รีเซต

เหมือนถูกสร้างเพื่อกันและกัน "ณเดชน์" เล่าโมเมนต์สวีทขอ "ญาญ่า" แต่งงาน เผยยังไม่แต่งเร็ว ๆ นี้ ขอโฟกัสคู่ "หมาก" ก่อน

เหมือนถูกสร้างเพื่อกันและกัน "ณเดชน์" เล่าโมเมนต์สวีทขอ "ญาญ่า" แต่งงาน เผยยังไม่แต่งเร็ว ๆ นี้ ขอโฟกัสคู่ "หมาก" ก่อน
TNN ช่อง16
26 มิถุนายน 2566 ( 21:26 )
130

หลังทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมากว่า 10 ปี ก็เซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคู่รักพระนางสุดฮอต "ณเดชน์ คูกิมิยะ" กับ "ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์" 

ภาพจาก True inside

 

ล่าสุดหนุ่มณเดชน์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังจากกลับจากทริปขอแต่งงาน โดยเผยว่า ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก แถมยังล่กจนโดนสาวญาญ่าจับได้ แต่ก็เป็นโโมเมนต์ที่มีความสุขที่สุด ส่วนเรื่องที่ได้ออกทริปกับพ่อตาที่นอร์เวย์ ก็มีการได้เปิดใจคุยกัน รวมไปถึงยังให้คำแนะนำของการใช้ชีวิตคู่อีกด้วย

ภาพจาก IG : urassayas

 

"ถือเป็นโอกาสที่ดีจะได้ไปนอร์เวย์กับพ่อตา ปกติไปนอร์เวย์ไปเจอคุณพ่อก็จะอยู่แบบครอบครัว แต่พอเราไปอยู่ด้วยกัน 2 คน ผมว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่ได้คุย ได้เปิดใจกัน แม้กระทั่งเขาได้สอนเราในการใช้ชีวิตคู่ ผมรู้สึกดีมากที่ได้ไปออกทริปกับเขา แล้วผมก็มีความสุขนะครับที่ได้เรียกว่าพ่อตา จะได้ชินครับ"

ภาพจาก IG : urassayas

 

"ตอนขอแต่งงานมีการเตรียมการนานพอสมควรครับ เตรียมทุกอย่างทั้งสถานที่ บริษัททัวร์ให้เขาเป็นคนจัดการวางแผนการท่องเที่ยวให้ ที่สำคัญก็คือเพื่อนๆ ที่ไป จริงๆ แล้วจะขนไปเยอะกว่านี้แต่หลายคนก็ติดงาน แต่ทุกอย่างก็ออกมาราบรื่น ดีใจมาก

จริงๆ ผมเก็บความลับไม่ค่อยเก่งอยู่แล้ว แต่เขาคงไม่ได้คิดมากสักเท่าไหร่ แต่ผมก็จะมีอาการออกนิดนึง ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะ แล้วเราก็มีเวลาในการพเที่ยวเยอะ อีกอย่างที่อิตาลีเป็นสถานทีที่โรแมนติก เหมาะที่จะมอบโอกาสนี้ให้กับเขา เขาเหมาะสมกับสถานที่นั้น เราก็อยากให้โมเมนต์นั้นมันอยู่ที่ตรงนั้น"

ภาพจาก IG : urassayas

 

"สถานที่ตรงนั้นในประวัติศาสตร์เป็นอ่างอาบน้ำของราชินี ผมก็รู้สึกว่า การที่ได้ไปขอเขาตรงนั้น เราก็เหมือนจะเป็นอ่างอาบน้ำโอบอุ้มเขา แต่ว่าในจริงๆ แล้วไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้าคนรักกันจริงๆ มันใช่แล้ว ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะขอ และมอบหัวใจที่บริสุทธิ์ให้แก่กัน

วินาทีนั้นผมพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ผมเตรียมทุกอย่างไปหมดเลย ว่าจะพูดแบบไหน เรามีโอกาสได้ไปสถานที่ต่างๆ ในอิตาลี ก็มีความหมายดีๆ ผมก็แพลนในหัวว่าจะพูด 1 2 3 แล้วจะคุกเข่า แล้วจะหยิบแหวนออกมา แต่พอถึงเวลาจริงๆ ผมพูดอะไรก็ไม่รู้ ผมไปบอกว่าคุยกับที่บ้านแล้วนะ นู่นนี่ คำที่พรรณนาสวยงามหายไปหมด แต่มันก็ดีใจ ก็เข้าใจพี่หมากแล้วเหมือนกันว่าทำไมเขาขอคิมแล้วสวมแหวานผิดมือ"

ภาพจาก IG : urassayas

 

"ไม่มีใครร้องไห้ครับ กรี๊ดกร๊าดกันอย่างเดียว โดยเฉพาะคู่หมั้นของผม กรี๊ดกร๊าดมีความสุข ผมก็มีความสุขมากๆ ผมไม่ได้ร้องไห้ครับ มันตื้นตันมันดีใจ แต่ก็ไม่มีน้ำตา

ผมว่าเขาน่าจะรู้อยู่แล้ว ผู้หญิงน่าจะมีเซนส์ พอหลังเราทำกิจกรรมเสร็จก็ไปเปลี่ยนชุด เขาก็แต่งหน้าอยู่ แล้วเขาหันมา ผมก็เร่งเขา ที่รักเร็วๆ เปลี่ยนชุดๆ เพราะว่าจริงๆ มันใกล้ถึงเวลาที่ผมนัดเพื่อนๆ แล้วพระอาทิตย์มันกำลังตก ผมก็หวังไม่ให้ฝนตก แล้วผมก็ล่กมาก น้องก็คงจะจับได้"

 

"เขาสวยทุกวันอยู่แล้วครับ ไม่ไปอิตาลีก็สวยครับ ประโยคที่ตั้งใจจะบอกเขาผมขอเก็บเป็นความลับดีกว่า คือประโยคที่ผมบอกกับเขาตอนนั้นคือ ผมอยากจะแทรกซ้อนเขาไปอยู่ในชีวิตคุณ ความหมายของผมคือ อยากจะประสานให้เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ว่าผมตื่นเต้นมาก จนผมพูดอะไรไม่รู้ สิ่งที่ผมเตรียมไปแต่ไม่ได้พูด ก็ได้บอกเขาไปแล้วครับ วันนั้นน้องก็ตอบว่า Yes, of course"

ภาพจาก IG : urassayas

 

"เรื่องแหวนผมเป็นคนชอบเครื่องประดับอยู่แล้ว แล้วผมก็มีดีไซน์ที่คิดว่าเขาน่าจะชอบ แล้วเราก็ปรึกษาทางร้าน ด้วยความที่เป็นแหวนที่ผู้หญิงจะใส่ ก็ดูอันที่เหมาะสม ตัวเม็ดผมซื้อไว้นานแล้ว เพราะมันมีช่วงนึงที่รู้สึกว่าพร้อมแล้ว พอด้วยงานด้วยอะไร ก็คิดว่ายังไม่ใช่เวลาของมัน จนมาถึงวันที่ 1 มิถุนา ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้ขอน้องเขา ตัวเม็ดเป็นของที่ฮ่องกง ตอนนั้นผมพยายามหาเพชรชนิดนี้ที่ผมชอบ อยากให้คนพิเศษของผมใส่ ไม่ใช่ 12 กะรัตนะครับ ไม่ไหวครับ"

ภาพจาก IG : urassayas

 

"พอกลับมาทำงาน ก็มีคุยๆ กัน แต่คิดว่าน่าจะยังไม่ใช่เร็วๆ นี้เพราะว่าทำงาน เหมือนกับว่าไปใช้ชีวิตที่ยุโรปแล้วกลับมาไถนาที่ไทยต่อ ต่างคนต่างทำงานหนักครับ แต่งเมื่อไหร่เดี๋ยวบอกอีกครั้งครับ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องระยะเวลาครับ เราก็ได้คุยกับที่บ้าน ทุกคนก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร ไม่ใช่ปีนี้แน่ๆ ครับ แพลนแต่งที่ไหนแบบไหน ยังไม่รู้เลยครับ ตอนนี้ผมโฟกัสที่พี่หมากก่อนครับ"

 

"พอหมั้นกันแล้วความรู้สึกมันเปลี่ยนครับ ผมรู้สึกว่าเราคิดถึงเขามากขึ้น เรารู้สึกว่าไม่อยากห่างกัน คือเราก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่หมั้นกันแต่งงานกัน ไม่ได้รู้ถึงความเป็นเจ้าของที่มากขึ้น เท่าเดิม แต่เรารู้สึกว่าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น ต่อไปเราต้องจับมือเดินไปพร้อมๆ กัน ผมว่าเรามีความคล้ายกันเยอะ เราเหมือนถูกสร้างมาให้อยู่ด้วยกันได้ ส่วนเรื่องบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จไม่ใช่เรือนหอ แต่เป็นบ้านของครอบครัวผมเอง เรือนหอก็ยังไม่ได้ดูเป็นจริงเป็นจัง ก็เอาสะดวกตอนนี้ก่อน"

ภาพจาก IG : urassayas

ภาพจาก IG : urassayas

ภาพจาก IG : kugimiyas