หากใครกำลังมองหาภาพยนตร์ยิงยาว ไม่ต้องซอยย่อยให้ติดตามหลายตอนจนตาเปียกแฉะ เราขอนำเสนอภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดใน Netflix นั่นก็คือเรื่อง Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำ (2024) ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น คอมเมดี้ ที่พร้อมเสิร์ฟฉากแอ็คชั่นแบบสุดบู๊มาพร้อมกับความตลกโปกฮาที่สอดแทรกมาได้อย่างลงตัว นำแสดงโดย คิมอูบิน (Kim Woo Bin) นักแสดงเกาหลีมากฝีมือที่สร้างภาพจำได้ทุกคาแรกเตอร์ เรื่องความสนุกจะเป็นอย่างไรวันนี้เรามีรีวิว Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำพร้อมเปิดวาร์ปนักแสดงมาฝากกันจ้า รายละเอียดภาพยนตร์ Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำ ชื่อเรื่อง: Officer Black Belt / เจ้าหน้าที่สายดำ / 무도실무관 แนวซีรีส์: Action / Comedy ผู้กำกับ: Jason Kim ช่องทางสตรีมมิ่ง: Netflix ระบบเสียงและภาษา: ซับไทย / พากย์ไทย วันที่ออกฉายครั้งแรก: 13 กันยายน 2567 ความยาว: 1 ชั่วโมง 49 นาที นักแสดงนำ: คิมอูบิน (Kim Woo Bin) คิมซองกยุน (Kim Sung Kyun) เรื่องย่อ Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำ https://www.youtube.com/watch?v=NO-21vXgh6E พื้นเรื่องเริ่มจากอีจองโด (รับบทโดย คิมอูบิน) ลูกชายคนเดียวของร้านไก่ทอด ผู้คลั่งไคล้ในการเล่นกีฬาและความเร้าใจทุกชนิด ทำให้เขามีความชำนาญในการกีฬาและการต่อสู้อย่างดุเดือดครบ 9 ดั้ง ไม่ว่าจะเป็นจากทั้งกีฬาเทควันโด เคนโดและยูโด กิจกรรมยาวมว่างของเขาคือการออกไปส่งไก่ทอดให้เหล่าลูกค้าของทางร้านและการใช้เวลาเล่นเกมกับกลุ่มเพื่อนสนิทอีก 3 คนของเขา เรื่องตัดเข้าสู่เนื้อหาหลักเมื่ออีจองโดซึ่งกำลังกลับจากส่งไก่ทอดให้ลูกค้าแต่ดันจับพลัดจับผลูไปช่วยเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังโดนนักโทษในช่วงคุมประพฤติทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ จนในเวลาต่อมาอีจองโดได้ถูกทาบทามโดยเจ้าหน้าที่คิมซนมิน (รับบทโดย คิมซองกยุน) เพื่อให้เข้ามาเป็นผู้ช่วยในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายดำ (เจ้าหน้าที่ศิลปะด้านการต่อสู้) แบบพาร์ทไทม์ซึ่งกินเวลาประมาณเดือนกว่าๆ และรอให้เจ้าหน้าที่คนเดิมซึ่งได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวดีก่อน ความสนุกสนานและฉากแอ็คชั่นน่าสนใจจึงเริ่มต้นขึ้นจากการแท็กทึมกันระหว่างอีจองโดและคิมซนมิน เพื่อออกล่าตามหานักโทษที่อยู่ในช่วงคุมประพฤติ ใส่กำไล EM ที่ทำผิดกฎ จากคดีนักโทษข่มขืน ลักขโมย ขยับขยายกลายเป็นนักโทษที่เกี่ยวข้องกับคดีพรากผู้เยาว์ซึ่งเป็นจุดหักเหครั้งใหญ่ซึ่งทำให้อีจองโดจริงจับกับตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายดำมากกว่าแค่งานแก้เบื่อแบบ part time สู่การต่อสู้ที่เปรียบเสมือนต้องใช้ทั้งชีวิตของเขาเข้าแลกกับความถูกต้อง นำไปสู่ความสูญเสียและแรงใจอันแสนสำคัญจากกลุ่มเพื่อนสนิทของอีจองโด เรื่องราวความสนุกแบบเต็มๆ และจุดจบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามภาพยนตร์ Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำ ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix รีวิว Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำ พล็อตสูตรสำเร็จของภาพยนตร์แอคชั่น คอมเมดี้ จะว่าพล็อตเรื่องใหม่กิ๊ง แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ไหม ส่วนตัวก็มองว่าไม่ค่ะ เนื้อเรื่องเป็นการเอาคนธรรมดาที่ไม่เคยทำงานด้านการคุมประพฤติมาก่อนแต่ดันมีทักษะด้านการต่อสู้แบบดีเข้าขั้นมาช่วยเจ้าหน้าที่ตัวจริงเพื่อการปฏิบัติงานและตัวเอกก็รู้สึกมีความสุขับความตื่นเต้นที่ได้เจอรายวัน หลังจากเข้ารับตำแหน่งชั่วคราวเรื่องก็ไหลลื่น เจ้าสู่ช่วงเก็บ level ของเนื้อหาด้วยการติดตามจัดการเคสที่นักโทษดื้อดึงเป็นพิเศษ ทำให้เราเห็นถึงความเก่งกาจด้านการต่อสู้ของพระเอก ในช่วงครึ่งแรกของหนังจะเบาๆ สมอง แต่พอตัดเข้าสู่ช่วงหลังเนื้อหาจะค่อนข้างหนัก **แจ้งเตือน** ไว้ก่อนเลยค่ะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางเพศและผู้เยาว์ หากใครที่ Trigger เรื่องนี้ง่ายๆ แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงไปก่อนจะดีกว่า เคลือบบทคอมเมดี้มาได้แบบน่ารัก กลมกล่อม หากพล็อตหลักของเรื่องเข้มข้นเปรียบเสมือนกาแฟดำคั่วกลางที่ได้กลิ่นซีตรัสมากลบความรู้สึกขมขื่นแค่เพียงเบาๆ ความเป็นคอมเมดี้ของหนังในเรื่องนี้ก็คงทำหน้าที่คล้ายน้ำเชื่อม ไซรัปหรือครีมเทียมที่ช่วยเติมให้เรื่องมันไม่ขมเข้มมากนัก มีการเติมจังหวะสนุกๆ เข้ามาเพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสและตัดบทความดาร์กของเนื้อเรื่องไม่ให้เยอะมากเกินไป ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นฟีลความตลกขบขันในแบบฉบับของความเป็นเกาหลีอย่างที่พวกเราคุ้นเคยมาจากภาพยนตร์ ซีรีส์หลายๆ เรื่อง เพราะเป็นภาพยนต์ความยาว 100 นาทีกว่าๆ รายละเอียดของตัวละครจึงถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างจำกัด ด้วยเวลาของเรื่องที่ไม่ยาวมากนัก แตกต่างไปจากซีรีย์ที่สามารถพาเหล่าผู้ดูไปทำความรู้จักแต่ละตัวละครได้อย่างละเอียดแต่ในภาพยนตร์อาจไม่มีเวลามากเท่าไหร่ บทการแนะนำตัวของพระเอกถูกจำกัดไว้ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีตอนเริ่มเรื่อง การเล่าปูมหลังของเจ้าหน้าที่คิมซนมินแบบคร่าวๆ ไหนจะประวัติเพื่อสนิทของพระเอก รวมไปจนถึงคุณพ่อของพระเอกที่ดูเหมือนว่าจะมีปมอะไรสักอย่างในใจแต่ก็ไม่ได้เล่าออกมาเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง รวมไปจนถึงเพื่อนสนิทอีก 3 คนของพระเอก เราเลยแอบเสียดายส่วนนี้ไปหน่อย ฉากต่อสู้ดีเดือด บ้าบิ่น ดิ้นกระจาย ด้วยความเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นและภาพยนตร์เรื่องเจ้าหน้าที่สายดำก็รู้ตัวเองดี ฉากการต่อสู้จึงถูดอัดมาอย่างเต็มที่ เอฟเฟกต์ แสง สีและของเหลวสีแดงมาแบบไม่มีพร่อง ฉากต่อสู้เร้าใจมากๆ มีทั้งแบบการต่อสู้แบบประปรายพอเรียกเสียงฮา หรือแม้กระทั่งฉากต่อสู้ที่กินเวลานานหลายนาที เรื่องฉากแอ็คชั่นบอกเลยว่าทำมาได้ดีเลยล่ะ ตีแผ่เรื่องกฎหมาย คดีความของประเทศเกาหลีใต้ จากหลายๆ ปมที่หนังพยายามสื่อออกมาผ่านรูปคดี การต่อสู้ของผู้คนในเรื่องจะเห็นได้เลยว่ากฎหมายสำหรับนักโทษในบางคดีก็ยังดูขาดความเข้มข้นและยังเป็นที่กังขาของประชาชนในประเทศ ซึ่งปัญหาข้อนี้เรามองว่าเป็นปัญหาที่ยังต้องได้รับการแก้ไขในอีกหลายๆ ประเทศเช่นเดียวกัน สรุปโดยรวมได้ว่า Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำ (2024) เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่โดยรวมทำมาได้ดีค่ะ พล็อตเรื่องมีความเป็นไปได้ มีเหตุผลเพียงพอที่จะพาตัวเอกเข้าไปเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ควบคุมความประพฤติก่อนที่จะขยับเข้าไปยุ่งกับเรื่องใหญ่โตมากขึ้น ฉากต่อสู้ทำมาได้สะใจ มีความคอมเมดี้แบบเบาๆ ให้เราได้ยิ้มกันอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้แอบเสียดายก็แต่เรื่องการลงรายละเอียดของบางตัวละครที่ดูมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่านี้ แต่อาจจะด้วยเรื่องของเวลาเลยอาจทำให้เล่าได้น้อยไปหน่อย เป็นหนังต่อสู้เดือดๆ คอมเมดี้เบาๆ อีกเรื่องที่คุ้มค่าการดู แปะวาร์ป Officer Black Belt เจ้าหน้าที่สายดำ https://www.instagram.com/p/C_cRm-kvj8N/?img_index=1 คิมอูบิน (Kim Woo Bin) รับบท อีจองโด นักแสดงและนายแบบชื่อดังชาวเกาหลีใต้ที่เริ่มเข้าวงการมาตั้งแต่ช่วงสมัยมัธยมปลาย ก่อนเดบิวต์ผลงานการแสดงในฐานะนักแสดงนำซีรีส์ White Christmas ตามมาด้วยผลงานอื่นๆ อีกมากมาย เช่น School 2013, The Heirs, Friend: The Great Legacy หลังจากนั้นในปี 2017 คิมอูบินหยุดงานไปเพื่อเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งโพรงจมูกและกลับมารับงานแสดงอีกครั้งเมื่อปี 2022 หลังจากที่รักษาโรคจนหายดี คิมซองกยุน (Kim Sung Kyun) รับบทคิมซนมิน นักแสดงชาวเกาหลีใต้ เขาเกิดในปี 1980 และเริ่มไต่เต้าจากการแสดงผลงานละครเวทีในปี 2001 และได้มีโอกาสแสดงงานภาพยนตร์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2012 ได้แก่เรื่อง Nameless Gangster: Rules of Time ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลสุดยอดนักแสดงหน้าใหม่มาครอบครองจากหลากหลายเวที ปัจจุบันคิมซองกยุนมีผลงานการแสดงทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดังหลายเรื่อง เช่น Moving (2023), The Fiery Priest (2019), Don't Buy the Seller, 12.12: The Day https://www.instagram.com/p/Cu3slDUrrae/?hl=en Lee Hae-young (อี แฮยอง) รับบทเป็นพ่อของอีจองโด นักแสดงรุ่นเก๋าที่เกิดในปี 1970 ที่มีผลงานการแสดงทั้งภาพยนตร์และซีรีส์มารวมกว่า 80 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Himalayas (2015), The Hunt (2016), Kill Boksoon (2023), Mood of the Day, Moving, Bloodhounds เป็นต้น ภาพหน้าปก โดย ผู้เขียน ภาพที่1 โดย Netflix Korea|넷플릭스 코리아 ภาพประกอบบทความ ภาพที่1 จาก Netflixth / ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5 ภาพที่6 ภาพที่7 โดย Netflix Korea|넷플릭스 코리아 คลิปในบทความ คลิปที่1 จาก Netflix Thailand Social media: ____kimwoobin / leehae0 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !