Series Review After School Doctor (2024) คุณหมอโรงเรียนวุ่น ความยอดเยี่ยมเชิงอารมณ์และหัวใจน่ารักสนุกสนานอบอุ่นตื้นตันซาบซึ้งหัวเราะร่าน้ำตารินโดยไม่ต้องขยี้ดูแล้วมีความสุขกระตุกให้พลันได้คิด รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ช่วงนี้ถ้าใครเป็นคอซีรีส์ญี่ปุ่นคงจะมีความสุขเพราะทาง NETFLIX ขนซีรีส์ญี่ปุ่นมาลงจอให้คนดูบ้านเราได้เลือกดูชนิดที่ดูกันไม่หวาดไม่ไหวต่างจากเมื่อก่อนที่ซีรีส์ญี่ปุ่นค่อนข้างหาดูยาก แต่เดี๋ยวนี้กลับมีมาให้ดูทั้งเก่าใหม่โดยเฉพาะของใหม่ที่คือมีการเอางานที่ออกอากาศสดทางบ้านเขามาลงจอบ้านเราแทบจะพร้อมๆกันแล้วก็เริ่มมีความหลากหลายขึ้น แน่นอนว่าผู้เขียนที่ชอบดูซีรีส์ญี่ปุ่นไม่น้อยไปกว่าเกาหลีก็มีตัวเลือกให้ดูเพิ่มมากขึ้นทั้งที่เวลาก็ไม่ค่อยจะมีแต่ของญี่ปุ่นจะตามง่ายกว่าเพราะมาแค่สัปดาห์ละตอน กระนั้นสิ่งที่เป็นข้อจำกัดของซีรีส์ญี่ปุ่นที่อาจเป็นเสน่ห์แล้วแต่มุมมองคือการที่ลูกเล่นยังไม่แพรวพราวเท่าไหร่การเล่าเรื่องในซีรีส์ญี่ปุ่นแท้จะจับทางค่อนข้างง่าย แต่ถ้าเข้าใจและคุ้นเคยกับความเป็นญี่ปุ่นที่เคยสัมผัสมาจากการอ่านการ์ตูนหรือมังงะก็จะไม่แปลกใจและมองว่ามันคือเสน่ห์ที่ทำให้หลงไหลเพราะแม้การเล่าเรื่องจะเหมือนๆกันแต่สิ่งดีที่มีเหมือนกันคือหัวใจที่ซีรีส์ญี่ปุ่นแม้กระทั่งมังงะจะใส่เข้าไปเสมอต่อให้ไม่ว่าจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับอะไรไม่เว้นแม้แต่เรื่องนี้ ชุน มากิโนะ (โคเฮย์ มัตสึชิตะ) กุมารแพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคันโตที่ถูกเตะโด่งลงไปประจำที่ห้องพยาบาลโรงเรียนประถมเพราะทัศนคติไม่ตรงกับผู้บริหารโรงพยาบาล แล้วที่นั่นที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายเพราะเป็นโรงเรียนประถมคุณหมอมากิโนะผู้หน้าตาไม่รับแขกมัธยัสถ์รอยยิ้มเหมือนเหม็นกลิ่นผายลมตลอดเวลาเป็นที่น่าสะพรึงของเด็กๆยิ่งนัก ในความเป็นหมอที่ไม่ใช่ครูแต่ต้องมาดูแลเด็กเล็กๆคุณหมอมากิโนะต้องทำงานร่วมกับคุณครูโยโกะ ชิโนยะ (อาโออิ โมริคาวะ) ครูประจำชั้น ป.6 ห้อง 2 ทว่าเมื่อเป็นห้องพยาบาลย่อมต้องมีเด็กไม่สบายเข้ามาแต่ห้องพยาบาลที่มีคุณหมอหน้าบึ้งจึงไม่เป็นที่ประสงค์แต่เมื่อนี่คือหมอแท้ๆที่ไม่มีความเป็นครูความเข้าใจในอาการป่วยจึงมีมากกว่า นั่นทำให้ทุกการรักษามาจากความเข้าใจในตัวเด็กและอาการป่วยจนทำให้เด็กๆค่อยๆมีทัศนคติที่เปลี่ยนไปกับห้องพยาบาลของคุณหมอมากิโนะ แต่สิ่งที่คุณหมอมากิโนะได้กลับคืนมาคือความเข้าใจและทัศนคติที่เปลี่ยนไปในการรักษาเด็กๆเพราะเขาคือหมอรักษาเด็ก เล่าเรื่องแบบมังงะเพราะนี่คือการสร้างงจากมังงะทำให้ได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแท้ ซีรีส์ญี่ปุ่นแท้ๆไม่ได้สร้างโดยค่ายสตรีมมิ่งที่มีความเป็นอินเตอร์เพราะต้องการตีตลาดต่างประเทศจะมีการเล่าเรื่องอยู่สองแบบ หนึ่งคือเล่าเรื่องทางยาวเหมือนซีรีส์ทั่วไปอาจมีความพลิกผันมีดราม่ามีเรื่องที่น่าสนใจระหว่างทางกับสองคือการเล่าเรื่องแบบมังงะที่จบเป็นตอนๆเคลียร์ภารกิจเป็นตอนๆไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นงานที่สร้างจากมังงะการเล่าเรื่องจึงเป็นอย่างหลังเพราะการเล่าเรื่องจะเล่าเป็นเรื่องของอาการป่วยของเด็กๆเป็นรายๆไปที่จบในตอนเป็นส่วนใหญ่บ้างคนที่อาการหนักหน่อยก็คร่อมตอน โดยให้เบื้องหลังเรื่องราวเป็นเรื่องของการค่อยๆแปรสภาพจากคุณหมอผู้น่ากลัวสำหรับเด็กประถมจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนได้แบบเนียนๆบนอาการขัดขืนที่น่ารัก ซ้อนด้วยความเปลี่ยนแปลงของเด็กๆผ่านอาการป่วยแปลกๆที่เอาจริงก็ยากที่คนที่ไม่ใช่หมอจะรู้ แล้วพื้นฐานของอาการป่วยนั้นทั้งตัวเด็กและครอบครัวจะเปลี่ยนแปลงพร้อมทัศนคติของคุณหมอหน้าบึ้งได้และนี่คือความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้และดั้งเดิม สอดแทรกเรื่องราวอาการป่วยที่มักเกิดขึ้นกับเด็กให้ได้รู้และเข้าใจแบบเข้าใจง่ายทำให้มีความสนุกสนานน่าติดตาม โดยปกติกับซีรีส์แนวการแพทย์นั้นมักจะไม่เอาอาการป่วยพื้นฐานแค่เป็นหวัดเป็นไข้ไอจามมาเล่าอยู่แล้ว โดยมากจะเอาอาการแปลกๆที่คนทั่วไปไม่รู้หรืออาจมองข้ามไปมาเล่าด้วยจุดประสงค์เพื่อให้ได้พึงระวัง และทุกอาการป่วยที่แปลกๆหรือไม่แปลกแต่มักถูกมองข้ามนั้นจะถูกรักษาหรือมีการดูแลยังไงนั่นคือความน่าติดตามหลักที่เป็นเรื่องย่อยที่ออกมาสนุกเพราะความไม่รู้ก็ทำให้อยากรู้ เช่นอาการเป็นลมหลับที่บางคนหลับได้ทุกที่ทุกเวลาหรือแม้แต่อาการป่วยทางใจที่ภาวะการทำมาหากินของผู้ใหญ่ทำให้ละเลยหลงลืม ความเก่งอีกอย่างคือเอาเรื่องอาการป่วยแปลกๆทั้งป่วยกายป่วยใจของเด็กๆมาผูกไว้กับเรื่องพื้นฐานของชีวิตที่ผู้เขียนมองว่าญี่ปุ่นเก่งไม่เป็นสองรองใครในการสร้างความน่าติดตามจากเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ทำให้ทุกอาการป่วยของเด็กๆที่จะเยียวยาทั้งกายใจของคนป่วยและคุณหมอกลายเป็นความสนุกสนานน่าติดตามเพราะเรื่องของเด็กๆยังไงก็สดใสเสมอต่อให้เล่าถึงอาการป่วยก็ตาม เป็นความบันเทิงที่มีหัวใจเพราะทุกอาการป่วยจะมีอะไรอยู่เบื้องหลังผ่านความเป็นเด็กที่ผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองต้องรู้ ที่ว่าบันเทิงแบบมีหัวใจเพราะนี่คือการเล่าเรื่องเด็กเพื่อผู้ใหญ่หรือเพื่อให้ผู้ปกครองพลันได้คิดเพราะบางครั้งสิ่งที่เราคิดว่ารู้ก็อาจไม่รู้ทั้งที่ใส่ใจแต่บางอย่างก็ละเอียดอ่อนเกินไปจนกลายเป็นเผลอไผลละเลย แล้วกับเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องย่อยที่เป็นดราม่าครอบครัวซ้อนอยู่ที่ทุกเรื่องคือเรื่องง่ายๆที่คนเป็นพ่อเป็นแม่พึงรู้ผ่านอาการป่วยกายป่วยใจของเด็กๆที่บางครั้งเราอาจคิดว่าเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ แล้วซ้อนกับเรื่องของการเรียนรู้และเติบโตในฐานะกุมารแพทย์ของคุณหมอมากิโนะที่ยังสามารถปลุกวุฒิภาวะในใจคนดูผ่านการเป็นหมอที่แหกคอกนอกกรอบรวมถึงในฐานะครูห้องพยาบาล ที่สำคัญที่พึงคิดคือก็ใช่ที่ผู้ปกครองต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวแต่เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กที่ยังมีความต้องการบางอย่างจากพ่อแม่ แต่บางครั้งพ่อแม่เองต่างหากที่คิดเข้าข้างตัวเองเอาความเหนื่อยล้าของตัวเองมาเป็นข้ออ้างเมื่อลูกเป็นอะไรไปแล้วใช่ว่าทุกคนจะโชคดีได้เจอกับคุณหมอมากิโนะในห้องพยาบาล จุดเด่นอยู่ที่การเป็นคุณหมอที่แข็งนอกอ่อนในหน้าตาบึ้งตึงได้อย่างทั้งน่าขันและน่ารักในแบบตัวละครจากมังงะ ในความเป็นมังงะหรือเป็นการ์ตูนตัวละครจะมีความแปลกในการแสดงออกเพราะความที่เป็นลายเส้นสามารถทำอะไรก็ได้ให้เห็นถึงอารมณ์ที่สุดโต่ง นั่นคือเอาจริงได้เอาฮาได้จากการเขียนตัวละครแล้วเรื่องนี้แม้จะไม่สุดโต่งเพราะเป็นเรื่องของชีวิตจริงที่เกิดขึ้นได้แต่ตัวเอกอย่างคุณหมอมากิโนะก็มีความเป็นการ์ตูนอยู่ในตัว ด้วยหน้าตาบอกบุญไม่รับแต่ข้างในอ่อนโยนท่าทางภาษากายที่ดูแปลกๆถูกถ่ายทอดอย่างน่าเชื่อถือและมีพัฒนาการข้างในได้ยอดเยี่ยมโดยโคเฮย์ มัตสึชิตะที่แม้จะมาในลุคที่ดูเผินๆอดคิดถึงโก อายาโนะไม่ได้ทุกที แล้วเขาก็เป็นศูนย์กลางของเรื่องได้ดีโดยมีความน่ารักของนักแสดงรุ่นเล็กที่ก็มีแสดงขาดบ้างเกินบ่างแต่โดยรวมแล้วเป็นส่วนเสริมชั้นยอดให้กับตัวเรื่องได้นั่นเพราะเมื่อใดที่ต้องการสะท้านอารมณ์และหัวใจน้องๆก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แล้วเพราะทุกคนคือคนป่วยจะเล็กหรือใหญ่ก็ต้องมีตรงนี้จึงถูกรับผิดชอบอย่างดีโดยอาโออิ โมริคาวะ ดูสนุกมีความน่ารักของเด็กๆไม่ต่างจากการอ่านมังงะแม้จะเหมือนกับที่เคยเห็นมาแต่ว่ามันคือเสน่ห์ที่มอบความซาบซึ้งอบอุ่นใจได้เสมอ สิ่งที่จะได้รับคือความวุ่นวายของเด็กๆเหมือนจับปูใส่กระด้งที่คงมีบ้างที่ต้องคิดถึงตัวเองสมัยประถมกับประสบการณ์ที่มีร่วมกับห้องพยาบาลและครูพยาบาล แล้วเมื่อเอาความวุ่นวายของเด็กๆมากมายมาจู่โจมใส่หมอที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ตรงนี้ที่ไม่ใช่ครูความบันเทิงจึงมาเต็ม ทำให้ดูสนุกบนความน่ารักของเด็กๆที่ปะทะกับความกวนอึนมึนของหมอหน้าบูดตามสไตล์ที่เคยเห็นในมังงะบ่อยๆ ทำให้อารมณ์ไม่ต่างจากการอ่านมังงะเป็นตอนๆไปแถมยังเล่าเรื่องในแบบที่เคยเห็นมานักต่อนักแต่ก็อย่างที่บอกคือต่อให้เป็นมังงะที่เป็นลายเส้นญี่ปุ่นจะใส่อะไรลงไปเสมอที่ขออนุญาตเรียกว่าหัวใจ ทำให้ความรู้สึกมาทุกทิศทางขำขันสนุกสนานโศกเศร้าเคล้าความซาบซึ้งน้ำตาคลอสร้างแรงบันดาลใจและอบอุ่นในใจ ทำให้กลายเป็นซีรีส์ญี่ปุ่นอีกเรื่องที่จบแบบไม่อยากให้จบยังอยากเห็นมากิโนะเซ็นเซย์รับมือกับเด็กๆรุ่นต่อไปอีกเรื่อยๆ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก จาก Instagram netflixjp ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram houkagokarte_ntv เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !