เปิดหัวใจ! ปีเตอร์ คอร์ป กระเป๋า 1 ใบ มอเตอร์ไซค์ 1 คัน และวันไร้งาน 2 ปี!!
เปิดหัวใจหนุ่มยิ้มกว้าง “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” จากนักร้อง นักแสดง ล่าสุดกับบทบาทผู้จัดรายการท่องเที่ยวทางทีวี ทำให้เราได้มีโอกาสพูดคุย เปิดใจกับเขาหลายเรื่อง ในมุมที่อยากพูด ไม่เคยพูด และไม่รู้จะพูดทำไม ทุกเรื่องราว จากปากเขาที่แม้ไม่ใช่ผู้ชายเพอร์เฟ็กต์ แต่ทุกเรื่องก็ไม่ “เล็ก” สำหรับเขา ผู้ชายที่เคยตกอยู่ในโมเมนต์เทรนด์โดนด่า เขาผ่านมาได้อย่างไร วันนี้ รู้เรื่อง!?
ปีเตอร์ในวัยจะ 42 ในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ เอ่ยยิ้มทักทายด้วยรอยยิ้มกว้างเหมือนทุกครั้ง เสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงทักทายอย่างเป็นกันเอง กับ TrueID Entertain
ride with me ขี่ตามฝัน งานผู้จัดในคราบคนรักมอเตอร์ไซค์
“ปีเตอร์ คอร์ป” โปรดปรานมอเตอร์ไซค์เป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เด็ก บวกกับชอบเคมีและคณิตศาสตร์อย่างยิ่งยวด ไม่แปลกที่เขาจะมีโอกาสประกอบมอเตอร์ไซค์เองขึ้นมา จนกระทั่งวันที่เป็นนักร้องแต่ไม่เคยได้เที่ยวเอง ความฝันทำรายการท่องเที่ยวด้วยการขับขี่บิ๊กไบค์จึงไม่ไกลเกินฝันของเขาอีกแล้ว
“ผมขี่มอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่เด็กๆ ตอน 12 ครั้งแรก แล้วบ้าเลือดขี่มอเตอร์ไซค์มาตลอด อายุ 14-15 ประกอบมอเตอร์ไซค์เองเลยแบบมาเป็นชิ้นๆ คือชอบประกอบอะไรแบบนี้ ตอนเรียนนี่ชอบเคมีกับเลขนะ ไม่ได้มาสายเอ็นเตอร์เทนแต่ชอบปล่อยมุกก็เลยเข้าสู่วงการบันเทิง ปรับตัวง่าย ด้วยความเก็บกด เป็นเด็กลูกครึ่งที่โตที่เดนมาร์ก ประเทศไทยนี่ผมไปมาหมดแล้ว สิ่งที่ผมเห็นคือโรงแรม เวที รถตู้ เครื่องบิน เสร็จงานก็กลับ แอบมองผ่านกระจกบ้าง ตรงนี้มีอะไรสวยดี อยากไป แต่ไปเล่นคอนเสิร์ตก็ไม่เคยได้ไป เพราะเหนื่อย ด้วยหลายๆเหตุผลคืออยากออกไปศึกษาอะไรเพิ่มเติมที่แบบท่องเที่ยวจริงจังตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว นี่คือจุดมุ่งหมาย พอช่วงหลังหันมาขี่บิ๊กไบค์อีกทีเริ่มขี่ที่เมืองไทยก็อายุ 20-21 แต่ผมเคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้ Harley Davidson อยู่ 2 ปีนะ ก็กลับมาอีกออกทริปกับเขา แต่ก่อนหน้านั้นก็เคยคิดทำว่าอยากจะทำรายการท่องเที่ยวแบบขี่มอเตอร์ไซค์”
“แรงบันดาลใจ 5-6 ปีที่แล้วไปเจอทีมตากล้องขยันมากเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ไฟแรงมาก ถ่ายมุมกล้องสวยมาก เจอโครงการหนึ่งที่ไปถ่ายที่ลอนดอน จีบให้เขามาทำรายการ เขาก็บอกน่าสนใจ คุยถูกคอ เรียกผมว่าบอสก่อนมาเล่นแอบรักออนไลน์อีก ก็เลยคิดว่าสักวันต้องทำให้ได้ แล้วก็มีโปรดิวเซอร์ที่สมัยทำทีนทอล์ก โลกเบี้ยว เก่าแก่แต่เขาวัยรุ่น จีบมาทำงานด้วยกัน”
จัดเอง กำกับเอง 4 พิธีกร บทสด ธรรมชาติสู่ธรรมชาติ
เขาเล่าว่ารายการของเขามีพิธีกร 4 คน แตกต่างคาแรกเตอร์กันไป ประกอบไปด้วย ตัวเขาเอง และเพื่อนสนิทลูกครึ่งเดนมาร์ก ลูกเพื่อนสนิทแม่อย่าง ปีเตอร์ โจแฮนเซ่น ,แอนนี่ ปริศนา ปัญญาศิรินุกูล, และ แอนเนทท์ จิ๋วต๊ะ ชูลล์ คาแรกเตอร์ไปด้วยกันได้ นักร้องหนุ่มบอกเล่าเรื่องราวด้วยแววตาสนุกสนาน
“เรามีพิธีกร 4 คน กับปีเตอร์ อีกคน เราโตมาด้วยกันที่เดนมาร์ก แม่ทำงานการบินไทยด้วยกัน ทีนี้พอคุยแล้วจะมาจัดรายการด้วยกันสองคนจะไปทำมีผู้ชายแก่ๆ 2 คนมาบ่นกันใครจะดู ก็เลยมองหาผู้หญิงมาทำรายการด้วย แล้วไปเจอน้องผู้หญิงขี่มอเตอร์ไซค์มา เขาเท่ดี มีคนถ่ายรูปเราก็เลยไปถามว่าเป็นใครเขาบอกเป็น แอนนี่ ไบเกอร์สาวที่ดังมากเลยนะ ตายแล้วไม่รู้จักเขา (หัวเราะ) ไปแนะนำตัวกับเขาเลยว่าอยากทำรายการด้วย
คุยไปคุยมาเขาขอหุ้นส่วน พาร์ทเนอร์เลย ก็ดีเพราะคนสนใจแล้วยอมหุ้นแสดงว่าเขาใจรัก และอยากทำจริง ก็ลองชาย 2 หญิง 1 แล้ว อยากได้ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง อยากได้น้องเล็กเป็นคาแรกเตอร์ชอบถาม ซึ่งซีซั่นนี้เป็นซีซั่นสองเราได้น้องแอนเนทท์ซึ่ง เคยประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เราก็สอนจนขับมอเตอร์ไซค์เป็นกันเลย เรามีข้อมูลของสถานที่ ผมจะเป็นผู้กำกับ 2 ช่วยกันกำกับสด ผมรู้นิสัย คาแรกเตอร์แต่ละคน เรียลครับ ผมนี่แหละชง เป็นบอส มีความเรียลลิตี้ แบ่งทีมหรือทีมผสมทำภารกิจ แข่งขันกันดุเดือดมากไม่มีใครยอมใคร ความน่ารักของคนขี่มอเตอร์ไซค์ไปเป็นกลุ่มไบเกอร์จะช่วยเหลือกัน”
“อยากให้ได้ดู ความสุขของการไปเที่ยว เห็นอากาศ เห็นธรรมชาติ ภาพสวยๆบางภาพในอินเทอร์เน็ตไม่มี คนพื้นที่จริงๆจะออกมากับเรา พาไปเที่ยว ภาพสวย รายการเข้มข้นมากนะครับ มีเสิร์ชข้อมูลเตรียมตัวกันมาดี ความตั้งใจทุกคนในการนำเสนอ ออนแอร์ 12 ตอน ตอนแรก 3 มกราคม 2561 เวลา 22.00-23.00น. ช่อง 28 รอบนี้เป็นจังหวัดริมแม่น้ำโขงครับ”
ละครยังรับ แต่ขอรายการท่องเที่ยวอยู่ตัวก่อน
นอกจากงานถ่ายรายการแล้ว เจ้าตัวยังมีละครที่กำลังถ่ายทำคือ “แรงเงา 2” ที่เจ้าตัวจะเล่นเป็นบทหมอครั้งแรก
“แรงเงา 2 นี่ชื่อบอกอยู่แล้วนะว่า แรงเงา ตัวละครทุกตัวมีด้านสว่างและมืด หมอศรุตตัวละคร เราจะเป็นคนเดียวที่ทั้งเรื่องที่เป็นละครสีขาว ที่พี่หน่อง อรุโณชา อธิบายผม พี่หน่องบอกมันจะมีตัวละครหลายตัวที่ถูกเขียนขึ้นมาใหม่ แต่ต่อจากภาคแรก แบคกราวน์คือเคยเป็นครีเอทีฟโฆษณา ทำงานหนักจนถึงจุดที่เครียดแล้ว เหนื่อยแล้วมีอุบัติเหตุ แล้วแฟนตาย เรากลายเป็นโรคซึมเศร้าต้องบำบัด แล้วก็เข้าใจชีวิตเยอะมาก พอผ่านมาได้เขาเข้าใจโลก เขาเขียนหนังสือคิดบวก สัมมนาเล่าให้คนฟัง แนะนำชีวิตคนอื่น พอมาเจอ ธัญญ่า คือ นพนภา เขาเคยเป็นแบบนี้ เลยอยากช่วย ต้องแก้ไข นั่นแหละคือตัวผม”
“คือละครมีคนติดต่อมานะ แต่ถ้าบทพระเอกต้องใช้เวลาเยอะ ถ้าเล่นบทพระเอกผมขอให้รายการอยู่ตัวก่อน ถ้ารายการอยู่ตัวก็โอเค แล้วก็มีละครอีกเรื่องแต่ขอเก็บไว้ก่อนกับช่อง 3 นี่แหละครับ แต่ตัวละครนี้เด็ดมาก (หัวเราะ) ไว้รอดู”
โดนด่าเรื่องปัญหาครอบครัว-ชีวิตสลัวไร้งาน 2 ปี!
พอเริ่มถามเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว เสียงดูเศร้าลงเล็กน้อยแต่เจ้าตัวพร้อมพูดคุยและอธิบายในสิ่งที่ไม่เคยได้ออกมาพูด
“จริงๆเรื่องลูกก็เจอกันตามตกลง ถามได้นะ แต่เรื่องทุำกอย่างมันจบไปแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าตอนมันจบใหม่ๆ เป็นช่วงปรับตัวที่อาจจะงงๆ เป็นเรื่องใหม่ ตอนนี้มันลงตัวแล้วล่ะมันเป็นเรื่องที่ดีที่สุดให้กับลูก การไม่ทะเลาะกันก็คือโฟกัสที่ลูกได้ จะดีที่สุด”
ช่วงที่ข่าวพีคมากๆ ในใจคิดอะไรอยู่ตอนนั้น อ่านข่าวมั้ย?
“โดนด่าช่วงหนึ่ง ซึ่งยาวมากด้วยครับ (หัวเราะ) ใจหนึ่งก็อยากออกไปพูด ไปเคลียร์นะ แต่หลายๆ อย่างมันแบบนี้ คือข่าวสมัยนี้มันเร็วมาก คือการที่จะพูดอะไรต่อๆ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับข่าวอย่างเดียว เพราะมันขึ้นอยู่กับคนอื่นด้วยเพราะ เขาสามารถเข้าไปเสนอข่าวได้ทุกที่ จากเรื่องเล็กๆ มันจะกลายพันธุ์เร็วมาก แล้วยิ่งอะไรที่เป็นเทรนด์ เป็นกระแส ยิ่งถ้าตอนนั้นเป็นเทรนด์ด่าปีเตอร์นะ ก็จะด่า ด่าเป็นภูเขาไฟระเบิดเลย เราจะเห็นชัดเจนจากคนที่เริ่มคอมเมนต์ แล้วเสริมๆกันจนมันใหญ่มาก มันต่างจากสมัยก่อนมาก ซึ่งผมจะรู้ว่าถ้านิ่งจะดีกว่า เราจะไปอินกับข่าว โดยไม่คำนึงถึงความจริงแล้วเชื่อในสิ่งที่โดนว่า ผมว่าผมก็คงเครียด แต่ทีนี้ลักษณะของการออกไป พูดแล้วมันไม่เป็นผลดี แล้วมันไม่ใช่นิสัยผมที่จะออกมาวิจารณ์ หรือต่อว่าคนอื่น ซึ่งผมเป็นคนที่พูดตรงๆ ครั้งนี้ ถ้าผมออกไปพูด คนที่ได้รับผลตรงๆ คือลูก ในที่สุด มันคือเทรนด์ก็จะอยู่ในโลกออนไลน์ 3-5 วัน แต่ตอนนั้นหลายเดือนมาก (หัวเราะ ) แต่ทีนี้ ถ้าเราออกมาพูด คลิปนี่มันจะอยู่ พูดอะไรมันอยู่กับเราไปตลอด ลูกมาดูในยูทูป โห เพื่อนลูกเข้าไปดู แล้วก็เป็นการที่พ่อแม่ทะเลาะกันผ่านสื่อด้วย มันไม่ได้อะไรที่ดี แล้วมีหลายเรื่องแล้วรวมมิตรในเวลาเดียวกัน ใจผมก็อยากเคลียร์นะ ถ้าพูดเรื่องนี้ก็โยงเรื่องนี้ เลยไม่พูดดีกว่า”
หลังมีข่าวรายวันกับอดีตภรรยา “พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์” ในช่วงหนึ่ง นักร้องหนุ่มยืนยัน มีหมดกำลังใจและไม่ใช่เรื่องง่ายที่เดินออกจากบ้าน และต้องปรับตัวกับการโดนยกเลิกงานแทบทั้งหมด
“จริงๆ ผ่านมาได้เพราะผมใจเย็นนะ มันคือมีใจแป้ว หมดกำลังใจนะ แต่ผมเข้าใจดีว่าความเป็นจริงมันมีอะไรบ้างแล้วรู้ดีว่า ชีวิตจริงมันเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ถึงแม้ไม่ได้อยู่กับลูก แต่เขาก็เป็นลูกอยู่ ผมก็ยังเป็นพ่อเขาอยู่ ซึ่งวันนี้มันอาจจะเหนื่อย ท้อ หมดกำลังใจ แต่วันนี้มันไม่ได้มีตลอดหรอก วันหนึ่งเดี๋ยวมันก็หมด ด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่เดี๋ยวมันก็จบ มันจะนานแค่ไหนแค่นั้นเอง (หัวเราะ)”
“ทีนี้พอมันมีข่าวเนกาทีฟออกมา ผมทำอย่างไรดี งานก็ไม้ได้เดิน ผมไม่ได้ทำงาน 2 ปี มีที่โทร.มาแคนเซิลด้วย มีทุกรูปแบบ ขอยกเลิกคิวก่อนนะ หายไปทีละงานสองงาน นี่ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครอีก ที้นีผมเข้าใจอยู่แล้วว่าทำไม แต่ผมทำอะไรไม่ได้ แล้วทีนี้ผมนึกถึงอนาคตของลูก ว่าผมทำอะไรได้บ้าง”
กระเป๋า 1 ใบ กับมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ขับออกจากบ้านไปที่ …ที่อยากไป
ภายหลังตัดสินใจเดินออกจากบ้าน เขาเล่าว่าสุดลำบากใจ กระเป๋า 1 ใบกับมอเตอร์ไซค์ 1 คัน แล้วขับไปในที่ที่อยากไปจนเกิดรายการท่องเที่ยวในช่วงที่ชีวิตพังทลาย
“การที่ผมออกจากบ้านมาเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่ผมเชื่อ ว่าในที่สุดคือมันดีที่สุดสำหรับลูก แต่การเดินออกมามันยากมาก ผมมีมอเตอร์ไซค์มาคันหนึ่ง มีกระเป๋ามาใบหนึ่ง แล้วผมเซอร์เวย์จากที่ที่ผมอยากไป ขับรถไปซักพักปีเตอร์มาด้วย รวมๆ ปีหนึ่ง 7-8 เดือนก็มาเจอแอนนี่ ปริศนาที่เขามาเป็นพิธีกร มี 3 คนแล้วหาเด็กอีกคนหนึ่ง ก็ถ่ายรายการแล้วนะ รายการก็ต้องออนแอร์ ถ่ายรายการ ตุลาคมปีที่แล้ว เกือบ 2 ปีที่โครงการนี้มีมา ทำรายการของผมไป”
ยันยังไม่มีรักใหม่ ทั้งหัวใจให้ “แพนเตอร์-พูม่า”
หลายครั้งที่มีคนเห็นกับสาวๆ เจ้าตัวบอกบางครั้งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนในข่าวคือใคร แต่เพราะเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี พร้อมเผยยังไม่คิดเปิดใจใหม่ เรื่องของความรักให้เป็นไปตามธรรมชาติแต่ตอนนี้หัวใจมีไว้ให้ลูกชายทั้งสองคน
“ผมถ่ายรูปกับแฟนคลับก็เป็นข่าวนะ เขาเอารูปมาจากไหน ผมยังไม่รู้เลย บางทีเอารูปแอปเปิ้ลแปะหน้าแล้วบอกนี่คือแฟนใหม่ปีเตอร์ เราก็งง (หัวเราะ) คือเวลาเจอคนก็เป็นกันเองนะ ไม่ใช่ถือตัว แล้วเราก็ชอบพูด ชอบสัมผัส ขี่มอเตอร์ไซค์คุยไปเรื่อย ถามไปเรื่อย ผมเข้าถึงง่าย ติดดิน เจอแฟนคลับก็ยิ้มแย้มแจ่มใส”
เปิดใจเรื่องรักอีกมั้ย?
“ตอนนี้หัวใจเป็นของ 2 เสือ นั้นไปก่อน ต้องสร้างความมั่นคงให้กับเขาให้ได้มากที่สุด เรื่องของความรักมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องวิ่งหา แต่ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เราก็ไม่รู้ มันอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้”
ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม petercorp