รีเซต

ถอดไลฟ์สด “ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” แถลงขอถอนตัวออกจากตำแหน่งผู้บริหาร “แสงทองฟินแลนด์”

ถอดไลฟ์สด “ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” แถลงขอถอนตัวออกจากตำแหน่งผู้บริหาร “แสงทองฟินแลนด์”
ดาราเดลี่บันเทิง
22 กุมภาพันธ์ 2567 ( 17:45 )
58

ถอดไลฟ์สด “ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” แถลงขอถอนตัวออกจากตำแหน่งผู้บริหาร “แสงทองฟินแลนด์”

          กลายเป็นประเด็นที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจอยากหนักกับปมที่ “ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ได้ออกมาโพสต์เรื่องครอบครัวรักร้าว จนฝ่ายหญิงออกมาไลฟ์ตอบกลับ และทันทีที่ “แพรวพราว แสงทอง” ไลฟ์จบเจ้าตัวก็ขึ้นไลฟ์ทันที พร้อมบอกว่าครั้งนี้จะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ให้มันจบแค่ตรงนี้ บางช่วงบางตอนฝ่ายชายเผยว่า

 

          “ภาพลักษณ์เราก็เป็นคนหึงเมีย แต่เอาจริงเราก็ไม่ได้หึงขนาดหรอก เขาน้อยใจว่าเราไม่ได้ไปเที่ยวไปนั่นไปนี่ เราคุยกันแล้วว่าไปก็ไปเลี้ยงก็เลี้ยง เราไม่ได้กินเหล้าทุกวันนะ เราก็ขายของช่วยเมียทุกวัน อยากให้ไปไหนก็ไป มันเป็นเพราะกาลเวลา เรามันอยู่กันมานาน แต่เราไม่เคยเปลี่ยน เราก็รักเขาตลอด ความเป็นผัวมันรู้สึกอยู่แล้วว่าเมียรำคานและตีตัวออกห่าง หงุดหงิดให้เราบ่อย แต่เป็นนานเกินไปไหม ตอนนี้มีปัญหาเกิดขึ้น เราก็มานั่งสังเกตว่าเมียเราเปลี่ยนไปหรอ เรื่องหึงหวงตัดไปได้เลย เวลาไปไหนมาไหนผมก็เลือกไปกับเพื่อน พอทำงานเยอะๆ เราก็อยากไปกินไปเล่นบ้าง เราก็ไปกับเพื่อนไม่ได้ไปไหน พอเช้ากลับมาก็มาทำงานเหมือนเดิม ไปแค่ใกล้บ้าน แต่ยามต้องอยู่ก็อยู่ มีงานบ่อยขนาดนี้จะไปเที่ยวบ่อยได้ไง เดือนละ 2-3 รอบแค่นั้น เพราะเราขยันและอยากได้เงิน”

          “วันนั้นผมเปิดกล้องวงจรปิดในโทรศัพท์เพื่อดูลูก เขาก็บอกว่าพ่อไม่ต้องกลับกับแม่นะ พาน้องเพลงไปงาน เพราะน้องเพลงมีงาน ก็เลยไปนครพนม พอจะนอนก็เลยเปิดกล้องวงจรปิดดูในโทรศัพท์ เลยเห็นแพรวพราวเดินคุยโทรศัพท์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก็เลยเก็บไว้ในใจ ว่าคุยโทรศัพท์กับใคร เราก็นอนไม่หลับยันเช้า จนวันต่อมาเราเลยถามว่าเธอคุยโทรศัพท์กับใคร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เค้าก็บอกไม่ได้คุยกับใคร คุยกับเพื่อน เราก็ถามอีกคุยโทรศัพท์กับใคร แล้วใส่หูฟังทำลับๆ ล่อๆ ในห้องโถง เค้าก็ไม่ตอบ วันต่อมาเค้าก็โพสต์ลงเฟซว่า “กูไม่ใช่คนดี 100% กูรักองค์กร กูรักครอบครัว” เราก็งงว่าแค่ถามแล้วโพสต์แบบนั้นทำไม แล้วโพสต์รูปทุกคนไม่มีรูปผัว เอฟซีก็ถามสนั่นเลยว่าตีอะไรกัน แล้ววันนั้นก็นอนแยกห้องกันเลย ไม่มีการง้อ เค้าก็ไม่ง้อ เพราะถ้าเค้าง้อเราก็ละลายแล้ว แต่วันนั้นไม่เลย มีปัญหาทุกครั้ง ฉันต้องง้อทุกครั้ง และก็ไม่มีคำตอบว่าวันนั้นคุยกับใคร แล้วเค้าก็มาว่าว่าฉันไปถามต่อหน้าคนอื่น”

          “ฉันก็เลยไปถามว่าเธอโพสต์ทำไม ฉันแค่ถามว่าเธอคุยกับใคร แล้วถ้าเป็นฉันเป็นคนผิด เธอจะเอาฉันไว้มั้ย สุดท้ายก็เป็นฉันที่ต้องไปบีบแขนง้อว่าแม่โพสต์แบบนี้ทำไม ทั้งเอฟซี ทั้งลูกเค้าจะรู้สึกยังไง แล้วนางก็เลยบอกว่าคุยแค่เรื่องซื้อรถ เราก็เชื่อ เชื่อให้มันจบไป เพราะเราก็ไม่อยากเป็นครอบครัวที่มีปัญหา แล้วนางก็โพสต์รูปครอบครัวก็จบไป ต่อมาดอกสองอาเขาก็โพสต์ให้กำลังใจแพรวพราวแล้วโพสต์รูปครอบครัวไม่มีฉัน แล้วมารุมฉัน ฉันทำอะไรผิด ฉันก็เสียใจมากเพราะฉันเคารพเขา แทนที่จะมาถามฉันแต่มาทำแบบนี้”

          “วันต่อมาฉันก็เลยไปสืบมาว่าเค้าคุยเรื่องซื้อรถไหม สรุปคือเขาโกหก ในวงฉันเขาก็รักฉันเหมือนกัน คนในวงส่งข่าวมาก็มีแต่ผมก็เลือกที่จะไม่เชื่อ ถ้านางยังโกหกผมเกิน 3 วันผมจะไม่เอาไว้ละ จนจบงานเขาก็บอกว่าคืนนี้แม่มีอะไรจะคุยด้วย ก็มาสารภาพว่าเราไปคุยกับแฟนเก่าที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ฉันก็บอกว่าฉันรู้ว่าเขาโกหก เธอเป็นทุกข์เพราะเธอโกหกฉัน เค้าก็บอกว่าเค้าคุยกับคนนี้ๆๆ เป็นเพื่อนกัน ฉันเลยบอกว่าคุยกับแฟนเก่าทำไม ทำไม่ได้นะ ก็ขอให้เขาเลิกคุย ก็ร้องไห้เสียใจที่เมียโกหกแต่เชื่อแค่นิดนึง เค้าก็บอกว่าจะไม่ทำอีกแล้ว เพราะไม่เจอกันนานเลยคุยกันเฉยๆ ฉันเลยถามว่าฉันทำอะไรผิดไปอยากให้ฉันแก้ไขมั้ย เค้าก็บอกว่าไม่มีอยากให้ฉันบริหารค่ายให้ดี  มีสติในการใช้ชีวิตก็พอ เราก็ขอให้บล็อกผู้ชายที่เป็นแฟนเก่าออกไป ก็จบและขอโทษกันไปก็จบของธันวาไป”

          “พอมามกราวันนั้นเราเมา ฉันเลยบอกทีมงานว่าให้ไปส่งเมียเพราะเขาเมาแล้ว ทีมก็มาส่งเมียขึ้นห้องล็อคห้องให้อย่างดี ทีมงานก็กลับไปงาน เขาอยู่บ้านคนเดียว ก็มีคนส่งข่าวมาว่าแพรวพราวออกจากบ้านไปเดินออกบ้านไป ก็พากันกลับไปดูเขาก็บอกเขาเมาจะอ้วก ก็พาส่งเข้าห้องนอนรอบสอง เราก็กลับไปปาร์ตี้ต่อ รอบสุดท้ายยายคนนึงมานอนเฝ้าเขาที่บ้านเพราะกลัวแพรวพราวเมาแล้วเดินไปทั่วกลัวเข้าป่าไป รอบที่สามนางก็ยังลงมาอีกแล้วแอบออกประตูหลังบ้าน กล้องวงจรปิดจับทุกอย่าง กล้องสระว่ายน้ำก็เห็นว่าแพรวพราวเดินคุยโทรศัพท์ออกจากบ้านไปออกประตูหลัง ไม่เหมือนคนเมาแบบ 2 รอบที่ผ่านมา เดินไปคุยโทรศัพท์ไกลๆ พักนึง เราก็ยังดูอยู่ว่าหลบไปไหน เราเห็นเองในกล้องวงจรปิด ทุกอย่างมันสะสมมา”

          “เราไม่เสียใจ เราตัดสินใจแล้วใครจะว่าฉันเลวหรือยังไงก็แล้วแต่ ทุกวันนี้มีแค่ลูกคือพอแล้ว (ร้องไห้) ด่าอะไรมาก็คือฉันหมด ฉันเป็นคนพูดตรง ทำดีกับคนไม่ขึ้นสักครั้ง ฉันทำเพื่อทุกคนมาตลอดแต่ทุกคนกลายกลับมาด่าว่าทุกอย่างเป็นเพราะฉัน ทั้งที่ฉันอยู่ตัวคนเดียวไม่มีใคร ไม่ได้มีเพื่อนเลย วันนี้ฉันไม่ไหวแล้ว แล้วทำไมฉันถึงมาเล่า บางเรื่องมันก็เกินไป มันสุดจะทน ฉันอัดเสียงไว้หมดแต่คงเปิดให้ฟังไม่ได้ แต่ฉันไม่ไล่ออกนะ ถ้าเค้าอยากออกให้เค้าออกเอง แค่ฉันถามเขาว่าเอาออกไหมเขาตอบไม่ได้ มือมิกซ์มีเป็นแสนเป็นล้านแต่เขาตอบไม่ได้ ฉันก็น้อยใจนะ ฉันผิดที่ฉันพูดวันนี้ฉันยอมรับ แล้วฉันไม่ดีเลยหรอ แล้วเอาคนนี้ออกไม่ได้หรอเป็นไรนักหนา ที่ผ่านมาอยู่กันแฮปปี้มาตลอด แต่วันนี้มีแต่ปัญหา อยู่กันมา 5 ปี ลูก 2 ตั้งนานทำไมไม่พูด”

          “วันนี้ขอยุติบทบาทในนามผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์ ทุกสิ่งทุกอย่าง ขอถอยออกมาเอง ถ้าอยู่แล้วมันอึดอัดไม่อยากให้ทุกคนลำบาก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงต่อไป แต่ก็ยังดูแลโตเกียวมิวสิคเหมือนเดิม ศิลปิน ผลงานยังพบกันได้เหมือนเดิม ขอยุติการเป็นผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์ ต้องขอโทษทุกคนด้วย อย่าใช้คำว่าทิ้ง ใช้คำว่าถอนตัวดีกว่า ไม่มีผมเค้าก็บริหารกันได้ แต่งานไหนที่ผมรับแล้วก็จะไปทุกงาน แต่ถ้างานไหนที่ผมไม่ได้รับผมก็ไม่ไป ถ้าเค้าออกมาไลฟ์อีกผมก็จะไม่ไลฟ์แล้ว ให้มันจบไป”

          “แสงทองฟินแลนด์อยู่ในใจผมตลอดมาและอยู่ในใจเหมือนเดิม มันหมดเวลาเข้าหากันแล้ว เพราะเค้าไม่แคร์ความรู้สึกของเราแม้แต่นิดเดียว ที่ดินที่ผมซื้อไว้ อะไรที่เป็นชื่อผม ผมจะมอบให้เป็นของลูกผมหมดเลย ผมจะไปหาเอาใหม่ทั้งหมด วันนี้ผมอาจะเป็นผู้กระทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โต แต่เรื่องที่ผมเจอมามันก็ทำให้ผมจากคนเข็มแข็งก็กลายเป็นคนอ่อนแอและหวั่นไหวแบบไม่รู้ตัว ผมเจ็บนานไม่ได้เพราะผมมีภาระและค่าใช้จ่าย ในความเป็นพ่อแม่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ลูกดูแลเหมือนเดิมเต็มร้อย ถ้าแสงทองฟินแลนด์เดือดร้อนผมก็ยังพร้อมช่วย เดินหน้าต่อไป โปรดเข้าใจและขอโทษทีมงานทุกคนด้วย”