บุ๊ค และ นนท์ 2 นักเรียนชั้นมัธยมที่อาศัยในชุมชนย่านคลองเตยใจกลางกรุงเทพ แต่ด้วยฐานะทางบ้านของทั้งคู่เข้าขั้นยากจน ครอบครัวทั้ง 2 จึงต้องการให้ทั้งคู่เรียนสูง ๆ จะได้มีงานดี ๆ ทำแต่ด้วยความชอบของพวกเขาคือการเป็นนักร้องดนตรีแร๊ป พวกเขาใช้เวลาฝึกฝนด้วยกันจนได้เกิดเป็นเพลงแรกขึ้นมาในอินเทอร์เน็ต ที่มีเนื้อหาที่สะท้อนทางสังคมสุดโต่ง ทำให้เพลงของพวกเขาดังข้ามคืนจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ จากความชอบของพวกเขาจึงส่งผลกระทบต่อการเรียนทำให้ครูของพวกเขาเริ่มกังวลใจถึงขั้นจะต้องเรียนซํ้าชั้น ปัญหาทั้งหมดถูกกดทับด้วยระบบสังคมที่ไม่ได้เสริมสร้างให้เขาไปถึงฝันถูกระเบิดออกมาผ่านเสียงเพลง ในเมื่อข้าวยังต้องกินปากก็ยังร้องต่อไป การเดิมพันเพื่อความฝันครั้งนี้ของพวกเขาจึงไม่ง่ายเลยสำหรับโลกใบนี้ส่วนตัวคือได้ติดตาม Trailer และ อ่านเรื่องย่อมาก่อนก็เลยคิดว่าคงเป็นหนังสารคดีทั่วไปเหมือนที่เคยดูมา แต่หลังจากดูจบปรากฎว่า ดีกว่าที่คิดไว้ รู้สึกเดือดขึ้นมาทันที เหมือนเป็นหนังสารคดีไทยที่มีความเป็น Action ลงไปด้วยเสียงเพลงเป็นอาวุธสนทนาประกอบเสริม คล้ายกับดูสารคดีต่างประเทศยังไงยังงั้น อีกอย่างคือ Keywords หนังพูดถึงประเด็นทางสังคมที่เราจับต้องได้ตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมจึงอินง่ายเป็นพิเศษ ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง นำเสนอได้น่าติดตามไปจนจบ จะมียืดไปบ้างส่วนหนึ่งที่ช่วยได้มากคือการใส่ Texture เพื่อให้การลำดับเรื่องมีรสชาติมากขึ้น เช่น การตัดสลับช่วงย้อน Flashback ของตัวละคร , การฉาย Music Video , ภาพจากข่าวโทรทัศน์ , Graphic ต่าง ๆ ภาพจึงดู Hype ที่มีลูกเล่นแพรวพราวกับความครีเอทของทีมงานที่มีความเป็น Artist สูงอยู่เฉพาะตัว การตัดต่อจังหวะดี แม่นยำ แต่ บางช่วงติดการ์ตูนจนมันมือไปหน่อย เลยดูโดด ๆ จากความจริงไปบ้าง ถ้าไม่คิดอะไรก็ถือว่าเป็นสีสันเพิ่มเติมล่ะกัน บาง Scene เดินเรื่องเงียบไปหลายช่วง ถึงขั้นวูบหลับไปเป็นระยะ แต่พอเข้าใจได้ไม่ยากนัก บวกกับการดำเนินเรื่องที่ลื่นไหลของตัวน้อง 2 คนอย่างน้องบุ๊ค และ น้องนนท์ นำเสนอตัวตนผ่านความเป็น Rappers สู้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่กล้าดื้อในสิ่งที่ดี ไม่ยอมหักไม่ยอมงอในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าทำ เช่น การวิจารณ์สังคม การต่อต้านขนบการศึกษา หรือ การประชดชีวิตที่มีความเหลื่อมล้ำ ล้วนเป็นปัญหาที่หมกเม็ดตกทอดต่อกันจนเป็นดินพอกหางหมู จึงกลายเป็นปมสำคัญที่เกิดขึ้นของเด็ก 2 คนลุกขึ้นสู้ เรียกร้องเพื่อสิ่งที่ดีกว่าจากที่เป็นอยู่ ส่วนนี้ผมชอบเสน่ห์ความห้าว กวนโอ๊ยตามสไตล์วัยฮอร์โมนของน้อง ๆ ที่ตีแผ่ชีวิตผ่าน Dialogue ด้วยคำสบถ เกรี้ยวกราดผ่านเสียงดนตรีได้เร้าใจเจ็บแสบคัน ๆ เป็นระยะผมสับสน Timeline หน่อยว่าเหตุการณ์ไหนเกิดขึ้นก่อน หรือ หลังกันแน่ ความที่เนื้อเรื่องใช้เวลาถ่ายทำหลายปี เหมือนถ่ายทำเพื่อเก็บข้อมูลหลาย ๆ Shot ไว้เป็น Stock จากนั้นจึงค่อยเลือกอีกทีว่า Scene ไหนมีข้อมูลสำคัญจึงใส่เข้าไปอีกที ซึ่งมีทั้งการถ่ายสภาพแวดล้อมด้วยชุมชนแออัด , ครอบครัวแต่ละคน หรือ การสัมภาษณ์แต่ละบุคคลทั้งเกี่ยวข้องโดยตรงและทางอ้อม ซึ่งตรงจุดนี้จะงงไปหน่อย มีทั้งจำเป็นและไม่จำเป็นบ้าง ต้องสังเกตุให้ดีเพราะมี Detail มากมายรวมกัน โดยเฉพาะ Story ของน้อง บุ๊ค กับ นนท์ ที่มี Concept ชัดเจน ซื่อตรงที่ทำให้เรา Focus ถูกจุด แม้ช่วงแรกไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ซักพักก็เริ่มที่จะจำได้แล้ว ระหว่างทางหนังจะตัดสลับ Part ของบุ๊คบ้าง ของนนท์บ้าง มีปมดราม่า มีการแข่งขันแทรกอะไรบ้าง มีแวะไปที่ตัวละครสมทบอื่น อาทิ เพื่อนสาวในห้อง ( ชื่ออะไรจำไม่ได้ ) , พ่อแม่น้องบุ๊ค , พ่อแม่น้องนนท์ หรือชาวบ้านละแวกนั้น ประปรายกันไป ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อน Support ให้เราเข้าใจ เห็นใจ และให้กำลังใจทั้งคู่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ แม้ช่วงองค์หลังจะเน้นไปที่ตัวบุ๊คแทบจะเป็นหนังเดี่ยวของตนเองอยู่แต่ก็หาทางสรุปเส้นทางเดินของตัวละครได้ลงตัวหน้าที่ กับ ความฝัน ผมว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ และ ละเอียดอ่อนด้วย บางคนไม่ได้เกิดมาในสิ่งที่สังคมอยากให้เป็น บางคนก็อยากเป็นในสิ่งที่สังคมเป็น รูปแบบของขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมไทยกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเคารพเชื่อในสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่เชื่อ เพราะว่าเชื่อดี หมาไม่กัด ท่านอาบน้ำร้อนมาก่อน ผมว่าไม่ผิดที่เขาเชื่อมาแบบนั้น แต่บริบทสังคมมันเปลี่ยนไป ความเชื่อบางอย่างถูกแทนที่ด้วยวิทยาการความรู้ใหม่ บางอย่างคงอยู่ได้แต่บางสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงด้วยการปรับตัว เด็กสมัยนี้ความคิดก้าวกระโดดไปมาก ส่วนหนึ่งคือการเจริญก้าวหน้าของ Social Media ที่พวกเขาเติบโตมามีผลต่อการดำรงชีวิต ความผูกพันด้านเทคโนโลยีที่มีมากขึ้น ที่สำคัญเด็กรุ่นนี้คืออนาคตต่อไป พวกเขามีสิทธิ์เลือกชีวิต กำหนดสังคมเหมือนกัน ความฝันบางคนรู้แต่เนิ่น ๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่บางคนกว่าจะเจอฝันต้องใช้เวลากันนาน แต่อีกบางคนก็ไม่มีโอกาสทำตามฝันเลย ซึ่งเป็นอะไรที่เศร้าใจมาก ดังนั้นผู้ใหญ่ควรฟัง และ ชี้แจงแนวทางให้เด็กมากกว่าบงการความคิดให้เป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเป็น มีอะไรแลกเปลี่ยนคุยกัน แล้วเดินเคียงข้างเขาไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ มีฝันอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีกินด้วย ให้ความสำคัญกับหน้าที่เท่ากัน และ หาความ balance ควบคู่กันไปครับขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม EMCONCEPT เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับขอขอบคุณภาพประกอบโดย : Facebook.com/schooltownking = ภาพประกอบหน้าปก 1 / ภาพประกอบหน้าปกที่ตัวอักษร 2 Pixabay / ShonEjai = ภาพประกอบหน้าปก 3 Facebook.com/schooltownking = ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 / ภาพประกอบที่ 6 / ภาพประกอบที่ 7จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !