เขย่ารายได้ “Mean Girls 2024” นักวิเคราะห์เชื่อ..นี่แหละตัวแม่ตัวแรกของปี
พอย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของปี 2024 ก็ดูเหมือนว่าเราอาจจะได้พบกับตัวแม่เบอร์แรง..ตัวแรงของศักราชเข้าเสียแล้ว เพราะสุดสัปดาห์ที่ 2 ในเดือนมกราคมของสหรัฐฯ จะตรงกับวันหยุดรำลึกถึง มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (Martin Luther King Jr. Holiday) ที่จะเป็นวันหยุดต่อเนื่องถึงวันจันทร์ และสัปดาห์นั้นก็จะมีหนังเปิดตัวเข้าใหม่ชนกันถึง 3 เรื่อง
แต่เรื่องที่โดดเด่นที่สุดที่นักวิเคราะห์หมายตาเอาไว้แล้วนั้นก็คือ “Mean Girls” หนังตลกวัยรุ่นที่ทำการรีเมคมาจากละครเวทีฉบับมิวสิคัล ซึ่งก็เป็นการดัดแปลงมาจากหนังต้นฉบับในปี 2004 อีกทีนั่นแหละ เว็บไซต์ BoxofficePro มองว่า หนังเวอร์ชันใหม่นี้อาจจะมาเพื่อสร้างปรากฏการณ์บนบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาได้ตั้งแต่ต้นปีเลย
นักวิเคราะห์มองว่า Mean Girls 2024 น่าจะสามารถทำรายได้เปิดตัว 3 วันปกติได้ที่ 20-40 ล้านเหรียญ เลยทีเดียว เพราะเชื่อว่าปัจจัยจากกระแสในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok และ Instagram นี่แหละที่จะช่วยเป็นแรงผลักดันทำให้หนังประสบความสำเร็จ โดยหนังเรื่องนี้ถูกมองว่าจะได้กลุ่มผู้ชมวัยรุ่นอเมริกันเป็นหลักที่จะตีตั๋วเข้าไปอุดหนุน
แม้ว่าจะเป็นฉบับรีเมค แต่ก็เป็นการดัดแปลงสร้างใหม่ที้แตกต่างจากต้นฉบับเมื่อ 20 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง เพราะหยิบเอามาแค่คาแรกเตอร์เท่านั้น แต่โครงสร้างหนังเปลี่ยนเป็นรูปแบบร้องเล่นเต้นแซ่บแทน ย้อนกลับไปในปี 2004 หนังต้นฉบับเคยเปิดตัวได้ดีเกินคาดกับรายได้ 24 ล้านเหรียญ ก่อนจะรับกระแสปากต่อปากเชียร์เรื่องนี้กัน เก็บรายได้รวมไปได้สูงถึง 86 ล้านเหรียญ และรวมทั่วโลกกว่า 130 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างแค่เพียง 17 ล้าน
ซึ่งถ้าหากว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อีกครั้ง นักวิเคราะห์ก็เชื่อว่า Mean Girls 2024 จะกลายเป็นตัวแม่ตัวแรกของปีนี้ เพราะมีสิทธิ์ที่หนังจะทำยอดรวมเฉพาะอเมริกาได้สูงระดับ 50-100 ล้านเหรียญ ดูทรงอาจจะเก็บได้สูงกว่าหนังต้นฉบับด้วยซ้ำ เพราะแรงผลักดันของวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของหนัง ยิ่งถ้าหนังได้รับคำวิจารณ์ที่ดีขึ้นมาด้วย ก็น่าจะเป็นกระแสปากต่อปากเกิดขึ้นอีกครั้ง
สำหรับ Mean Girls เวอร์ชันใหม่นี้ได้ “ทีนา เฟย์” กลับมารับหน้าที่เขียนบทและอำนวยการสร้างเช่นเคย รวมทั้งเธอยังกลับมาเล่นบทเดิมของตัวเองอีกด้วย พร้อมกับนำแสดงโดยนักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “แองกอรี ไรซ์”, “เรเน่ แรปป์” หรือ “คริสโตเฟอร์ บริตนีย์” โดยหนังเรื่องนี้ยังไม่กำหนดที่แน่ชัดว่าจะเข้าฉายในเมืองไทยด้วยหรือไม่
และนอกจากนี้ในสัปดาห์นี้จะยังมีหนังอีก 2 เรื่องเข้าฉายพร้อมกัน นั่นก็คือ “The Beekeeper” หนังแอคชันสูตรสำเร็จของ “เจสัน สเตแธม” และหนังตลกอิงพระคัมภีร์ “The Book of Clarence” ที่ทั้งสองเรื่องนี้ นักวิเคราะห์มองว่าน่าจะเปิดตัวได้ไล่เลี่ยกันที่ 7-15 ล้านเหรียญ โดยเรื่องแรกอาจจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อย เพราะมีดาราขาบู๊ระดับแม่เหล็ก
ส่วนเรื่องหลังถึงจะมีตัวพ่อมาประชันบทบาทกัน แต่เนื้อหาค่อนข้างดูเข้าถึงยากกว่า อีกทั้งคำวิจารณ์ของหนังที่ได้มาจากการพรีเมียร์ในเทศกาลที่ลอนดอนมานั้น ก็ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ที่ธรรมดา มีทั้งกลุ่มที่ชอบและไม่ชอบปะปนกันไปในระดับครึ่งต่อครึ่ง นั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยจะดีนัก ในแง่การทำเงินในระยะยาวของหนัง
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa