า Fast ทำให้มิติและเสน่ห์ของตัวละครต่างๆภายในเรื่อง ไม่สามารถทำให้คนดูอย่างเราๆรู้สึกอินไปกับตัวละครได้มากเท่าที่ควรตัวร้ายประจำภาคแน่นอนว่าหากพูดถึงองค์ประกอบของหนัง Superhero แล้วล่ะก็ ตัวละครที่เป็นตัวร้ายภายในเรื่องนั้น เป็นส่วนที่จะทำให้ตัวของฝั่งพระเอกได้ฉายแสงมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าหนัง Superhero ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ใช่แค่การมีฮีโร่ที่ดีเท่านั้น แต่ก็ต้องมีตัวร้ายที่ดีด้วยเช่นกัน แต่ใน Venom:Let There Be Carnage นั้น จากตัวอย่างที่โปรโมตความโหด ดิบ เถื่อนของตัวละครอย่าง Carnage ไว้แค่ไหนก็ตามแต่สุดท้ายแล้วตัว Cletus Kasady และ Carnage เองสำหรับผู้เขียนแล้วเป็นตัวร้ายที่สอบตกเอามากๆ ดูไร้ทิศทางและขาดเสน่ห์ ไม่มีความน่าจดจำของการเป็นวายร้ายเลย นอกจากฉากที่มาโชว์ความโหดและผ่านไปแค่นั้น เรียกได้ว่าใครที่เป็นแฟนๆของเหล่า Symbiotes แล้วหวังอยากที่จะเห็นความสุดโต่งของ Carnage เหมือนอย่างใน Comic แล้วล่ะก็ ขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆหนัง Action ที่ดูได้เพลินๆ หากจะให้พูดถึงข้อดีของหนังล่ะก็ คงจะเป็นการที่ตัวหนังเองคอยเสิร์ฟความ Entertain ให้กับคนดูตลอดทั้งเรื่อง ในด้านของฉาก Action ต่างๆก็ทำได้สนุกดูมันพอสมควร นอกจากนี้ CG ของเหล่าปรสิตต่างดาวภายในเรื่องก็ดูดี เนียนตาขึ้นมากกว่าภาคแรกความเป็นหนังรักรอมคอมภายใต้หนังฮีโร่https://www.instagram.com/p/CXBz9gYtyl-/อีกจุดที่ผู้เขียนชื่นชอบมากๆเลยคือ การเล่าความสัมพันธ์ของ Eddie และ Venom ให้ออกมาเหมือนคู่ สามี-ภรรยา ข้าวใหม่ปลามัน ที่ต้องมาเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกัน โดยในเรื่องเองเราก็จะได้เห็นทั้ง Eddie และ Venom ตีกันหรือทะเลาะกันทั้งเรื่อง ทำให้ทั้งคู่ต่างแยกทางกันอยู่ แต่สุดท้ายก็มาค้นพบว่าทั้งคู่นั้นต่างขาดซึ่งกันและกันไม่ได้นั่นเอง พล็อตแบบนี้นี่มันหนังรักชัดๆ นอกจากนี้ตัวหนังเองก็มีการเล่าถึงประเด็นของ LGBTQIAN+ อีกด้วยให้คะแนน 4/10จบกันไปแล้วนะครับกับรีวิว Venom:Let There Be Carnage ถึงแม้ว่าตัวหนังจะออกมาไม่ได้เหมือนที่เราตั้งความหวังเอาไว้ตอนแรก แต่ก็เป็นภาคต่อที่ทำให้เราได้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นระหว่าง Eddie กับ Venom ซึ่งหากใครที่ไม่ได้รับชมภาคนี้แล้วไปดู Venom 3 ที่กำลังจะมาในอนาคต ก็อาจจะไม่เข้าใจกับความสัมพันธ์ของสองตัวละครนี้ และด้วย End Credit ที่ Peak กว่าหนังทั้งเรื่อง ผู้เขียนจึงอยากแนะนำให้นักอ่านทุกคนได้ไปรับชมหนังเรื่องนี้กันด้วยนะ โดยสามารถหาดูได้แล้ววันนี้ผ่านทาง Netflix นั่นเองสุดท้าย รีวิวทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของตัวผู้เขียนเองเท่านั้น หากอยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้สนุกหรือไม่สนุก ทุกคนก็ต้องลองไปรับชมด้วยตัวเองนะเครดิตตัวอย่างภาพยนตร์จาก Youtube: Sony Pictures Thailandวิดีโอประกอบจาก IG: venommovieเครดิตรูปภาพทั้งหมดจาก Facebook: Venomภาพประกอบที่ 1 (Edit โดยผู้เขียน 1.1, 1.2, 1.3, 1.4 ) / 2 / 3 / 4 / ปก*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565