รีเซต

รีวิวหนัง "One Battle After Another หนึ่งศึกครั้งแล้วครั้งเล่า" หนังที่ดึงดูดใจน้อยที่สุด มาเป็นหนังที่เยี่ยมที่สุด!

รีวิวหนัง "One Battle After Another หนึ่งศึกครั้งแล้วครั้งเล่า" หนังที่ดึงดูดใจน้อยที่สุด มาเป็นหนังที่เยี่ยมที่สุด!
Jeaneration
22 กันยายน 2568 ( 12:00 )
124

คงจะไม่ปฏิเสธใด ๆ กับผู้อ่านทุกท่านว่า "One Battle After Another หนึ่งศึกครั้งแล้วครั้งเล่า" เรื่องนี้น่าจะเป็นคอนเทนท์หนังที่สร้างปฏิกิริยาและกระตุ้นความสนใจของผู้เขียนได้น้อยสุด ๆ เรื่องหนึ่งในรอบปีนี้ ซึ่งเป็นความคิดเห็นโดยส่วนตัว นับตั้งแต่ปล่อยทีเซอร์แรกออกมาช่วงต้นปี ก็ไม่ได้ขับเคลื่อนความกระตือรือร้นใด ๆ ที่อยากดูหนังเรื่องนี้ ลีลาการโปรโมตก็ค่อนข้างจะธรรมดา แม้จะมีทีมงานและนักแสดงระดับเป้ง ๆ ทั้งสิ้น หรือกระทั่งจะลงโรงฉายอยู่แล้ว ก็ยังไม่สามารถลบความคิดนี้ลงไปได้ กระทั่งได้มาพิสูจน์เต็ม ๆ ตาตัวเอง กับหนังที่ยาวเหยียดกว่า 2 ชั่วโมงเรื่องนี้ บัดนี้มันได้กลายมาเป็นหนังสุดประทับใจอีกเรื่องหนึ่งในปี 2025 ไปเสียแล้ว

เรื่องราวของ บ็อบ อดีตนักปฏิวัติและนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่บัดนี้เขาไม่ต่างกับกองไฟที่มอดไหม้ไปเกือบหมดแล้ว ใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงและติดเหล้าเมายา ไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก เขาอาศัยอยู่กับลูกสาว วิลล่า ที่เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ บัดนี้เธอเข้าสู่ชีวิตวัยรุ่นเต็มตัว กลายเป็นเด็กที่กล้าหาญและดูแลตัวเองได้ บางครั้งเธอดูจะเป็นผู้ปกครองของพ่อเสียด้วยซ้ำ กระทั่งศัตรูจากเมื่ออดีตกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมกับการหายตัวไปของลูกสาว ทำให้บ็อบต้องตั้งสติและพยายามปลุกไฟนักปฏิวัติกลับคืนมา เพื่อมุ่งหน้าไปช่วยเหลือลูกสาวที่กำลังตกอยู่ในอันตรายจากปมอดีตที่เขากับแม่ของวิลล่าได้ร่วมกันก่อเอาไว้

One Battle After Another ได้กลายเป็นหนังเรื่องแรกในรอบปีนี้ที่อยากจะปาคะแนนเต็มให้แบบหมดทั้งใจ เพราะนี่คือหนังที่สร้างเซอร์ไพรส์ในแง่ผลลัพธ์ได้อย่างเหลือเชื่อ จากพรสวรรค์และความลงตัวในองค์ประกอบต่าง ๆ ของหนังที่เชื่อมโยงกันอย่างลื่นไหลด้วยดีในทุกด้าน ออกมาเป็นหนังที่โดดเด่นดีงามไปทางด้านแคมเปญชิงรางวัลก็ได้ หรือจะเป็นหนังเชิงพาณิชย์กอบโกยอรรถสความสนุกก็เป็นผลงานที่ทำได้ถึงและทำออกมาได้ดี เป็นการผสมผสานความดรามาจัดจ้านที่แฝงไปด้วยความตลกร้ายอย่างมีกึ๋น แบบที่ไม่สามารถละสายตาไปได้เลยสักฉากเดียว

"พอล โธมัส แอนเดอร์สัน" ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับที่มักจะทำให้คนดูยกแขนตั้งการ์ดขึ้นมาเบา ๆ ก่อนจะเสพย์ผลงานของเขา เพราะเขาคือนักสร้างหนังที่มักจะเฉิดฉายในคอนเทนท์สายรางวัล ที่เน้นงานละเมียดละไมและบทหนังที่ต้องวิเคราะห์ตามอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับ One Battle After Another ที่เขาลงมือเขียนบทหนังเองจากการหยิบเอาต้นฉบับนิยายปฏิวัติในยุค 90 อย่าง Vineland ของ โทมัส ไพน์ชอน ที่ทุกท่วงท่าในการละเลงบทออกมาเป็นการเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง กลายเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของหนังที่ชวนประทับใจมาก

พล็อตเรื่องและบทหนังเรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เผลอ ๆ อาจจะไม่ได้แปลกใหม่ด้วยซ้ำ แต่ว่าพอลสามารถละเลงบทหนังที่เต็มไปด้วยเลเยอร์หลายชั้น ผ่านกระบวนการเล่าเรื่องได้อย่างมีกิมมิกและร้อยเรียงออกมาเป็นหนังที่กลั่นกรองจังหวะต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะเจาะและลงตัวไปหมด ถึงจะไม่ใช่หนังที่กระชับใด ๆ เพราะความยาวของหนังก็ปาไปถึง 160 นาทีได้ แต่กลายเป็นว่างานสร้างและบทหนังของเขาตรึงให้คนดูยอมทนนั่งเมื่อยบั้นท้าย เพื่อเสพย์ผลงานอันเจิดจ้าของเขาแบบไม่อยากพลาดเลยสักซีนเดียว

แล้วยิ่งมาประกอบเข้ากับงานสร้างที่ได้ชื่อว่าอยู่ในผู้กำกับงานละเอียดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ส่งเสริมคุณภาพของตัวหนังออกมาได้อย่างเปี่ยมล้น เทคนิคความจัดจ้านต่าง ๆ ได้รับการใส่เข้ามาแบบสเกลหนังสายรางวัลโดยแท้ พอลยังรับหน้าที่ดูแลในส่วนผู้กำกับภาพของหนัง ร่วมด้วย ไมเคิล บัวแมน นั่นจึงทำให้สัมผัสได้ถึงงานภาพสวย ๆ และการสื่อสารทางภาพที่ค่อนข้างดื่มด่ำเป็นพิเศษ พร้อมกับได้มือตัดต่อฝีมือดี แอนดี้ เจอร์เกนเซน มาช่วยตบแต่งโครงสร้างของหนังที่เฉียบคมยิ่งขึ้น

ยังรวมไปถึงงานโปรดักชันดีไซน์ การออกแบบเซ็ตฉากต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้กลมกล่อมและเข้ากับบรรยากาศ ลงตัวกับมุมภาพมุมกล้องได้อย่างพิถีพิถัน ส่วนองค์ประกอบเล็ก ๆ อย่างการออกแบบเสื้อผ้าหน้าผมในเรื่องนี้ ก็เป็นหนึ่งส่วนที่ช่วยจับเอกลักษณ์ของทุกตัวละครออกมาได้อย่างโดดเด่น และอีกพาร์ทที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คืองานเพลงประกอบ จากฝีมือของ จอนนี กรีนวู้ด เรียกได้ว่าจัดจ้านด้วยเสียงเมโลดี้ได้ไม่มีแผ่ว ตั้งแต่นาทีแรกของหนังไปจนถึงจบเครดิตของหนังเลยทีเดียว

"ลีโอนาร์โด ดีแคพริโอ" ไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว คุณสามารถเชื่อใจเขาได้สบาย ๆ หากว่าเขาจะรับเล่นผลงานใดสักเรื่องหนึ่ง เรื่องนั้นมันจะต้องมีอะไรดี เช่นเดียวกับ One Battle After Another เรื่องนี้เช่นกัน เขาคือตัวหลักในการยืนหนึ่งและเชื่อมโยงไปสู่สถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเแพรวพราว นี่คือลีลาของนักแสดงมืออาชีพที่เป็นการคืนกำไรให้กับผู้ชมได้อย่างถ่องแท้ คาแรกเตอร์ที่เขาได้รับอาจจะดูซ้ำจากผลงานก่อน ๆ อยู่บ้าง แต่บอกได้เลยว่าการตีความและถ่ายทอดของเขาทำมันออกมาได้แตกต่าง และเผยให้เห็นในมุมใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยสัมผัสการแสดงทิศทางนี้ของเขามาก่อนเช่นกัน

อีกคนที่ต้องพูดถึงและเน้นย้ำสุด ๆ ก็คือการแสดงของ "ฌอห์น เพนน์" ดารารุ่นใหญ่ที่เปล่งประกายในหนังเรื่องนี้แบบว้าวมาก ๆ น่าจะกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ลุงฌอห์นจะต้องมีชื่อติดเป็นหนึ่งในรางวัลสาขานักแสดงสมทบชายประจำปีนี้บนหลาย ๆ เวทีแน่นอน เพราะนี่คือการแสดงของมืออาชีพวัยเก๋าของแท้ เป็นอะไรใหม่ ๆ ที่คาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นจากตำนานดาราอาสุโวผู้นี้ กับบทบาทที่ส่งได้เป็นอย่างดี และเขาก็ถ่ายทอดมันออกมาได้ถึงใจถึงอารมณ์ด้วยดี ชนิดที่อยากจะลุกขึ้นปรบมือให้กลางโรงหนัง

นอกจากนี้ One Battle After Another ยังมีทีมนักแสดงสมทบปัง ๆ ที่ทำผลงานออกมาได้ดีเลิศอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น "เบนิซิโอ เดล โตโร" ถึงจะไม่ได้มีแอร์ไทม์มากมายอะไร แต่ก็มาเพื่อขโมยซีนได้อย่างถ่องแท้และจึ้งใจสุด ๆ รวมไปถึง "เรจินา ฮอลล์" และ "เทยานา เทย์เลอร์" การแสดงของพวกเธอถึงว่าช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับหนังเรื่องนี้ได้อย่างดีงาม และดาวรุ่งสาว "เชส อินฟินิติ" ก็มอบการแสดงที่กระเทาะเปลือกคลื่นลูกใหม่ได้อย่างเปล่งประกาย และสามารถเข้าขากับรุ่นพี่ดาราเบอร์ใหญ่ ๆ ได้แบบไม่จมไม่หายได้อย่างเหลือเชื่อ

แน่นอนว่าบัดนี้ One Battle After Another ได้กลายเป็นหนึ่งหนังในดวงใจประจำปี 2025 ของเราไปเรียบร้อยแล้ว เพราะนี่คือคอนเทนท์ที่เข้าขั้นความดีงามแทบจะทุก ๆ องค์ประกอบ ที่ออกมาเป็นผลผลิตที่แทบจะหาที่ติไม่ได้เลย พร้อมกับแอบรู้สึกผิดเบา ๆ ที่ค่อนข้างนี้แทบไม่รู้สึกมีความอยากดูหนังเรื่องเลยสักนิดเดียว แต่ก็อาจจะเป็นเทคนิคการสื่อสารทางการตลาด ที่บางครั้งก็ยังสื่อมาถึงผู้ชมได้ดีเท่าที่ควรนัก แต่ตอนนี้ได้สัมผัสกับเนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้อย่างถ่องแท้แล้ว นี่คือหนังเรื่องเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่งในรอบปีนี้ ที่ควรค่าแก่ชมและมีประสบการณ์ดูในโรงหนังมาก ๆ

เพราะแก่นที่สำคัญที่สุดของ One Battle After Another ก็คือบทหนังที่เปี่ยมล้นไปด้วยมิติที่น่าสนใจ อาจจะเป็นหนังที่สอดแทรกและเสียดสีประเด็นทางสังคมและการเมืองเอาไว้ได้เจ็บจี๊ดไม่น้อย แต่ก็สามารถสะท้อนออกมาผ่านอารมณ์ตลกร้ายในหนังได้อย่างตรงไปตรงมา ตัวหนังที่มีชั้นเลเยอร์ในเรื่องราวไม่ได้ปิดกั้นคนดูใด ๆ แต่กลายเป็นการดึงดูดความสนใจได้ดี และชวนติดตามไปตลอดทั้งเรื่องอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าตัวหนังจะยาวไปสักหน่อยก็ตาม แต่บอกได้เลยว่า..ของดี ก็ควรค่าแก่การเสพย์อรรถรสให้เต็มที่เฉกเช่นนี้

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง One Battle After Another หนึ่งศึกครั้งแล้วครั้งเล่า

  • ประเภท: แอคชัน / อาชญากรรม / ตลก / ระทึกขวัญ
  • ผู้กำกับ: พอล โธมัส แอนเดอร์สัน
  • นำแสดงโดย: ลีโดนาร์โด ดีแคพริโอ, ณอห์น เพนน์, เบซินิโอ เดอ โทโร, เรจินา ฮอลล์
  • ความยาว: 162 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 25 กันยายน 2025

Movie.TrueID METRIC: One Battle After Another หนึ่งศึกครั้งแล้วครั้งเล่า

  • ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.6/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.2/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐ (10/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.5/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.4/10)

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa