Series Review The Fiery Priest 2 (2024) บาทหลวงเลือดระอุ เหมือนมาเอาฮาแต่ว่าไม่ทิ้งแนวสืบสวนทำให้ในความรั่วเรื้อนเหมือนไม่เต็มเต็งกลายเป็นความสนุกเต็มพิกัดอัดความมันส์มาเป็นของแถม รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! บางครั้งการดูหนังดูซีรีส์ก็สร้างพันธะภาระหน้าที่เพราะการได้ดูหนังดูซีรีส์ที่มีภาคต่อหรือมีซีซันต่อมามันกลายเป็นว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ เช่นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่บ้านผู้เขียนเกิดปรากฎการณ์ติดซีรีส์เกาหลีทั้งบ้านไม่เว้นแม้แต่ลูกคนเล็กที่ตอนนั้นยังเด็กแค่ว่าเขาสามารถอ่านซับไทยได้จากการฝึกภาษาอังกฤษ ซีรีส์เรื่องนั้นคือ The Fiery Priest (2019) หรือชื่อไทยสุดก๋ากั่นว่าบาทหลวงเลือดระอุกับความสนุกเกินคำบรรยายทั้งกวนทั้งมันส์ทั้งฮาสร้างฉากและตัวละครที่น่าจดจำมากมายจนทำให้จำนวนตอนยี่สิบตอนยังดูน้อยไป ซึ่งเหตุผลหลักที่มันออกมาสนุกอาจเพราะตัวละครฝ่ายดีเป็นที่รักของคนดูคือคาแรกเตอร์ชัดและมีความต่างแต่เคมีเข้ากันสุดลงตัว ทำให้เมื่อซีรีส์จบคนไม่ยอมจบเพราะความสนุกครบรสแบบนี้ใช่จะหาได้ง่ายๆกลายเป็นซีรีส์ที่ต้องแนะนำให้ดูแล้วตอนจบก็ทิ้งท้ายเหมือนจะมีซีซันต่อมาเพราะมีการรวมทีมปราบทรชนกันแล้วแต่ก็เงียบฉี่ จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงห้าปีถึงได้มีการสานต่อที่คราวนี้ลดจำนวนตอนลงแต่ผลจะออกมายังไงไปว่ากันเมื่อดูจบแล้ว ห้าปีหลังล้างบางทรชนบาทหลวงคิมแฮอิล (คิมนัมกิล) ก็ต้องหัวร้อนเมื่อมีเด็กในโบสถ์ถูกบังคับให้เสพยาทั้งที่เป็นโรคหัวใจจนอยู่ในอาการโคม่า คุณพ่อคิมจึงร่วมกับสายสืบคูแทยอง (คิมซังคยุน) ตามสืบจนสาวไปถึงแก๊งค้ายาเสพติดที่เมืองปูซาน อย่ากระนั้นเลยคุณพ่อคิมของเราที่ปัจจุบันเป็นเบลลาทอร์แห่งคริสตศาสนาซึ่งคืออะไรผู้เขียนก็ไม่รู้หรอกรู้แต่ว่าคงมีหน้าที่กำราบพวกคนบาปกระมังจึงเดินทางไปเมืองปูซาน และที่นี่เองที่กำลังจะเป็นฐานที่มั่นใหม่ของเจ้าพ่อยาเสพติดจากเอเชียตะวันออกเฉียงไต้สุดเดือดเชือดไม่ยั้งนามว่าคิมฮงชิก (ซังจุน) แถมยังไม่พอยังมีอัยการหน้าด้านหน้าทนผู้ฉ้อฉลทุกรูปแบบคอยให้ท้ายแก๊งค้ายานามว่านัมดูฮอน (ซอฮยอนอู) คุณพ่อคิมจึงต้องขอความช่วยเหลือจากอัยการพัคคยองซอน (อีฮานี) ให้ไปแฝงตัวในสำนักงานอัยการเขตส่วนเขาและสายสืบคูแทยองก็จะตะลุยเหล่าร้ายภาคสนามโดยได้รับความร่วมมือจากตำรวจน้ำดีในพื้นที่คือสายสืบคูจายอง (Bibi) แล้วภารกิจนี้จะปั่นป่วนหรือโหดหินขนาดไหนเมื่อคู่ต่อสู้ก็ไม่ใช่ขี้ไก่ ยังยึดมั่นในแนวสืบสวนที่คราวนี้ไม่แน่นมากอาจเพราะลดจำนวนตอนลงบางอย่างจึงดูง่ายแต่ก็มีดีที่เรื่องเดินหน้าไปไว ด้วยรากฐานของซีรีส์เรื่องนี้ในซีซันแรกมันคืองานแนวแอ็กชันคอมมิดี้สืบสวนสอบสวนที่มีความแหวกแหกขนบด้วยการวางตัวเอกเป็นบาทหลวง นั่นคือจุดขายคือบาทหลวงพันธุ์หายากที่จะมาเปลี่ยนมุมมองใหม่ของสาวกแห่งพระเจ้าด้วยการสืบคดีที่แน่นอนต้องฝ่าพายุของพวกชั่วไม่เกรงกลัวบาปทุจริตคอรัปชันฉ้อฉลกินสินบนไม่งั้นคงไม่ถึงมือบาทหลวง พอมาซีซันนี้สิ่งที่ดีอยู่แล้วก็คงไว้ได้ดีคือการสืบคดียาเสพติดที่คราวนี้บาทหลวงพันธุ์หายากยกพลพรรคมาสร้างความปั่นป่วนพวกชั่วในปูซาน แต่เมื่อการมาเป็นครั้งที่สองที่พื้นฐานหรือมิติตัวละครต่างๆได้เข้าไปอยู่ในใจคนดูตั้งแต่ซีซันที่แล้วสิ่งที่ตามมาคือไม่ต้องปู แล้วด้วยการลดจำนวนตอนลงทำให้ในรายละเอียดบางอย่างถูกลดทอนจนทุกอย่างดูง่ายเต็มไปด้วยความบังเอิญ ซึ่งมันก็ยังมีข้อดีคือทำให้เรื่องเดินหน้าไปไวไม่มีหยุดอยู่กับที่แต่ข้อเสียคือขาดความละเมียดลุ่มลึกอย่างที่เคยเป็นมาก่อน อัดความมันส์มาเต็มพิกัดด้วยสถานการณ์ที่พาไปที่คราวนี้เหมือนจะมาเอาฮามากกว่าเก่าทำให้เดินหน้าด้วยความฮามากกว่าเข้มข้น บาทหลวงเลือดระอุจอมหัวร้อนย่อมต้องมันส์ด้วยฉากแอ็กชันต่อสู่ที่สนุกและเท่ แล้วเมื่อจำนวนตอนน้อยลงจากซีซันที่แล้วที่มีถึงยี่สิบตอนส่วนคราวนี้มีเพียงสิบสองตอนทำให้เรื่องพัฒนาไปอย่างรวดเร็วหรือเรียกอีกอย่างว่าใส่สถานการณ์ต่างๆเข้ามาเพื่อพาไปยังความมันส์เต็มพิกัด แต่เอกลักษณ์ของเอกบุรุษของบาทหลวงเลือดระอุจะต้องมีความมันส์คู่กับความฮาสถานการณ์ที่ใส่มาจึงมาด้วยอารมณ์ขันที่มากกว่าแม้ว่าโครงสร้างจะยังเหมือนเดิมอาจเพราะนักแสดงหน้าเดิมบางคนไม่ได้มา ซึ่งเมื่อไม่ต้องมัวมาปูหรือพะวงดราม่าสิ่งที่ตามมาคือการเอาความฮามานำหน้าความมันส์นั่นคือใส่มุขอะไรก็ได้ที่หยิบมาได้มุขเรี่ยราดบาทสองบาทก็เอา แต่ที่ต้องยอมรับคือเมื่อมุขเรี่ยราดที่ไม่สกปรกเหล่านี้ถูกเล่าผ่านตัวละครที่มีมีสันเฉพาะตัวมันก็ยังได้ผลอยู่ดีเพราะมีให้หัวเราะน้อยใหญ่ได้ทุกตอนเพียงแต่ความเข้มข้นมันหายไปเพราะตั้งใจมาฮานี่ล่ะ ตั้งใจมาขายตัวละครที่คนดูรักจึงจัดหนักกับเอกลักษณ์ของแต่ละคนจนรั่วเรื้อนคล้ายไม่เต็มเต็งแต่ก็เป็นความบันเทิงสุดตัว เพราะเอกลักษณ์ตัวละครหรือคาแรกเตอร์ตัวละครมันชัดทำให้เป็นที่รักของคนดูตั้งแต่บาทหลวงสุดเท่อัยการสาวสวยแต่รั่ว สายสืบสุดเห่ยเอาดีไม่ค่อยได้สองคู่หูโยฮันกับทรงศักดิ์เสือเฝ้ากษัตริย์เจ้าของคำผวนหรือแม้กระทั่งแม่ชีเซียนไพ่ คือคนดูรักความเป็นพวกเขาเหล่านั้นซีซันนี้จึงตั้งใจเอาสิ่งที่คนดูรักมาจัดหนักเอาเต็มที่ผลที่ได้คือมันกลายเป็นความบันเทิงสุดตัวที่ไปสุดทาง กระนั้นถ้าจะเอาแบบไม่อวยก็คือมันดูล้นเกินไปไม่ลุ่มลึกเท่าซีซันที่แล้วที่มีความพอดีส่วนซีซันนี้เมื่อจัดหนักเอามามากกว่าเพื่อเรียกเสียงฮามันเลยกลายเป็นอาการรั่วจนเรื้อน ถึงขนาดที่ว่ามีบางสถานการณ์หรือบางพฤติกรรมออกจะเพี้ยนๆประมาณไม่เต็มเต็งคือรั่วผิดมนุษย์มนาเพราะว่าตั้งใจมาขายโดยที่ให้เวลากับตัวละครที่คนดูรักให้มากที่สุดกระจายให้ครบทุกคน แต่ถ้าไม่คิดมากไม่ใส่ใจคิดว่าเป็นงานที่มาเพื่อความบันเทิงบนความขบขันจนฟันโยกนี่ก็คือความบันเทิงชั้นดี ไม่มีอะไรต้องสาธยายกับการมารับบทเดิมของนักแสดงชุดเก่าส่วนนักแสดงชุดใหม่อาจเรียกว่ามาตามระบบ กับตัวละครหลักฝั่งขบวนการบาทหลวงคงไม่ต้องสาธยายเพราะก็รับบทที่เคยๆแถมยังตั้งใจมาเพื่อขายจุดเด่นตัวละครทำให้เล่นกันอย่างเมามันกันทุกคน ทั้งคิมนัมกิลที่คงไม่มีใครใส่ชุดบาทหลวงชายยาวได้เท่เท่าเขาอีกแล้วหรือคิมซังคยุนที่เห็นหน้าก็ฮาและอีฮานีที่นึกภาพตอนเธอเล่นบทซีเรียสไม่ออกแล้วเพราะมันกลายเป็นภาพติดตา ส่วนสองคู่หูโยฮันกับทรงศักดิ์ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีแต่ที่ยังไม่เข้าทีคือ Bibi ที่เหมือนตั้งใจมาเรื้อนเกินไปจนดูล้นซึ่งความจริงก็ล้นกันทุกคนแต่คนอื่นเขามีพื้นฐานมาจากซีซันก่อนเลยไปได้แบบเนียนๆ ส่วนตัวร้ายสองสามคนเอาจริงคือยังเป็นตัวร้ายที่เหมือนกับซีซันแรกเลยทุกอย่างเหมือนกับว่าได้สร้างระบบของเรื่องไว้แล้วแล้วเอาตัวละครใหม่มาใส่ โดยที่มิติทางใจยังแบ่งแยกหนักๆเหมือนเดิมทำให้ตัวร้ายยังเป็นตัวร้ายที่น่าชิงชังจนคนดูเฝ้ารอความสะใจอย่างใจจดจ่อถึงตรงนี้น่าเสียดายที่นักแสดงหน้าเดิมบางคนไม่กลับมาจริงๆ ถ้าเทียบกับซีซันแรกซีซันนี้ดูรั่วมากกว่าง่ายกว่ามีความสนุกโดยไม่ทิ้งตัวตนแต่คงคงยังไปไม่ถึงจุดที่ซีซันแรกเป็นนั่นคือตำนาน คงจะไม่เกินเลยที่จะบอกว่าซีซันแรกมันคือตำนานชัดๆดูกี่ครั้งก็ยังสนุกโดยที่ผู้เขียนดูซ้ำสองรอบความฮายังกระจาย ในด้านของการสืบคดีที่บาทหลวงพันธุ์หายากของเราต้องสู้กับทั้งคนร้ายและเจ้าหน้าที่รัฐกังฉินมันมีรายละเอียดมีความละเมียดเพราะมีเวลาเล่ามากกว่าทำให้กลายเป็นงานที่สนุกและกลายเป็นที่จดจำ ส่วนซีซันนี้อาจต้องยอมรับว่าในแง่ความสนุกก็ยังโอเคเพราะไม่พยายามซับซ้อนไม่พยายามหักมุมเปิดหน้ามาขายความฮาที่มีความมันส์เป็นของแถมต้องว่ากันแบบนั้น เพราะซีซันนี้ตั้งใจมาขายคาแรกเตอร์ตัวละครแบบจัดหนักแล้วด้วยเวลาเล่าที่น้อยกว่ามากอะไรบางอย่างจึงเหมือนหาทางลงง่ายไปแถมการใช้ความฮามานำหน้าก็มาพร้อมกับความเรื้อน แต่อย่างน้อยที่เป็นอยู่ก็ยังเป็นบาทหลวงเลือดระอุตัวจริงคนเก่าที่ไม่เสียตัวตนเพียงแต่ความสนุกคราวนี้คงไปไม่ถึงจุดที่ซีซันแรกเป็นยังห่างอีกเยอะแต่ถ้ามีมาอีกก็ดูอีกเหมือนเดิม ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5,6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram sbsdrama.official อ่านบทความซีรีส์ในความทรงจำ The Fiery Priest (2019) บาทหลวงเลือดระอุ ได้ที่นี่ https://entertainment.trueid.net/detail/0g8y0j5vEP7O เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !