Short CommentCreed III (2023)อาจไม่ใช่งานดราม่ากีฬาที่ดีที่สุด แต่ก็ดีพอสำหรับแฟนหนังชุดนี้ถ้าว่ากันที่ออกจากเงา Rockyด้วยความที่ดูไปบ่นไปเป็นชายที่ใช้ชีวิตมานานที่หัวใจไม่ยอมแก่แต่ยอมรับว่าได้ผ่านโลกมาไม่น้อย สิ่งที่ชอบในชีวิตลูกผู้ชายก็คือการดูกีฬาที่เมื่อก่อนดูทุกอย่างที่เป็นกีฬาคือดูพอๆกับดูหนังดูซีรีส์ แน่นอนหนึ่งในกีฬาสุดโปรดคือมวยสากลที่เมื่อยุคทองของมวยสากลระดับโลกในบ้านเราจะมีการถ่ายทอดสดมาให้ดูที่ผู้เขียนจำได้คือยุคสิงห์รถบรรทุก Larry Holmes เรื่อยมาจนยุคท้ายๆที่ยังติดตามดูคือยุคของ Oscar De La Hoya เจ้าของฉายา The Golden Boy แน่นอนผู้เขียนติดตามข่าวสารวงการมวยอย่างใกล้ชิดผ่านนิตยสาร "มวยโลก" หนังจากนั้นเท่าที่จำได้คือการถ่ายทอดมวยโลกเริ่มลดน้อยลงจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่จนปัจจุบันผู้เขียนไม่ได้ติดตามวงการมวยแล้วคือเอาเท่าที่ดูได้ เมื่อชอบดูมวยหนังมวยก็คือตัวเลือกแรกๆที่จะดูเช่นเดียวกับหนังกีฬา NFL จึงได้ผ่านตาหนังมวยมามากแต่ที่เอาดีได้กลับไม่ค่อยมากตาม กระนั้นผู้เขียนคือแฟนหนังชุด Rocky ที่ดูทุกภาคภาคละไม่รู้กี่รอบคือถ้าเริ่มดูภาคแรกก็คือยาวไป จนกระทั่งมีการขยายความจาก Rocky มาสู่รุ่นลูกอย่าง Creed ก็ยังต้องติดตามมาถึงภาคสามแล้วเรื่องราวของ Adonis Donnie Creed (Michael B. Jordan) ที่แขวนนวมเพราะก็ผ่านศึกเหนือเสือไต้มานานจึงลาสังเวียนในฐานะแชมป์โลกผู้ยิงใหญ่ผู้ไม่เคยเสียแชมป์บนเวที จนปัจจุบันเขาใช้ชีวิตอย่างมความสุขกับ Bianca (Tessa Thompson) มีลูกสาวหนึ่งคนโดยเขายังวนเวียนในวงการมวยด้วยการเป็นโปรโมเตอร์ผู้อยู่เบื้องหลังแชมป์โลกคนปัจจุบัน ทว่าวันหนึ่งอดีตของเขาเมื่อครั้งเยาว์ก็ตามมาทันในนามเพื่อนตายเมื่อกาลก่อนอดีตนักมวยสมัครเล่นแชมป์นวมทองคำ Damian Dame Anderson (Jonathan Majors) ที่เพิ่งออกจากสถานกักกันหลังจากเข้าไปใช้ชีวิตในนั้นสิบแปดปี เรื่องไม่น่าจะมีอะไรถ้าไม่ใช่ว่า Donnie เป็นสาเหตุให้ Dame ถูกจองจำและวันนี้ Dame มาขอโอกาสในการขึ้นชกมวยแต่ขอขึ้นชิงแชมป์โลกเลย แม้เหมือนจะเป็นไปไม่ได้แต่ท้ายที่สุด Dame ก็ได้ขึ้นชกชิงแชมป์และเอาชนะแชมป์ในสังกัดของ Donnie คว้าเข็มขัดแชมป์ไป จนเมื่อความจริงปรากฎว่า Dame กลับมาเพื่อทวงหนี้ความอยุติธรรมในใจและ Donnie ก็เหมือนติดค้างทางที่จะหลุดพ้นก็คืออดีตเพื่อนรักต้องมาฟาดปากกันบนเวทีเหมือนจะก้าวออกจากเงาของ Rocky แต่ก็ยังหนีไม่พ้นเส้นทางเดิมเหมือนสร้างมาเพื่อแฟนหนังชุดนี้ สำหรับภาคนี้ที่ไม่แน่ใจนักว่าทำไมงานกำกับเรื่องแรกของ Michael B. Jordan จึงเลือกก้าวออกมาจากร่มเงาของ Rocky ทั้งที่เรื่องนี้ได้ถูกพัฒนามาจาก Rocky ตั้งแต่ต้น หนึ่งคือการเอาตัวละครคู่รักคู่แค้นของ Rocky คือ Apollo Creed มาขยายในรุ่นลูก สองคือโครงเรื่องและการเดินเรื่องเหมือนกับหยิบเอาเค้าโครงของ Rocky มาใช้คือนักมวยเก่งได้เจอโค้ชคู่ใจแล้วกลายมาเป็นแชมป์ทั้งที่เป็นไก่รองบ่อน แน่นอนระหว่างนั้นต้องมีภาพการซ้อมมวยอย่างหนักได้พบรักกับหญิงที่ใช่เหมือน Rocky ที่ได้เจอกับ Adrian ที่กลายมาเป็นสายลมไต้ปีก แล้วเมื่อถึงภาคนี้ก็ยังเหมือนเดิมทำให้นึกไปถึง Rocky 5 ที่ Rocky ต้องมาชกกับลูกศิษย์ตัวเองไม่เหมือนก็คล้าย ทำให้การพยายามออกจากเงาครั้งนี้ยังหนีไม่พ้นอาจเพราะทำอะไรไม่ได้มากกับหนังมวยแต่อย่างน้อยบทหนังยังเอาดีได้มีดราม่าที่มืดหม่นสัมผัสถึงพลังงานที่เป็นแรงขับดันของตัวละคร แล้วเมื่อยังเดินบนเส้นทางเดิมคนที่จะอินไปกับหนังมากหน่อยคงเป็นแฟนหนังชุดนี้ที่ได้ดูมาตั้งแต่ Rocky ซดหมัดกับ Apollo การไม่มีตัวละครของ Rocky ทำให้พลังบางอย่างหายไป แน่นอนเมื่อนี่คือการแตกหน่อแตกแขนงมาจาก Rocky จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของหนัง Rocky ดังนั้นสองภาคที่ผ่านมาพลังที่ทำให้คนดูขนลุกขอบตาชื้นคือการได้เห็น Rocky ในวัยชราที่ได้ผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์ให้ลูกของคู่รักคู่แค้นของตัวเอง ทำให้ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าแม้ตัวละคร Rocky จะเป็นตัวสมทบแต่พลังของ Rocky มีมากเพราะคนดูรู้สึกผูกพันจึงกลายเป็นว่าขโมยซีนได้เป็นพักๆ ดังนั้นเมื่อภาคนี้ Rocky หายไปโดยไม่ได้อธิบายว่าเขาไปอยู่ที่ไหนหรือจากไปแล้วก็เหมือนต้มยำที่ไม่ได้ใส่มะนาว เพราะต้องไม่ลืมว่าที่คนดูติดตามหนังชุดนี้ตั้งแต่ Creed มาถึง Creed II นั้นเพราะมี Rocky แต่ภาคนี้เมื่อไม่มี Rocky จึงเหลือแค่อารมณ์แต่หัวใจไม่มา ยิ่งทุกอย่างยังเหมือนเดินตามรอยเรื่องราวของ Rocky ด้วยแล้วยิ่งชัดเพราะคนดูที่ได้ดูจะไม่มีทางที่จะไม่คิดถึง Rocky ว่าเขาไปอยู่ไหน หนังจึงขาดพลังบางอย่างไปอย่างน่าเสียดายแต่ก็เข้าใจว่ามันต้องมีวันนี้แต่อย่างน้อยอ้างอิงถึงสักหน่อยให้คนดูรู้บ้างก็ยังดีว่า Rocky ยังอยู่ดีหรือเปล่ากระนั้นก็ยังจัดเป็นหนังดราม่ากีฬาที่ดูสนุกได้ตามสูตร เมื่อไม่มี Rocky ที่มีราคาที่ต้องจ่ายแสนแพงแล้วถ้ามองในมุมความเป็นเอกเทศ Michael B. Jordan ถือว่าสอบผ่านกับงานกำกับครั้งแรกที่โจทย์อาจไม่ยากมาก เพราอย่างที่บอกคือหนังเดินตามรอยเดิมเต็มตัวแถมมีดราม่าที่เป็นสูตรสำเร็จของหนังดราม่ากีฬาที่เอามาใช้กันบ่อยๆ กระนั้นถ้านับว่าหนังเดินเรื่องไปอย่างมีที่มาที่ไปมีเหตุมีผลในตัวเพื่อที่จะพาคนดูไปสู่สถานการณ์ที่ได้ลุ้นในการต่อสู้บนเวทีเรื่องนี้ถือว่าเอาดีได้ เพราะเรื่องดราม่าที่เป็นเบื้องหลังจับต้องได้บทสนทนาที่ใช้ก็มีพลังมากพอให้แม้ไม่ใช่ฉากฟาดปากกันบทเวทีแต่การสนทนาที่ดูอึดอัดกระอักกระอ่วนกับอดีตที่พาดทับกันจนเป็นแผลใจก็ยังทำให้คนดูดูได้อย่างสนุก กระนั้นสิ่งที่หนังดราม่ากีฬาต้องเผชิญคือตอนจบที่คนดูรู้ว่าจะออกมาหน้าไหนหรืออย่างน้อยก็คิดว่าควรไปทางนั้นหนังจึงต้องใส่ความเร้าใจเข้าไปและในที่นี้คือฉากชกมวยที่ดูสมจริงที่สุดเรื่องหนึ่ง และสิ่งที่เป็นก็ทำให้แม้จะเป็นงานตามสูตรแต่ก็เป็นงานที่ดูสนุกไม่ใช่งานหยาบแน่นอนแม้จะยังไม่ใช่งานดราม่ากีฬาที่ดีที่สุดแต่ก็ดีพอการแสดงที่เชื่อได้และน่าเสียดายสำหรับบางคน สิ่งที่ผู้เขียนเห็นในการเป็น Adonis Donnie Creed ของ Michael B. Jordan ครั้งที่สามนี่คือวุฒิภาวะ ก็ใช่ที่สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่บทกำหนดมาให้เป็นแต่นักแสดงก็ต้องถ่ายทอดให้ได้และกับเรื่องนี้ Michael B. Jordan สอบผ่านแต่น่าเสียดายที่ขาดความผูกพันไป ส่วนที่แสดงอย่างได้ใจคือ Jonathan Majors ที่อาจต้องยอมรับว่าตัวละคร Dame ของเขามีมิติเชิงลึกที่ซับซ้อนกว่าและการแสดงที่ซ่อนความคับแค้นไว้ข้างในหรือตอนที่ระเบิดมันออกมากระทั่งลีลาที่ตั้งใจให้คนดูเกลียดเขาก็จัดมาได้หมด จนกระทั่งถ้าไม่ติดว่านี่คือหนังชุด Creed อาจคิดว่าเขาเป็นพระเอกเพราะเห็นชัดๆว่าเด่นกว่าเกือบขโมยหนังมาไว้ในมือได้ ซึ่งก็น่าเสียดายที่ปัญหาส่วนตัวของเขาไม่ต่างจากปัญหานอกเวทีของนักมวยทำให้เขาอาจไม่ได้รับบทดีๆแบบนี้อีก ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆก็คือการขึ้นจอเป็นครั้งที่สามจึงไม่มีอะไรให้ตำหนิเพราะคนดูเชื่อไปแล้วแต่ต้องย้ำอีกครั้งว่าความผูกพันมันหายไปเลยทำให้เมื่อถึงเวลาต่อให้นักแสดงจัดการได้แต่คนดูแทบไม่รู้สึกอะไรด้วยแม้จะไม่มี Rocky แต่ก็เป็นหน้าที่ที่ต้องดู ถ้าเป็นแฟนหนังชุด Rocky เรื่องนี้ก็ยังดูสนุกเพราะเหมือนดู Rocky ในบริบทที่ต่างไปและหม่นมากกว่า ซึ่งผู้เขียนก็บอกไม่ได้ว่าถ้าคนที่ไม่ใช่แฟนหนัง Rocky หรือไม่เคยดูมาจะรู้สึกยังไงแต่ถ้าชอบแนวดราม่ากีฬาหรือชอบมวยสากลล่ะก็สนุกแน่ เพราะหนังเป็นไปตามครรลองของหนังดราม่ากีฬาที่มีทั้งแรงบันดาลใจมีดราม่าให้จับต้องมีฉากชกมวยที่สนุก แต่ถ้าเป็นแฟน Rocky หรือเคยดูมาจะสนุกกว่าเพราะยังมีชิ้นส่วนเดิมๆมาให้หายคิดถึงในรูปแบบต่างๆแน่นอนความผูกพันกับสิ่งเหล่านั้นจะทำให้คนดูเฝ้ามองและคอยดูว่าจะเห็นอะไรมาให้สะกิดหัวใจบ้าง เพียงแต่เมื่อหนังไม่มี Rocky ในหนังที่ต่อยอดมาจากหนังชุด Rocky ก็ทำให้คนดูรุ่นผู้เขียนใจหายไปไม่น้อย ยิ่งในภาคนี้บางอย่างก็ต้องจากลาไปตามกาลเวลาทำให้ถ้าจะมีภาคต่อไปในวันข้างหน้าอาจไม่เหลือร่องรอยของความทรงจำหรือรอยอดีตให้ได้หายคิดถึงอีก กระนั้นต่อให้มีต่อมาไม่ว่ายังไงผู้เขียนยังคิดว่าทางไปไม่ได้มากขนาดนั้นคนดูอาจได้เห็นหนังเรื่องนี้มีความเป็นตัวเองเป็นหนังมวยที่เดินตามทาง Rocky เท่านั้นดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก 1,2 / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5 / ภาพที่ 6,7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram creedmovie ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/DKNgjDjjP82Bhttps://entertainment.trueid.net/detail/GOk9ZXKPGjj2https://entertainment.trueid.net/detail/pYyM5M5y7MOYคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน