รีวิวหนัง "7500" ตึงเครียดปนหฤหรรษ์กับโหมดซิมมูเลชั่น บนเครื่องบินกำลังโดนจี้
วิจารณ์ รีวิวหนัง 7500
จะมีหนังสักกี่เรื่องที่พาไปเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของนักบินได้เกือบจะถ่องแท้ภายในห้องนักบิน นับแต่โหลดผู้โดยสารขึ้นเครื่องบิน ยกล้อทำเทคออฟ และกางปีกแลนด์ดิง แต่ในหนังระทึกขวัญเล็กๆ อย่าง "7500" ได้ตอบโจทย์นี้และดูใส่เอาไว้ตลอดระยะเวลาประมาณ 90 นาทีของหนัง ที่มีอยู่เพียงฉากเดียวและนักแสดงหลักคนเดียว พร้อมกับเครื่องบินกับผู้ก่อการร้ายที่พยุงกันไปทั้งเรื่อง
7500 เป็นโค้ดฉุกเฉินที่ใช้ในหลักการบินสากล (ICAO) ที่หมายความว่า เครื่องบินกำลังถูกจี้ โดยนักบินจะส่งสัญญาณโค้ดนี้รายงานกลับไปยังหอควบคุมการบินในพื้นที่ เพื่อประสานงานกับภาคพื้นดินในการเข้าติดตามสถานการณ์ต่อไป แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ได้เล่าถึงเหตุผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้ทำการจี้เครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง ระหว่างบินออกจากกรุงเบอร์ลิน เพื่อไปยังกรุงปารีส พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือเกือบ 90 คน
โดยหนังได้โฟกัสอยู่ที่ "โทไบอัส อิลลิส" ผู้ช่วยหนุ่มบินหนุ่มชาวอเมริกัน วัย 31 ปี ที่มาประจำอยู่สายการในภูมิภาคยุโรปและเพิ่งเริ่มลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวกับแฟนสาวพนักงานต้อนรับสายการบินเดียวกัน เขาจึงกลายเป็นผู้ที่ต้องรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินบนระดับความสูงกว่า 30,000 ฟุต ทั้งความตึงเครียด แรงกดดัน และเวลาที่จำกัด ทำให้เขาต้องพยายามสื่อสารกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย เพื่อป้องกันไม่ได้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้
"โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์" กลายเป็นหนึ่งเดียวและดาวเด่นที่ทำหน้าที่แบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างสบายๆ โดยแทบจะไม่ต้องออกแรงใดๆ เลยด้วยซ้ำ เขาทำหน้าที่การแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมในแบบฉบับของเขา แต่น่าเสียดายที่หนังเรื่องกลายเป็นเพียงหนังระทึกขวัญธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง ที่ไม่น่าจะมาเป็นหนึ่งผลงานการแสดงของเขาเลยจริงๆ เพราะสามารถใช้นักแสดงเกรดรองไปกว่านี้ก็น่าจะเล่นออกมาได้ดีเช่นกัน
หนังสร้างโทนอารมณ์ความระทึกใจออกมาได้ค่อนข้างพอใช้ได้ มีภาวะแรงกดดัน และสถานการณ์ต่างๆ ที่ขับขัน แต่กลับทำให้ไปถึงไม่สุดทางสักทาง ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงกลายเป็นเหมือนนั่งดูนั่งสารคดีที่มักจะเห็นทางช่องดิสคัฟเวอรี หรือ เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ที่เป็นการจำลองเหตุการณ์จี้ปล้นและเครื่องบินตกมานำเสนอในรูปแบบเสมือนจริง เผลอๆ หนังสารคดีเหล่านั้นอาจจะดูดีเสียด้วยซ้ำ
สาเหตุก็เป็นเพราะ 7500 ไม่มีเนื้อหาใดๆ มาเป็นองค์ประกอบเลยสักนิดเดียว เริ่มต้นมาพร้อมกับภาพฟุตเทจกล้องวงจรปิด ก่อนจะล็อกคนดูเอาไว้อยู่แต่ในห้องนักบินตลอดทั้งเรื่อง หนังจึงไม่มีเรื่องราวใดๆ มาเป็นองค์ประกอบเสริมเลย ดูเหมือนจะเป็นหนังที่ดูสร้างออกมาง่ายๆ เรื่องหนึ่ง แต่ยังโชคดีที่หนังได้การแสดงของ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ มาช่วยเหลือเอาไว้ ทำให้ภาพรวมก็ไม่ได้ออกมาย่ำแย่อะไรขนาดนั้น
หนังยังมาพร้อมกับมุมกล้องและมุมภาพที่เหมือนกับนั่งอยู่ในโหมดซิมมูเลชั่น หรือการจำลองสถานการณ์นั้นๆ ขึ้นมา โดยคนดูเป็นเหมือนพยานหรือครูฝึกที่ยืนอยู่เหตุการณ์อยู่ห่างๆ ขณะที่หนังที่โครงเรื่องว่างเปล่าก็เล่าเรื่องไปตามลำดับขึ้น โดยที่ไม่มีจังหวะขึ้นสุดและลงสุดแบบที่หนังระทึกขวัญควรจะมี แต่กลับเล่าแบบราบเรียบไปตามเส้นทางบินของท้องเรื่อง แล้วปล่อยให้คนดูไปลุ้นเอาเองว่าจะจบแบบไหน (ที่ก็ไม่ได้เดายากสักเท่าไหร่)
"แพทริค วอลล์ราธ" ผู้กำกับชาวเยอรมันมาทำหน้าที่ควบคุมงานในเรื่องนี้ แน่นอนว่านี่เป็นการกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกของเขา หลังจากสั่งสมประสบการณ์จากการทำหนังสั้นมาหลายเรื่อง แล้วเขาก็หยิบเอาความเป็นสั้นเข้ามาขยายในรูปแบบหนังขนาดยาวด้วย นั่นก็คือดำเนินเรื่องแบบไม่มีที่มาที่ไปใดๆ ที่อาจจะดูกระชับดี หากเป็นหนังสั้นแค่ 10 นาที แต่ในเมื่อหนังขยายออกเป็น 90 นาที ทำให้มีหลายจุดที่ยังทำได้ไม่ถึงจุดหมายปลายทางที่อยากให้ไปให้ถึง
โดยสรุปแล้ว 7500 เป็นหนังระทึกขวัญทางการบินที่ดูแล้วค่อนข้างย่อยง่ายมากๆ ใกล้เคียงกับรูปแบบหนังสารคดีจำลองเหตุการณ์ทำนองหนัง ความโดดเด่นอย่างเดียวของหนังที่หาเจอก็คือ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ ที่จริงๆ เขาไม่จำเป็นต้องรับเล่นหนังแบบนี้เลยด้วยซ้ำ แม้ว่าหนังจะไม่มีเรื่องราวอะไรให้คนดูเลย แต่ก็สร้างบรรยากาศและโทนของหนังได้ดีระดับหนึ่ง ก็เป็นหนังจี้เครื่องบินที่ค่อนข้างกลวงและไม่มีอะไรน่าจดจำสักเท่าไหร่
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง 7500
ประเภท : ระทึกขวัญ / ดราม่า
ผู้กำกับ : แพทริค วอลล์ราธ
นำแสดงโดย : โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์
ความยาว : 93 นาที
เข้าฉาย : 19 มิถุนายน 2020 (Prime Video - ทั่วโลก)
----------------------------------------------------