รีวิว Believer 2 (2023) ภาคต่อที่อาจไม่ดีเท่าภาคแรกแต่ก็ดุเดือดสนุกดูเพลิน พร้อมกับบทสรุปอันแสนขมขื่น [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflix บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Believer 2 (2023)เรื่องราวในภาคนี้จะยังคงต่อเนื่องจากภาคแรก หลังจากที่สายสืบ โจวอนโฮ (รับบทโดย โจจินอุง) ได้ทำการบุกจับ ไบรอัน ลี (รับบทโดย ชาซึงวอน) เพราะคิดว่าเขาคือ "ท่านอี" ชายผู้อยู่เบื้องหลัง "ไลก้า" ยาเสพติดชนิดใหม่ที่กำลังระบาด แต่แท้จริงแล้วเขาไม่ใช่ท่านอีตัวจริง ซึ่งหลังจากถูกจับได้ไม่นาน ไบรอันก็ได้หนีออกจากโรงพยาบาลไป สายสืบโจจึงได้ใช้ข้ออ้างนี้เพื่อออกตามล่าเขาพร้อมกับหาตัวท่านอีตัวจริง หลังจากหลบหนีไป ไบรอันได้ไปนัดพบกับ ซอบโซชอน (รับบทโดย ฮันฮโยจู) มือขวาสุดโหดของท่านอีที่ถูกส่งมาจากจีนเพื่อเจรจากันเรื่องไลก้า พวกเขาต้องเดินทางไปยังประเทศไทยซึ่งมีทั้งวัตถุดิบและห้องแลปในการผลิตยา แต่การจะผลิตได้นั้นพวกเขาต้องใช้ความสามารถของ ซอยองรัก (รับบทโดย โอซึงฮุน) ชายผู้สามารถผลิตไลก้าบริสุทธิ์ได้ซึ่งเขาก็มีเป้าหมายคือการหาท่านอีตัวจริงเช่นกัน งานนี้ทั้งสายสืบโจ ไบรอัน และซอยองรัก พวกเขาทุกคนต้องการรู้ว่าท่านอีเป็นใคร ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวในครั้งนี้จะจบลงอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Believer 2 (2023) สามารถรับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง Believer 2 (2023)รีวิว Believer 2 (2023)สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในอีกเรื่องที่ผมรอคอย เพราะส่วนตัวเพิ่งดูซีรีส์ Moving จบไปและหลงรักฮันฮโยจูหนักมาก พอเห็นเธอจะมาแสดงในเรื่องนี้ด้วยก็เลยตั้งตารอมากๆ แถมเตรียมตัวด้วยการย้อนกลับไปดูภาคแรกมาก่อนแล้ว (มีใน Netflix เหมือนกัน) ซึ่งพอได้ดูภาคนี้จบแล้วต้องบอกเลยว่า ไม่ถึงกับผิดหวังแต่ก็ยังดีสู้ภาคแรกไม่ได้ สิ่งที่เราได้เห็นในภาคนี้เลยคือการยกระดับงานสร้าง ทุกอย่างดูอลังและจัดหนักจัดเต็มกว่าเดิม มีฉากแอ็คชั่นเลือดสาดมันๆ ให้เราได้เห็นอยู่หลายซีน ต่างจากภาคแรกที่จะเน้นไปที่การสืบคดี การหักเหลี่ยมเฉือนคมกันเป็นหลัก สำหรับบทในภาคนี้ส่วนตัวยังมองว่าทำออกมาได้ดี แม้ว่าการดำเนินเรื่องและเส้นเรื่องต่างๆ อาจจะยังมีจุดที่ไม่สมบูรณ์อยู่บ้าง แต่ผมก็ค่อนข้างชอบบทสรุปของเรื่องราวในตอนท้ายที่จบแบบสิ้นหวังสุดๆ ส่วนตัวผมมองว่าบทสรุปตอนท้ายนี่แหละที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าจดจำในด้านการดำเนินเรื่อง ถือว่าทำออกมาได้ดีเช่นกัน แต่ต้องเตือนก่อนว่าเขาเดินเรื่องค่อนข้างเร็ว ถ้าหลุดโฟกัสไปนิดเดียวคือตามไม่ทันเลย เพราะในภาคนี้มีตัวละครหลายตัว หลายเหตุการณ์ มันเลยต้องตัดสลับไปมาเพื่อเล่าทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเขาทำออกมาได้ดีมากๆ แล้ว ชอบที่ทำให้ทุกตัวละครมีเป้าหมายเดียวกันคือท่านอี แต่ทุกคนจะมีเหตุผลที่แตกต่างออกไป เริ่มจากสายสืบโจที่อยากจับท่านอีเพราะเขาเสียคนใกล้ตัวไปเยอะจากการทำคดีนี้ ไบรอันลีที่อยากหาท่านอีเพื่อกำจัดและยึดบัลลังก์พ่อค้ายา ซอยองรักที่อยากหาท่านอีเพื่อแก้แค้น และซอบโซซอนที่ทำทุกอย่างตามคำสั่งเพราะต้องการความรักจากท่านอี เขาเขียนบทวางปมเรื่องราวของตัวละครมาค่อนข้างดี แต่ไอด้วยความที่มีตัวละครหลายตัวนี่เองมันก็ทำให้ทุกอย่างดูสับสนวุ่นวายไปบ้างเพราะเขาต้องปูทุกตัวละครให้ถึงบทสรุปในภาคนี้ มันเลยต้องรีบๆ หน่อย แต่ต้องยอมรับว่าเขาเก็บรายละเอียดได้ดีและครบถ้วน ส่วนต่อมาคือด้านกาแสดง ส่วนนี้คือดีงามไร้ที่ติมาก นักแสดงทุกคนแสดงดีมาก ตัวหลักทั้ง 4 ตัวคือเล่นดีแบบรัศมีกลบกันไม่ลงจริงๆ แต่ดูตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังคงรู้สึกว่าตัวละครซอบโซซอนของฮันฮโยจูเป็นตัวละครที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เหมือนใส่เข้ามาเพื่อเพิ่มสีสันและเรียกคนดูเฉยๆ ถ้าเน้นไปที่ 3 ตัวหลักจากภาคที่แล้วการเล่าเรื่องอาจจะสมูทกว่านี้ ส่วนต่อมาคือด้านงานภาพและการโปรดักชั่น ส่วนนี้คือยกระดับจากถาคแรกอย่างเห็นได้ชัด งานภาพดีงามมาก ฉากแอ็คชั่นก็ดุเดือดเลือดสาดถึงใจ ถึงบทอาจจะยังสู้ภาคแรกไม่ได้ แต่เรื่องแอ็คชั่นนี่ภาคนี้กินขาด และสิ่งสุดท้ายที่อยากพูดถึงคือบทสรุปในตอนท้าย มันเป็นบทสรุปที่ผมชอบมาก เขาดัดหลังคนดูจนเหม่อเลย ตอนจบมันน่าเศร้ามา เหมือนทุกอย่างที่เล่ามามันสูญเปล่า ทั้งซอบโซซอนที่พยายามแทบตายแต่ก็โดนท่านอีเมิน แถมยังตายอย่างไร้ค่า ซอยองรักที่เก็บความแค้นมา 25 ปี พอได้ล้างแค้นจริงๆ เขาก็กลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้น เพราะท่านอีจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ต่อด้วยสายสืบโจที่ตามจับมาแทบตายแต่ท่านอีดันตายไปอย่างคนธรรมดา ไม่มีใครจำได้ทั้งที่ทำเรื่องไม่ดีมามากมาย ที่น่าสงสารสุดก็คือสายสืบดันต้องมาตายทั้งที่เลือกทำสิ่งที่ถูกต้องมาตลอด คนที่ดูจะสมหวังที่สุดก็คงเป็นไบรอันลีที่ได้ยึดบัลลังก์สมใจ เรียกได้ว่าเป็นบทสรุปที่คนดีพ่ายแพ้แต่คนร้ายได้ดีอย่างแท้จริง ซึ่งถึงมันจะจบไม่ดีแต่มันก็เป็นตอนจบที่สมเหตุสมผล สรุปโดยรวมก็คือ ภาคนี้เป็นภาคที่งานแอ็คชั่นสนุก ดูได้เพลินๆ บทก็เขียนออกมาดีใช้ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากแนะนำให้ดูกันมากๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว The Killer (นักฆ่า) หนังนักฆ่าสุดเลือดเย็นที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว The Marvels (เดอะ มาร์เวลส์) หนังสูตรสำเร็จที่พอดูสนุกเพลินๆ แต่อาจไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนรีวิว Attack on Titan: The Final Season Part 3.2 (ครึ่งหลัง) บทสรุปของการเดินทาง 10 ปีที่อาจไม่สวยงามแต่แสนตรารึง ยกให้เป็นหนึ่งในอนิเมะที่ควรดูซักครั้งก่อนตาย!รีวิว Onimusha (โอนิมูฉะ) อนิเมะแนวซารูไรดัดแปลงจากเกมชื่อดัง ภาพสวยสนุกดูเพลิน [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว GOOD NIGHT WORLD (กู๊ดไนท์ เวิลด์) อนิเมะโคตรดีเรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง! [มีพากย์ไทย]แหล่งที่มาทั้งหมดจาก Netflixth, Netflix Japanภาพปก: ภาพที่ 1ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4วิดีโอ: Believer 2 | ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ จาก Youtube: Netflix Thailandเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !