ศรีริต้า ควงสามีไต่สวนมูลฟ้องพ.ร.บ.คอมฯ-หมิ่น มือดีนำคลิปอนาจารแพร่อ้างเป็นดาราสาว
“ศรีริต้า”ควงกรณ์ ณรงค์เดช สามีไต่สวนมูลฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ-หมิ่นประมาท หลังถูกมือดีนำคลิปอนาจารเเพร่อ้างเป็นดาราสาว เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่น นักเเสดงชื่อดัง ยื่นฟ้อง กรณีมีบุคคลนำคลิปวิดีโอที่ถูกตัดต่อเชิงอนาจารเผยแพร่ในสื่อออนไลน์อย่างแพร่หลาย
โดยวันนี้ น.ส.ศรีริต้าพร้อมด้วยนายกรณ์ ณรงค์เดช สามี และน.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายฯนิด้า เดินทางมาศาล
น.ส.ศรีริต้า กล่าวว่า วันนี้ได้มาเบิกความที่ศาล เพราะได้แจ้งความฟ้องร้องเป็นคดีอาญากับบุคคลที่ตัดต่อเผยแพร่และจงใจบอกว่าคลิปอนาจารเป็นตนเองงขอยืนยันว่า คนในคลิปไม่ใช่ตนเอง แต่มีคนนำรูปของตนจากไอตาแกรมไปตัดต่อกับคลิปที่เป็นการร่วมเพศของฝรั่ง เพื่อให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นตน ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ลดทอนคุณค่าและศักดิ์ศรี ซึ่งตนเองนั้นทำงานในวงการมา 26 ปี มั่นใจว่าทำแต่สิ่งดี ๆ ทำงานที่สุจริตและตั้งใจรักในอาชีพ ดังนั้น เหตุการณ์นี้จึงเป็นเหตุการณ์ที่น่าเกลียด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อับอายอย่างมาก และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
น.ส.ศรันยา หรือ ทนายนิด้า กล่าวว่า ในวันนี้เราดำเนินการฟ้องในเรื่องของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าสื่อลามกอนาจารและเผยแพร่ และตามประมวลกฎหมายอาญา การเผยแพร่สื่อลามก และครั้งนี้มีการกระทำผิดเรื่องการหมิ่นประมาทด้วย เป็นการกระทำซึ่งผิดกฎหมายหลายบท ซึ่งเราฟ้องทุกข้อหา แล้วแต่ทางศาลจะพิจารณา ซึ่งโทษสูงสุดของการเผยแพร่สื่อลามก คือจำคุก 7 ปี ปรับ 2 แสนบาท และยังเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินอีกจำนวน1ล้านบาท ถึงแม้ว่าเงินจะไม่สามารถเยียวยาความเสียหายได้ก็ตาม แต่เราต้องเรียกค่าเสียหายเพื่อให้จำเลยรู้สึกถึงการกระทำ เราไม่ได้ยืนยันว่าจำเลยในคดีนี้เป็นผู้ตัดต่อ เราจะพูดในส่วนที่ยืนยันได้ว่า เขาเป็นคนเผยแพร่ ซึ่งในข้อความที่เผยแพร่นั้น มีคลิปที่คนมีเพศสัมพันธ์กัน และนำรูปของ น.ส.ศรีริต้าขึ้นก่อน เสมือนว่าคนในคลิปคือ น.ส.ศรีริต้า และใช้ชื่อจริง ถ่ายรูปหน้าของคุณศรีริต้าหลาย ๆ รูป และเผยแพร่ให้กับบุคคลเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามตอนนี้ถ้าเราพบเห็นว่ามีคนกระทำความผิดเช่นนี้อีกก็จะดำเนินการฟ้องทั้งหมด ซึ่งศาลจะนัดครั้งต่อไปในวันที่ 13 ธันวาคม
ด้านนายกรณ์ สามี กล่าวว่า สงสารและเห็นใจศรีริต้ามาก เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตเขาที่มาศาล กับเรื่องที่เขาไม่ได้เป็นคนทำ อย่างที่บอกว่าก่อนที่จะมาดำเนินคดีก็ได้ปรึกษากันแล้ว ว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ในวงการบันเทิง ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียง และเขาก็มีลูกแล้วด้วย ก็ไม่อยากให้ลูกหรือคนอื่น ๆ เข้าใจผิดว่าคนในคลิปเป็นเขา ตนก็สนับสนุนให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด กับคนที่ตัดต่อ คนที่แชร์ไปแล้ว หรือคนที่กำลังจะแชร์ในอนาคต