รีวิวหนัง Birds of Prey เหล่าหญิงแสบและการปลดแอกในโลกผู้ชาย by Kanin The Movie
ฟีดแบก รีวิว วิจารณ์หนัง Birds of Prey
นับตั้งแต่ Aquaman เป็นต้นมา “จักรวาลดีซี” ดูจะน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เราได้เห็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่หลากแนวหลายรสชาติที่มีเอกลักษณ์และการนำเสนอเฉพาะตัว ตั้งแต่การเป็นหนังลิเกแฟนตาซีเอพิคใน Aquaman, ภาพยนตร์ครอบครัวก้าวข้ามผ่านพ้นวัยใน Shazam! และการมาถึงของ Birds of Prey ที่ชูประเด็นเพศหญิงผ่านเรื่องราวมันส์ฮาเพี้ยนที่โหดในระดับเรท R
รีวิวหนัง Birds of Prey
แม้ว่าหนังทั้งสามเรื่องจะไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเรียงร้อยเป็นจักรวาลเดียวกัน แต่มันก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่โดดเด่นน่าสนใจและมีศักยภาพได้ด้วยตัวเอง (ซึ่งอาจจะเป็นทิศทางที่เหมาะสมกว่าก็ได้) การมาถึงของ Birds of Prey จึงน่าสนใจ (แม้จะเป็นบทสานต่อจาก Suicide Squad เมื่อปี 2016 ก็ตามที)
การหยิบเอาตัวละคร “ฮาร์ลีย์ ควินน์” มาเฉิดฉายโชว์เดี่ยวบนเรื่องราวใหม่ เส้นทางใหม่ ประเด็นใหม่ เป็นไอเดียที่เวิร์คไม่น้อยและแสดงให้เห็นว่าหนังสามารถหาทางที่ใช่ในการไปต่อได้ (แถมยังสอดรับกับเรื่องราวจากภาคก่อนได้อย่างลงตัวอีกด้วย)
รีวิวหนัง Birds of Prey
Birds of Prey เปิดเรื่องด้วยชีวิตของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ หลังจากเลิกรากับโจ๊กเกอร์ไป ซึ่งนอกจากจะทำให้เธอต้องเจ็บปวดในระยะยาวแล้ว การยุติความสัมพันธ์นี้ยังส่งผลกระทบแบบลูกโซ่มายังชีวิตเธออีกด้วย เพราะเมื่อไร้ซึ่งโจ๊กเกอร์ข้างกาย เธอก็กลายเป็นเป้าหมายท็อปลิสต์ที่คนจำนวนมหาศาลพร้อมจะคิดบัญชีแค้น นำไปสู่เหตุการณ์วายป่วงที่ทำให้เธอจับพลัดจับผลูมาพบเจอกับเหล่าหญิงแสบที่ถูกดึงเข้ามาพัวพันในแผนการร้ายของ โรมัน ไซโอนิส อาชญากรตัวท็อปแห่งเมืองก็อตแธมที่กำลังมีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับอำนาจของตัวเองให้ทะลุขีดสุด
รีวิวหนัง Birds of Prey
หากจะให้สรุปหน้าตาคร่าวๆของ Birds of Prey คงเหมือนกับกำลังนั่งดูหนังทำนอง Kick-Ass, Deadpool และ John Wick: Chapter 3 – Parabellum ในเวลาเดียวกัน มันเป็นหนังที่พาเราไปสำรวจการใช้ชีวิตประจำวันของเหล่าวายร้าย สาธยายเป้าหมายและความต้องการเพื่อขับเน้นบุคลิกนิสัยของตัวละครผ่าน Narrative Structure กวนๆ ที่สื่อสารกับผู้ชมอยู่ตลอดด้วย Voice Over ตัวละครและการลำดับเรื่อง
พร้อมด้วยสถานการณ์สุดเพี้ยนเมื่อเหล่าคนบ้าเดินทางเข้ามาล้างแค้นเธออย่างคับคั่งด้วยเหตุผลหลากหลายประการ ราวกับตอน จอห์น วิค โดนตัดหางปล่อยวัดไม่มีผิด ซึ่งจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังมีทั้งเวิร์คบ้างและไม่เวิร์คบ้าง กล่าวคือหลายๆ อย่างใน Birds of Prey ยังไม่กลมกล่อม เราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ จุดประสงค์ในการนำเสนอ แต่ก็ปฏิเสธกับข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นในเรื่องไม่ได้
รีวิวหนัง Birds of Prey
อาทิ การพยายามลำดับเรื่องกวนๆ ที่ทำไปทำมาแล้วรู้สึกไม่เวิร์ค ดูจะฝืนเกินไปเสียหน่อย (แต่ถ้าหนังต้องการความเลอะเทอะตั้งแต่แรกแล้วก็คงไม่ได้ผิดอะไร) แต่ทำไปทำมาความอยากจะทำอะไรตามใจฉัน (ของทั้ง ฮาร์ลีย์ ควินน์ และผู้สร้าง) ก็กลายเป็นเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกของหนัง และน่าจะทำให้ใครหลายคนชื่นชอบไม่มากก็น้อย
ประเด็นสำคัญที่ถูกขับเน้นให้เห็นตั้งแต่ในตัวอย่างคือความเป็น “พลังหญิง” ของหนัง ซึ่ง Birds of Prey มีทิศทางในการนำเสนอที่น่าสนใจไม่เบา หนังพาผู้ชมไปพบกับเหล่าตัวละครหญิงที่แม้จะมีบุคลิกนิสัยแตกต่างกัน มีตั้งแต่อาชญากร นักฆ่า และกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ (แถมยังคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเลย) แต่พวกเธอต่างตกอยู่ในสภาวะความรู้สึกเดียวกันนั้น คือการถูกกักขังอยู่ในโลกของผู้ชาย ซึ่งหนังถ่ายทอดออกมาหลายมุมมองผ่านตัวละครที่มีเส้นเรื่องแตกต่างกัน
รีวิวหนัง Birds of Prey
ตั้งแต่ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่อยู่ใต้เงาความยิ่งใหญ่ของ โจ๊กเกอร์ มาโดยตลอด ถูกตราหน้าว่าไร้ค่าหากไม่มีเขาอยู่เคียงข้างกาย, การตกภายใต้คำสั่ง กลายเป็นเพียงนกตัวน้อยของ ไดนาห์ นักร้องสาว, เรเน่ ตำรวจหญิงมากความสามารถที่ถูกเพื่อนร่วมงานชายขโมยความสำเร็จจนมีตำแหน่งใหญ่โตในปัจจุบัน
หรือกระทั่งตัวละครอย่าง ไซโอนิส ก็เป็นตัวแทนความบ้าอำนาจของเพศชาย ซึ่งนอกจากนี้หนังก็มีตัวละครสมทบอีกมากมายที่เข้ามาเสริมทัพส่งมอบเมสเสจเรื่องเพศให้กับหนัง บ้างมาอย่างแนบเนียน และบ้างก็มาแบบโต้งๆ ตรงๆ เลย
รีวิวหนัง Birds of Prey
ตลอดระยะเวลา 108 นาทีของ Birds of Prey จึงเป็นเรื่องราวการปลดแอกของเหล่าผู้หญิงผู้ทนไม่ไหวกับโลกที่ตนอาศัย โลกที่กดทับอำนาจและความสามารถของพวกเธอเอาไว้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนวันหนึ่งทุกอย่างก็เกิดระเบิดขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้จะดูไม่สำคัญเลยหากหนังไม่พาเราไปพบกับแรงขับเคลื่อนในใจของตัวละคร ซึ่งส่วนตัวคิดว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง
อย่างหนึ่งคือต้องชมคนเขียนตัวละคร เราว่าบุคลิกความแสบ ความร้าย ความหยาบคายของมันลดทอนความเลี่ยนและชัดเจนเกินไปของประเด็นหนังได้เยอะ รสชาติจึงไม่ได้ออกมาทะแม่งมาก ๆนัก เป็นหนังพลังหญิงที่มีความโฉ่งฉ่างในการสื่อสารแต่ก็ถูกเคลือบด้วยสไตล์การเล่าที่ฉูดฉาดเอาไว้ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ดีคือความตรงไปตรงมาของมันพาไปสู่ปลายทางที่บันเทิงอยู่ไม่น้อย (ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใดก็ตาม)
รีวิวหนัง Birds of Prey
นอกเหนือจากประเด็นพลังหญิงที่โดดเด่น สิ่งที่น่าประทับใจไม่น้อยใน Birds of Prey คือความใส่ใจกับงานสร้าง ตั้งแต่งานภาพ (ได้ แมทธิว ไลบาทีค ช่างภาพประจำ ดาร์เรน อโรนอฟสกี้ มาทำ) , โปรดักชั่นดีไซน์ (ได้ เค.เค. บาร์เรตต์ จาก Her / Marie Antoinette มาออกแบบ) และฉากแอคชั่นที่ได้ แชด สตาเฮลสกี ผู้กำกับไตรภาค John Wick มาช่วยดีไซน์ ซึ่งออกมาคุ้มค่าสมราคาจริงๆ เรียกว่าเป็นอีกจุดแข็งของเรื่องก็คงไม่ผิดเพราะหนังนำเสนอฉากต่อสู้ระยะประชิดออกมาได้เข้มข้นถึงเลือดถึงเนื้อ และสามารถถ่ายทอดความโหดออกมาได้ผ่านลีลาท่วงท่าที่รุนแรงโดยไม่ต้องพึ่งพาฉากแหวะๆเท่าไหร่ (แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี) ใครที่ชอบลีลาต่อสู้สไตล์ John Wick น่าจะถูกใจกับหนังไม่มากก็น้อยเลย
รีวิวหนัง Birds of Prey
โดยรวมแล้ว Birds of Prey เป็นอีกก้าวที่น่าสนใจจากภาพยนตร์ของดีซี แม้จะไม่ใช่หนังที่เรารักอย่างสุดๆแต่ก็เป็นเส้นทางที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย มันให้ความรู้สึกราวกับเป็นการแก้ตัวของ Suicide Squad ที่พยายามตบๆเทคนิคการนำเสนอและประเด็นต่าง ๆให้ลงตัวมากขึ้น มีเรื่องราวที่ชัดเจนและแข็งแรงมากขึ้น จนออกมาเป็นงานที่คราฟต์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ที่สำคัญการกลับมาอีกครั้งของ มาร์โก้ ร็อบบี้ ในครั้งนี้งดงามมากๆ ตัวละคร ฮาร์ลีย์ ควินน์ ของเธอถูกสานต่อเพิ่มเติมน้ำหนักออกมาได้อย่างน่าสนใจ พร้อม ๆกับการแสดงที่เปิดโอกาสให้เธอได้ปล่อยพลังมากขึ้น ซึ่งตลกและแสบอยู่ไม่น้อยที่ทำไปทำมาหนังมีท่าทีล้อเลียนกับตัวละครของเธอจาก Suicide Squad อยู่พอสมควร
----------------------------------------------------