หากพูดถึง ไรอัน จอห์นสัน (Rian Johnson) ต้องผู้ถึงภาพยนตร์เรื่อง Star Wars: Episode VIII - The Last Jedi (2017) แต่กะนั้นผู้กำกับคนนี้ยังสร้างผมงานสุดต๊าซมากมายประดับวงการไม่ว่าจะเป็น Looper (2012) และปีที่ผ่านมาเขาก็สงผลงานสุดว้าวอย่าง Glass Onion: A Knives Out Mystery (2022) แต่วันนี้ผู้เขียนจะมาผู้ถึงภาพยนตร์อีกเรื่องของเขา ถึงแม้จะนานมากพอสมควรแต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ผู้เขียนหยิบมันขึ้นมาดูอยู่บ่อยๆ อย่างเรื่อง Knives Out ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ ที่ลงจอเงินไปในปี (2019) ภาพยนตร์แนว Comedy, Crime และ Drama นิดๆแต่แฝงไปด้วยเรื่องราวชวนให้คิดสะกิดต่อมสังคมได้อย่างแสบสันเล่าย่อๆการเสียชีวิตของ ฮาร์ลาน ธรอมบีย์ นำแสดงโดย (คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์) ที่กลายเป็นเรื่องราวชวนให้คิดปริศนา การตายของเขาเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่เล็กสำหรับครอบครัวในตระกูล ธอร์มบีย์ ชายแก่ที่ร่ำรวยมั่งคั่งจากการเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวน แต่แล้วในงานวันคล้ายวันเกิดของเขาที่อายุก็ปาไป 85 ปี กลับกลายเป็นปีสุดท้ายที่เขาจะได้ฉลองมัน รับชมเรื่องราวการไขคดีป่วน ตามหาคนฆ่าปูไปพร้อมๆกันกับ ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่“กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน”1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / เอาจริงๆชอบมากสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้การรังสรรค์ฉากต่างๆทำออกมาได้ดีจริงๆ ส่วนหนึ่งที่ชอบเป็นเพราะว่าฉากต่างๆมันทำได้ไหลลื้นและต่อเนื่อง Mood & Tone ต่างๆของเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ดูจะเข้าท่าเข้าทาง แต่ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์ที่มีแนวทางที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Comedy, Crime และ Drama แต่น่าเสียดายที่ผู้เขียนไม่ได้อ่านนิยายต้นฉบับมาก่อน หากได้อ่านมาก่อนสักนิดรับลองเลยว่าบทความเรื่องนี้ มันจะสุดได้มากกว่านี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือธีมหลักที่เน้นเล่าเรื่องราวอยู่ในบ้านของ ตระกูล ธอร์มบีย์ เป็นหลักครึ่งแรกภาพยนตร์เล่าเรื่องราวฉากต่างๆผ่านตัวละคร โดยใช้ flashback ในการเล่าเรื่องตอนแรกภาพยนตร์เล่นกับเล่าเหล่าคนดูเหมือนกับว่ากำลังเล่าเรื่องของตัวเองอยู่ แต่กระนั้นภาพยนตร์ก็เริ่มเผยเรื่องราวต่างๆของบทที่เต็มไปด้วยความแสบสันของตัวละคร ธีมหลังภาพยนตร์ใช้ฉากหลังเป็นคฤหาสน์หรูที่อยู่ห่างไกลผู้คน ในชนบทล้อมรอบไปด้วยป่า และสิ่งต่างๆมากมายในอาณาบริเวณตัวบ้านได้อย่างน่าหลงใหล ส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนติดหูติดตาอยู่นิดคือการร้อยเรียงฉากโดยใช้ flashback นี้แหละที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม2 คัท (Cut) คือ “มุม” ว่าด้วยเรื่องของบท / ภาพยนตร์ที่มีความวายป่วงแต่ไม่ถึงกับคำว่า วินาศสันตะโรเดินทางภายใต้สูตรสำเร็จของบทภาพยนตร์ได้อย่างคมคาย เป็นบทภาพยนตร์อีเรื่องที่ผู้เขียนนั่งดูแล้วให้ความรู้สึกถึงเสน่ห์อย่างน่าหลงใหล บทต่างๆถูกขยายออกจากกันในช่วงแรก เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยาย สืบสวนแนวปริศนาฆาตกรรมจากนักเขียนหญิงชื่อดัง “อกาธา คริสตี้” แล้วมาปรับแต่งเป็นภาพยนตร์สไตล์ “Whodunit” ไรอัน จอห์นสัน (Rian Johnson) ทำออกมาได้ดี ด้วยความที่เดิมที เป็นนิยายตัวละครที่หลากหลายอยู่เป็นทุนเดิน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับทำมันออกมาได้อย่างสวยงาม ขยายบทให้มีความซับซ้อนแต่ก็ไม่ได้ทำให้เราเหล่าคนดูหลงลืมประเด่นจนกลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ หักมุมและแอบมีจุด Easter Egg ต่างๆให้เราเหล่าคนดูคิดตามได้อย่างไม่เคอะเขิน จนกลายเป็นเสน่ห์ที่จะเซอร์ไพรส์เราเหล่าคนดูได้ตลอดเวลา มีเสน่ห์และดึงดูผู้ชมได้อยู่หมัด ถึงแม้ภาพยนตร์จะไม่ได้มีฉากที่บู๊สนั่นมันส์หยด แต่บทภาพยนตร์เรื่องนี้เอาคนดุได้อยู่จริงๆ ถึงกระนั้นก็ยังคงคมคายด้วยความที่เป็นนวนิยายมาก่อน นิยายจะเก่งเรื่องการตีแผ่สังคมเรื่องนี้ก็เช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ตีแผ่สังคมได้อย่างแสบสัน เจาะลึกจนเหล่าเล่าคนดูมีแอบสะดุ้งกันได้ สำหรับผู้เขียนเองต้องบอกว่าคุ้มมากๆเลยน่ะกับภาพยนตร์เรื่องนี้3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / “คริส อีแวนส์” (Captain America), “แดเนียล เคร็ก” (Skyfall), “โทนี คอลเล็ตต์” (Hereditary), “เจมี ลี เคอร์ติส” (Halloween), “คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์” (All the Money in the World), “อนา เดอ อาร์มาส” (Blade Runner 2049), “ไมเคิล แชนนอน” (The Shape of Water), “ลาคีธ สแตนฟิลด์” (Death Note), “แคทเธอรีน แลงฟอร์ด” (Love, Simon) และ “เจเดน มาร์เทลล์” (It) นักแสดงมากหน้าหลายตาร่วมมาประชันกันในเรื่องนี้ ภาพยนตร์จากปี 2019 เรื่องนี้ มันเป็นอะไรที่ประทับใจแบบสุดๆ ตัวละครที่โลดแล่นในโลกของนวนิยายมาก่อน กลายมาเป็นตัวละครที่มีชีวิตมันเป็นอะไรที่น่าสนใจ ตัวละครต่างๆก็ไม่ได้มีความขาวแบบขาวจัด หรือดำจัดจัดไปสะทีเดียวเพราะแต่ละตัวล้วนแสดงความเป็นมนุษย์ออกมาได้อย่างไม่เคอะเขิน อีกด้านหนึ่งเองก็กำลังจิกกัดสังคมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ผ่านตัวละครทั้งหลายเหล่านี้ หนุ่ม คริส อีแวนส์ นับว่าผลิกบทบาทด้านง่ายแสดงได้อย่างน่าสนใจ เพราะเราเหลาคนดูมักจะติดกับภาพจำที่ว่าต้องหล่อแข็งแรงและเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ แต่มาให้บทนี้เขากลับเป็นผู้ลายที่ตรงกันข้าม ผู้เขียนว่าดีนะเพราะว่าจะได้เห็นบทบาทใหม่ๆของนักแสดงได้อย่างเต็มที่ และแต่ละตัวละครก็น่าสนใจไม่แพ้กันที่ขนกันมาเต็มขบวน4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / ประเด็นตกผลึกที่ได้จากเรื่องนี้น่าสนใจไม่แพ้กัน ภาพยนตร์มันทำให้เราเหล่าคนดูเห็นได้เลยว่า การมีเงินทองมากมายมหาศาลนั้นก็เหมือนกับการมีอำนาจที่ใหญ่คับฟ้า เราได้เห็นเรื่องราวเหล่านี้ผ่าน Dialog ต่างๆที่ตัวละครทั้งหลายได้พูดคุยกัน เรื่องราวนี้แหล่ะที่เป็นประเด็นให้ผู้เขียนหยิบเรื่องราวเหล่านี้มาพูดว่า เป็นภาพยนตร์ที่แสบสันสะกิดต่อมสังคมได้อย่างน่าสนใจ เหล่าตัวละครทั้งหลายในเรื่องถูกแบบออกเป็นชนกลุ่มล้างที่ถูกมองว่าเป็นผลเมืองนอกกฎหมายอย่าง “อนา เดอ อาร์มาส” เธอรับบทนี้และแสดงมันได้อย่างเข้าถึง สื่อให้เห็นถึงความไม่รู้ได้อย่างน่าสนใจ เพาะคนส่วนใหญ่ไม่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็มักจะแสดงออกแบบเธอ พอการตายของ ฮาร์ลาน ธรอมบีย์ นำแสดงโดย (คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์) มาถึงครอบครัวตระกูล ธรอมบีย์ ก็ตัวตัวเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติอย่างของพ่อที่ตายไป แต่พอได้รู้ความจริงเท่านั้นแหล่ะเรื่องราวก็วินาศสันตะโรขึ้น ภาพยนตร์สื่อให้เห็นถึงความเป็นคนหน้ามือหลังมือได้อย่างสวยงาม คนที่เคยมีกินมักจะไม่ค่อยเหนใจผู้ที่กำลังเดือดร้อนหรือด้อยกว่า แต่คนที่ไม่ได้มั้งมีมาแต่เกิดกลับเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากกว่า และภาพยนตร์ได้สื่อให้เห็นถึงอำนาจที่น่ากลับของเงินทองทรัพย์สมบัติ ว่ามันสามารถทำให้คนดีๆคนหนึ่งหลายเป็นคนที่จิตในอำมหิตได้มากมายเพื่อนี้เลยหรือ5 “คัท !!!!”อาจจะเป็นภาพยนตร์ที่มีอายุอยู่พอสมควรสำหรับเรื่องนี้ ที่ต้องบอกอย่างนี้ก็เพราะว่า ไรอัน จอห์นสัน (Rian Johnson) ในปีที่ผ่านมาเขาได้ออก Glass Onion: A Knives Out Mystery (2022) ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าเพื่อน ไป แต่สำหรับเรื่อง Knives Out ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ มันแสบสัดได้อย่างลงตัว บทภาพยนตร์ที่ไม่ได้วนอยู่ในอ่าง การลำดับภาพยนตร์ที่ติดตาตรึงใจเข้าถึงง่ายและสวยงาม Mood & Tone ที่ดูจะเข้าท่าเข้าทางแบบสุดๆ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Nathan Johnson เป็นผู้รังสรรค์เพลงให้ชวนติดตามและพิษวงศ์ในเรื่องนี้ อีกทั้งยังทำให้เราเหล่าคนดูได้เห็นบทบาทใหม่ๆของเหล่านักแสดงได้อย่างคุ้มค่าตั๋วแบบสุดๆ และที่ขาดไปไม่ได้เลยคงจะเป็นเรื่องของ ความหมายและประเด็นตกผลึก ที่เราได้จากเรื่องนี้ มันช่างเป็นอะไรที่แสบสัน และสื่อให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างน่าหลงใหล แต่กระนั้นแล้วภาพยนตร์ก็เล่าเรื่องราวของความเป็นมนุษย์ที่ขาดตกบกพร้องในทุกด้าน และลำดับภาพที่ชวนให้เราเหล่าคนดูติดตามได้อย่างไม่เคอะเขิน แต่อย่างไรก็ตามช่วงท้ายของภาพยนตร์เหมือนจะแอบยัดๆและเล่าเรื่องเร็วไปบ้างก็ตามนั้นมันยังคุ้มค่าตั๋วอยู่ดีชอบคำนี้ (บ้านฉัน กฎฉัน กาแฟฉัน) - Knives Out ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่(สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล Sahamongkolfilm International / Netflix - ปก / 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมและในวันนี้ก่อนจากกันไปบอกเราหน่อยว่าผู้อ่านเป็นแฟนภาพยนตร์เรื่อง Knives Out ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ 2019 เพราะอะไร อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ แล้วท่านจะไม่พลาดเหล่าคอนเทนต์ใหม่ๆที่ทาง จิปาถะ และ อรรถรส จัดมาให้แบบ Exclusive เจาะลึกถึงวงการบันเทิงที่มากกว่าใคร หากคุณรักภาพยนตร์ รักซีรีส์ อนิเมะ แอนิเมชัน และเกม ที่เดียวที่ จิปาถะ และ อรรถรสเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!