"Barbie" เตรียมทำเงินแซง Harry Potter ภาคสุดท้าย ขึ้นเป็นหนังทำเงินสูงสุดของสตูดิโอวอร์เนอร์ฯ
The Hollywood Reporter ได้รายงานว่า ‘Barbie’ ทำรายได้รวมทั่วโลกไปแล้วถึง 1,183.9 ล้านเหรียญ ซึ่งแซงหน้ารายได้ของ ‘Aquaman’ (2018) ที่ทำไว้ 1,148 ล้านเหรียญ ขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดลำดับที่ 2 ของ Warner Bros.
รายได้ดังกล่าวเป็นรองแค่ ‘Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2’ (2011) ที่ทำไว้ 1,342 ล้านเหรียญ
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ ‘Barbie’ จะทำรายได้แซงหน้าขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ได้ในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากทำรายได้ห่างจาก ‘Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2’ แค่ประมาณ 160 ล้านเหรียญเท่านั้น
‘Barbie’ ได้พิสูจน์แล้วว่าศักยภาพมากพอให้นักวิจารณ์แสดงความชื่นชมและสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ชมในวงกว้าง จนทำให้เกิดกระแสปากต่อไปอย่างได้ผล โดยสามารถทำรายได้เปิดตัวไปมหาศาลถึง 162 ล้านเหรียญ และติดอันดับที่ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ โดยสัปดาห์ล่าสุดนั้นทำไปมากกว่า 30 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้ที่ลดลงในแต่ละสัปดาห์ประมาณ 35% เท่านั้น
นอกจากนี้ ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาดของ Warner Bros. ได้ทำให้ผู้ชมจำนวนมากให้ความสนใจ ‘Barbie’ มากขึ้น โดยทางเว็บไซต์ Quorum ได้รายงานว่า จากการสำรวจผู้ชม ‘Barbie’ ในสหรัฐฯ จำนวน 1,800 คน ปรากฏว่า 11% ของผู้ชมนั้น ไม่เคยเข้าชมภาพยนตร์เลยตั้งแต่เกิดวิกฤติ Covid-19, 11% จำไม่ได้ว่าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายเมื่อไร, 46% เข้าชมภาพยนตร์อย่างสม่ำเสมอ และ 32% ยืนยันว่าไปชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ทุกเรื่อง
ในสัปดาห์ต่อไป ‘Barbie’ จะเจอกับคู่แข่งสำคัญนั้นคือ ภาพยนตร์ DC ล่าสุดอย่าง ‘Blue Beetle’ ของ Warner Bros. เช่นกัน รวมถึงภาพยนตร์คอเมดีเรต R เรื่อง ‘Stray’ ของ Universal ที่อาจทำให้ ‘Barbie’ หลุดจากอันดับที่ 1 ได้
ที่มา : ScreenRant