"เกษม คมสันต์" ควงภรรยา "บุญตา เมืองใหม่" เผยนาทีเส้นเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน
นักร้องลูกทุ่งเสียงดี "เกษม คมสันต์" ที่วันนี้ควงหวานใจ บุญตา เมืองใหม่ มาเปิดเส้นทางความรักกว่า 21 ปี ที่ต้องแอบคบแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ นานกว่า 4 ปี เรียกว่าเป็นความรักต้องห้ามกันเลยทีเดียว พร้อมอัปเดตเส้นเลือดในสมองตีบต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน หวิดพิการ ผ่านทาง รายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
"เกษม คมสันต์" ควงภรรยา "บุญตา เมืองใหม่" เผยนาทีเส้นเลือดในสมองตีบ
ล่าสุดพี่เกษมเป็นเส้นเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน?
เกษม : ครับผม ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา มันไม่มีอาการบ่งบอกเลยนะว่าเราจะเป็นเส้นเลือดตีบ เพราะเกิดมาไม่เคยป่วย แล้วไม่มีอาการบอกเลย คือตื่นมาเดินไม่ได้เลย
ตอนนั้นพี่คิดอะไร?
เกษม : คิดว่ามันไม่ปกติแล้ว ได้ยินจากข้าวแล้วน้องๆ เคยเป็น ถึงกับเสียชีวิตเลยนะที่เส้นเลือดในสมองแตก เราก็คิดว่าถึงคราวเราแล้วมั้ง
ทำไมพี่คิดว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับเส้นเลือดในสมอง?
เกษม : คือชาเราก็เคยชา แป๊บเดียวก็หาย แต่ว่าครั้งนี้ยืนไม่ได้เลย ล้มอย่างเดียวเลย ซีกขวา
ตอนนั้นไปหาหมอยังไง?
เหษม : ตอนนั้นยังไม่ได้ไปหาหมอเลยนะ ก็คิดว่ามันเข้าอยู่ ตี4 ตื่นเข้าห้องน้ำ คิดว่าหมอน่าจะมาตอน 8-9 โมง คือมันยังพูดได้ปกติ ปากไม่เบี้ยว คิดว่าไม่น่าจะหนัก ตอนนั้นหนักตัวมาก อยากนอนอย่างเดียวเลย ก็ดูอาการไปก่อน
ตอนนั้นคนที่เห็นเป็นยังไงบ้าง?
บุญตา : ที่เห็นก็คิดเหมือนพี่เขา แต่เราสังเกตว่าพี่เขาเข้านอนเร็ว ตั้งแต่ 5 ทุ่ม แล้วนอนอยู่ท่าเดียวตั้งแต่ 5 ทุ่ม คือเราจะตื่นตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้แปลกใจ เพราะพี่เขานอนอยู่ท่าเดียว แล้วนอนหลับเร็ว ก็เลยมีความรู้สึกว่าน่าจะเหน็บชา
ตอนตี4 ตื่นมาด้วยกันไหม?
บุญตา : ตื่นมาด้วยกัน เพราะว่าเขาเข้าห้องน้ำ ก็คุยกังเขา ยังไม่ได้คิดว่าพี่เขาเป็นอะไร แต่เขาก็พยายามพูดว่าเขาไม่ปกติ แต่บุญตาก็คิดว่าเหน็บชาหรือเปล่า เพราะเห็นตั้งแต่5 ทุ่ม เราก็เคยเป็น แล้วเขาเดินไปเข้าห้องน้ำ ตอนนั้นยังเดินได้ แต่จะดูล้าๆ เราก็ดูกล้องวงจรปิดว่าทำไมเขาไปนาน พอเขาขึ้นมาก็หายาพวกคลายเส้น มารีดเส้นให้ คิดว่ามันจะดีขึ้น แล้วเขาอยากนอนต่ออย่างเดียว แล้วพอตอนเช้าตื่นมา บุญตาก็ตื่นเช้า เพราะต้องส่งลูกไปโรงเรียน ขึ้นมาดูว่าจะไปพร้อมลูกเลยไหม ส่งลูกเสร็จไปหาหมอเลย จริงๆ ถามเขาตั้งแต่กลางคืนแล้วว่าจะไปไหม เขาบอกไม่เป็นไร หนูไปส่งลูกเสร็จกลับมากินข้าว ถามลูก หลานมาอยู่ที่บ้าน ไปดูพี่เกษมสิว่าเป็นยังไง ก็ยังไม่อยากไป เขายังติดตลกอยู่ว่าหมอมาประมาณ 9 โมง
ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บShow
สุดท้ายไปโรงพยาบาลกี่โมง?
บุญตา : ไปเกือบ 10 โมง เพราะหนูบอกไม่ไหวแล้ว เขาลุกขึ้นคือเขาเซเลย เดินไม่ได้
พอถึงมือหมอ หมอว่ายังไง?
บุญตา : เขาเข็นแกเข้าไปเลย เขาปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วเขาบอกว่าเลือดไม่ปกตินะ แล้วหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ ต้องรีบส่งไปแสกนสมองด่วน
เกษม : อาการที่ตกใจครั้งแรก คือ พอไปถึงโรงพยาบาล ทั้งวัดความดัน ให้น้ำเกลือ ถังอ๊อกซิเจน 4-5 อย่างเต็มตัวเราไปหมด เราคิดว่าครั้งนี้ทำไมมันหนัก
บุญตา : หนูได้คุยกับหมอ เขาบอกว่าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ แล้วเขาคุยแบบไม่ได้ดูแลตัวเองเลยนะ เราก็เหมือนรู้แล้วล่ะ อยู่กับพี่เขา 20 กว่าปีเขาใช้ชีวิตและร่างกายคุ้มมากๆ กับการทำงานด้วย
ตอนที่หมอบอกว่าเส้นเลือดในสมองตีบ ตอนนั้นตกใจไหม?
บุญตา : ตกใจมาก ก็คุยกับหลาน ส่งข่าวต่อ ๆ กัน มีหลายคนโทรมาถามว่าเป็นยังไง หนูก็บอกว่าตอนนี้ไม่รู้เลยว่ามันยังไง ยังอยู่ขั้นตอนที่คุยกับหมออยู่
เสียน้ำตาไหม?
บุญตา : ร้องไห้เลย แต่ไม่เห็นเขานะ เพราะเขากั้นฉาก ที่ร้องตอนแรกไม่ได้ร้องเพราะรู้ว่าเส้นเลือดในสมองตีบแต่ร้องเพราะว่ามีคนโทรมา คำว่าเส้นเลือดในสมองตีบมันรุนแรงมาก
จากคนที่ไม่เคยป่วยเลย แล้วอยู่เขาเอาอะไรมาติดเต็มไปหมด พี่รู้สึกยังไงบ้าง?
เกษม : คิดว่าอายุยังไม่เยอะนะ จะไปแล้วเหรอ
คิดว่าจะตาย?
เกษม : คิดว่า ๆ รุ่นน้องก็เพิ่งเสียชีวิตไป แต่เราหมอบอกว่าถ้ามาช้ากว่านี้ถึงขั้นพิการเลย
ตอนนั้นกลัวไหมว่าจะร้องเพลงไม่ได้ตลอดชีวิต?
เกษม : กลัวมากถ้าเดินไม่ได้ ขอให้ร้องเพลงได้ก็โอเคยังเลี้ยงลูก เลี้ยงครอบครัวได้
ตอนนั้นอยู่โรงพยาบาลนานไหม?
เกษม : 5 วัน แล้วมาพักที่บ้าน ช่วงนั้นต้องกายภาพบำบัด ว่างก็พยายามออกกำลังกาย แต่อย่าออกหนักมาก
จริงไหมที่บอกว่าออกมา 1 สัปดาห์พี่ขึ้นคอนเสิร์ตก่อนเลย?
เกษม : จริงๆ รับงานไว้เต็มหมดแล้วนะ ช่วงที่ไม่สบายต้องขอแคนเซิลเขา พอขึ้นคอนเสิร์ตก็ต้องพยุงหน่อย เพราะเวทีมันสูง ถ้าล้มเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะไป
ถ้าวันที่2 ยังขยับไม่ได้ ทุกวันนี้ชีวิตพี่จะเป็นยังไง?
เกษม : คงเสียใจแหละ เพราะครอบครัวก็ยังดูแลไม่ค่อยดี เป็นเสาหลักของครอบครัวอยู่ ถ้าหากเราล้มไปญาติพี่น้องต้องเหนื่อยแน่ แต่เราก็ทำใจ ตอนที่ไม่สบายก็อธิษฐานนะ ถ้าลูกเคยสร้างความดีมาบ้าง อย่าให้ถึงขั้นปากเบี้ยว ร้องเพลงไม่ได้เลย ขอให้หาย
ไม่เคยรู้เลยว่าคู่นี้เป็นสามี ภรรยา กัน เล่าให้ฟังตอนเริ่มไปจีบสาวสวยคนนี้ได้ยังไง?
เกษม : ถือว่าเป็นบุญวาสนานะ ทีแรกไม่ได้รักกันเลยนะ เราเห็นเด็กคนนี้ปี 38-39 เขาเป็นหางเครื่องอยู่วงมนต์สิทธิ์คำสร้อย แล้วเราไปเป็นลูกวง เราเห็นเด็กคนนี้ทำไมมันเต้นโก๊ะๆ จัง มองอีกคน ไม่ได้อยู่ในสายตาหรอก เขาก็ไม่มองเราเหมือนกัน เห็นเป็นเพื่อนร่วมงาน
แล้วมาจีบได้ยังไง?
เกษม : ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามาอยู่ได้ยังไง
บุญตา : ไม่ได้จีบ เขาเรียกว่าเป็นบุพเพชักจูงมาเจอกัน เรามาเจอกันตอนอยู่ค่ายชัวร์ออดิโอ้แล้ว ตอนเป็นห่างเครื่องเจอพี่เขาแว๊บไป แว๊บมา แค่นั้นเอง ไม่ได้คบกันตรงนั้น พอมาอยู่ค่าย เขาก็มาคุย แต่ไม่รู้ว่าความรู้สึกพิเศษมันเกิดขึ้นตอนไหน เรารู้สึกแปลกๆ เอง
เกษม : ทีแรกเราสงสาร เขาเหมือนน้อง ตอนนั้นยังไม่มีอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเองนะ เราพอมีเงินบ้างก็ให้ไปซื้อข้าวซื้ออะไร ดูตรงนี้ สงสาร คือพี่ให้ทุกคนด้วย ผู้หญิง ผู้ชาย แต่ให้ไม่เท่ากัน
คนอื่นพี่ให้เงิน แต่มีคนเดียวที่พี่ชวนไปร้านคาราโอเกะ?
เกษม : ก็มีคนเดียวที่ไปได้
บุญตา : คนอื่นเขาไม่ได้ไป น้องสุดไง อยู่ค่ายคือพี่เขาจะอยู่ข้างนอกกันบ้าง บุญตาก็เหมือนเป็นน้องเล็กอยู่คนเดียวเขาก็ชวนไปเที่ยว ตอนแรกไปเป็นกลุ่ม ช่วงจะกลับทุกคนแยกย้ายเขามีแฟน เขาก็ไปกับแฟนเขา พี่สำราญเลยบอกว่าพี่เกษมฝากบุญตาหน่อยนะส่งน้องเขาคอนโดหน่อย พออยู่บนแท็กซี่ เขาก็ถามว่าชอบร้องคาราโอเกะใช่ไหม เขาก็พาไปร้อง
จบคาราโอเกะไปไหนต่อ?
เกษม : ก็ชวนไปที่ห้องเลย ไม่ต้องจีบอะไรเลยนะ
คืนนั้นจบไหม?
เกษม : ก็เรียบร้อย
เห็นบอกว่าเป็นรักที่นุ่มนวลแต่เป็นรักที่ต้องหลบซ่อน?
เกษม : ใช่ ๆ
บุญตา : จบจากคืนนั้นพอตอนเช้าแยกย้าย เราก็คิดว่าจบแค่วันนี้แล้วไม่มีต่อ คือด้วยความที่เราเมา เราไม่เคยทานเหล้าแล้วเราเมา แล้วเรารู้สึกว่าทำไมพี่เขาทำนู้น ทำนี่แปลก ๆ กับเราในความรู้สึก ณ ตอนนั้น ก็ไม่ได้คิดว่าชอบ เราเลยรู้สึกว่าถ้ามันไม่ใช่ความรักเกิด มันแค่คืนนี้ก็แยกย้าย ไม่ได้คิดว่าเราจะสานต่อ
คบหลบ ๆ ซ่อน ๆ มา 4 ปี?
บุญตา : ใช่ ไม่คิดว่าพี่เขาจะกลับมา
เกษม : ตอนนั้นนโยบายของบริษัทห้าม
บุญตา : ใช่ ไม่ให้มีแฟน แล้วห้ามชอบกันเอง พูดง่ายๆ ไปคอนเสิร์ตเราก็เหมือนพี่น้อง ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำงาน แบบอยู่ใคร อยู่มัน บางทีเจอกันเดือนละครั้ง ไม่ใช่ว่าจบงานอยากไปก็ไป ไม่ใช่ ต้องเงียบที่สุดถึงจะไป
นอกจากเจ้านายไม่รู้แล้ว เพื่อนๆ รู้ไหม?
บุญตา : ตอนแรกยังไม่รู้ 4 ปีถึงจะรู้
1 เดือนเจอกันครั้งเดียว?
บุญตา : บางเดือนไม่ได้เจอเลย ได้แต่คุย แต่ก็ไม่ได้คุยทุกวันด้วย
ตอนนั้นทรมานไหม?
เกษม : ก็ทรมานนะ แต่ก็กลัวว่าถ้าเจ้านายรู้จะลำบากคือเราจะไม่ได้เป็นนักร้องเลย
ถ้าเจ้านายรู้จะเกิดอะไรขึ้น?
เกษม : เขาจะบอกให้ออก
บุญตา : ใช่ค่ะ คือจบเลย
เกษม : คือเสียอนาคตเลย
ความจริงมันมาโป๊ะตอนไหน?
บุญตา : บุญตาคุยกับพี่เขาถ้าเป็นภาษาบ้านเราคือจะมีมือที่สามแล้ว เริ่มคุยเยอะ จากที่เย็นเราก็เริ่มร้อน เห้ย เรามาก่อน ทำไมนู้น นี่นั่น เราก็เริ่มห่วงของเราแล้ว ช่วงนั้นมีเพลงใหม่พี่ๆ ทีมงานเริ่มรู้ แต่เจ้านายยังไม่รู้ ก็เลยได้มีการพูดคุยกับพี่เขา
พอเขาจับได้แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับพี่บ้าง?
เกษม : ผิดก็ต้องยอมรับ ทำให้มันดีดีต่อไป อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ว่ากันตามบุญวาสนา
ดูเอ็มวีเขายัง เอ็มวีเขาเศร้านะ?
บุญตา : ทำเพลงนี้ 1 เดือน เลิกกันเลย พี่เขายังไม่รู้สึกถึงความรู้สึกเราจริงๆ เหมือนเขาหลงึนอื่นอยู่ เรามองว่าเขาจะมีใหม่ก็แล้วแต่ต้องให้เขารับรู้ความรู้สึกเรา
แล้วอะไรทำให้เรากลับมาคบกันอีก?
บุญตา : สายแนนดึงกลับมาเหมือนเดิม คือเลิกกันไม่ใช่ครั้งแรก
แสดงว่าพี่เกษมเขากลับมาง้อ?
เกษม : ครับ
เรานอกลู่ นอกทาง มีรู้สึกผิดกับเขาไหม?
เกษม : ก็รู้สึกผิดครับ ก็ยังทำอยู่ เราเป็นคนธรรมดา เวลาไปคอนเสิร์ต เห็นก็แวะนอกลู่ นอกทางบ้างธรรมดา แต่นั่นคืออดีต ทุกวันนี้ไม่อะไรแล้ว
อะไรที่ยังทำให้รักเขาอยู่?
บุญตา : ต้องบอกว่าพี่เขาเป็นคนใส่ใจรายละเอียดในความรู้สึก ถามว่ายังอยู่ตรงนี้เพราะอะไร เรามองเรื่องที่ผ่านมาให้เป็นอดีต บุญตาจะไม่ค่อยมองกลับไปในเรื่องที่มันเลวร้าย พยายามจะลืม เหมือนเรามีโอกาสเขาในทุกๆ เรื่องเวลาที่อยู่ด้วยกันพยายามที่จะคุยกับเขา
ทุกวันนี้ไว้ใจ 100%?
บุญตา : ใช่ค่ะ ไม่เช็ค ไม่อะไร แล้วบุญตาก็พูดแค่ครั้งเดียวว่าไม่จำเป็นต้องเช็ค ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองซีเรียสเครียดเหมือนสมัยก่อน เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่าทำไมความรักมันทำให้เราเจ็บ ทำให้เราเศร้า ทุกอย่างมันเครียดหมดเลย ก็เลยต้องปล่อยวาง รู้สึกว่าถ้าสักวันเขาจะเป็น เขาจะทำ บุญตาก็รู้เอง
พี่เกษมทำไมออกนอกลู่ไปตั้งไกล ทำไมถึงกลับมาหาผู้หญิงคนนี้?
เกษม : เขาดี เขารับเราได้ทุกอย่าง อภัยให้ทุกครั้ง ทุกครั้งเขาห่วงเรา รู้เลยว่าน่าจะเป็นแม่ที่ดีของลูกเราได้
บุญตา : เขาพูดกับเราว่าผู้หญิงที่ผ่านมาทุกคนก็สวย ทุกคนก็ดีแหละ แต่ว่าใจไม่เหมือนเรา
ช่วงโควิดที่ผ่านมา แฟนคลับให้ 300,000?
บุญตา : ต้องบอกว่าทยอย บุญตาไม่คิดว่าจะเจอแฟนคลับที่เขาอยู่เบื้องหลังจริง ๆ เราไม่เคยเจอเลย อยู่ในเงามืดด้วยเขาบอกว่าติดตามบุญตามาหลายปีแล้วเหมือนเขาจ้างบุญตาร้องเพลงให้ฟัง บุญตาไลฟ์ตอนไหน เขาขอเพลง ให้เลย 20,000 บาท
ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขา?
บุญตา : อยากขอบคุณพี่ชายนะคะ ชื่อพี่มงคล ดูแลตอนที่น้องลำบาก ตอนนี้น้องสาวเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่พี่ชายก็บอกว่าไม่เคยทิ้งน้องสาว ตอนนี้น้องสาวดีขึ้นแล้วไม่ต้องห่วงนะคะ ยังรักและคิดถึงพี่ชายเหมือนเดิม
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama