นับว่าเป็นภาพยนตร์สงครามโลกครั้งที่สอง ที่เล่าเรื่องราวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสงครามเลยก็ว่าได้สำหรับเรื่องนี้ Robbing Mussolini (ปล้นมุสโสลินี) ภาพยนตร์ที่ต้องบอกว่ากินง่ายท่านง่ายและย่อยง่ายอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ภาพยนตร์ที่ได้ผู้กำกับอย่าง Renato De Maria เป็นผู้กำกับชาวอิตาลี ผู้มีฝีมือและเคยฝากผลงานมากแล้วอย่าง Hotel paura (1996), La prima linea (2009) และ Italian Gangsters (2015) และเรื่องนี้ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง Pietro Castellitto / Matilda De Angelis / Tommaso Ragno / Isabella Ferrari / Alberto Astorri / Maccio Capatonda / Luigi Fedele ทั้งเบอร์เล็กเบอร์ใหญ่ของอิตาลี มารวมกันในภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่องนี้เล่าย่อๆเมื่อนักปล้นของมิลาน ประเทศอิตาลีนามกระเดื่องว่า Isola (รับบทโดย Pietro Castellitto) ได้ทำการล่วงรู้ถึงความลับว่ามีทองจำนวนมากที่เป็นสมบัติของประชาชนอิตาลีจะถูก ขนข้ามชายแดน โจรหัวใสอย่าง Isola ได้ค้นหาแก๊งที่จะมาร่วมภารกิจครั้งนี้ แต่เรื่องราวต่างๆก็ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเพราะความ วินาศสันตะโรก็รอพวกเขาอยู่เช่นเดียวกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม“กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน”1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / ทำเอาน่าสนใจอยู่ไม่น้อยสำหรับภาพยนตร์ที่อิงมาจากเรื่องจริงของสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เป็นช่วงท้ายๆของสงครามในปี 1945 เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ผู้เขียนมองว่าเกรดสี ได้สวยมากอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะมองว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดูจะกินง่ายย่อยง่ายตามที แต่เราก็ยังคงเห็นความสวยงามของ CGI ได้อย่างไม่เคอะเขินเลยแม้แต่น้อย ภาพยนตร์ทำ CGI ออกมาได้เนียนตาแบบสุดๆ เครื่องบนที่เห็นโผล่ออกมานิดเดียวก็ไม่ได้ดูลอยๆ ธีมหลังที่ใช้ความสาวงามของมิลานได้อย่างคุ้มค่าและสะท้อนความหายะของสงครามได้อย่างสวยงาม ธีมหลักถึงแม้ภาพยนตร์จะไม่ค่อยเข้าท่าเข้าทางถึงเรื่องนี้ มีความประเด่ประดังมากมายเต็มไปหมด การเล่าเรื่องราวผ่านฉากต่างๆการเปิดตัวละคร ถึงจะดูมีความเท่ห์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราเหล่าคนดูจดจำ เพราะส่วนใหญ่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เดินตามสูตรสำเร็จของเรื่องอื่นๆมาอย่างมากมายเช่นกัน ถึงกระนั้นเราก็ยังได้เห็นฉากชิงไหวชิงพริบอยู่หน่อยๆเพื่อที่จะไม่ทำให้เราเหล่าคนดูรู้สึกเบื่อไปก่อน2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / กินง่ายย่อยง่ายเป็นคำที่ผู้เขียนให้กับเรื่องนี้ บทภาพยนตร์มันไร้น้ำหนักมากๆเลยก็ว่าได้ เป็นการเดินตามสูตรสำเร็จแบบ 100% เลยก็ว่าได้บทที่เราทุกคนพอจะเดาทางได้ไม่ได้ให้เราเหล่าคนดูลุ้นอะไรมากมาย Easter Egg ที่เหมือนจะใส่มาแต่ก็เหมือนจะไม่ได้ใส่ Flash back ที่ไม่ต้องมีก็ได้ก็ใส่มาให้เห็นถึงความวายป่วงของเรื่องได้อย่างน่าฉงน ถึงแม้จะเป็นภาพยนตร์ที่ดูเหมือนจะมีความเข้มข้นอย่างมากเพราะเล่าถึงสงครามอิงจากเรื่องจริง แต่เล่าก็ไม่ได้เห็นอะไรที่จะทำให้เราเหล่าคนดูรู้สึกว้าวได้เลยแม้แต่น้อย บทภาพยนตร์ที่ดูจะประเดประดังเหมือนกับว่ากำลังยัดเยียดให้เราเหล่าคนดูเข้าใจ แต่จริงๆก็ไม้ได้ทำให้ราเข้าใจมันเลยแม้แต่น้อย ว่าบทภาพยนตร์บางเบามากๆแล้ว บทตัวละครต่างๆกับความไม่สมเหตุสมผลนั้นมีมากกว่า คนผู้เขียนที่ดูยังต้องบอกเลยว่า “อีหยังว่ะ” ตลอดทั้งเรื่องเลยก็ว่าได้ 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / ตัวละครต่างๆของเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงความเอาแต่ใจของเด็กได้อย่างชัดเจน บทที่ว่าเดาง่ายแล้วการกระทำออกตัวละครก็เดาง่ายไม่แพ้กัน (ตลอดทั้งเรื่อง) ภาพยนตร์ไม่ได้เสนอให้เห็นถึงการเติบโตของตัวละครเลยแม้แต่นิดเดียว เห็นแต่ความเอาแต่ใจคิดจะทำอะไรก็ทำ ส่วนหนึ่งมันอาจจะทำให้เราเหล่าคนดูรู้สึกตลก แต่จริงๆแล้วผู้เขียนมองว่าแกนี้อย่างเพิ่งตลอดเลยก็ว่าได้ เหมือนจะยัดเยียดให้คนดูอย่างเราๆ แต่ที่จริงมันกลับเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผลของเหล่าตัวละคร และสอดแทรกกับการสลับฉากตัวละครไปมายิ่งดุไม่เข้าทางเข้าทางที่จุด ตัวละครที่มีบทบาทที่สุดในเรื่องนี้ ผู้เขียนมองว่าเป็นตัวเอกของเรื่องนั้นก็คือนากเอก เพราะเธอเป็นคนเดียวที่บทภาพยนตร์ดูแข็งเเรงคิดได้ดีและทำตัวไม่ยุ่งยากกลับอะไรเลย เป็นตัวเดินหมากของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ความไม่ประเดประดังนี้มันเลยทำให้ผู้เขียนรู้สึกถึงตัวละครตัวนี้ได้เป็นอย่างดี และมีมิติที่สุดของเรื่อง ถึงแม้จะมีความ “อีหยังว่ะ” อยู่หน่อยๆก็ตามที 4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / เมื่อความรักเมเปรี่ยมเรามักจะเป็นคนที่ไร้เหตุผลที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของความรักได้อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนที่สุดอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะภาพยนตร์ได้ใส่ให้เราเหล่าคนดูเห็นมันตรงๆ เสนอออกมาแบบไม่อ้อมค้อมผ่านตัวละครที่เป็นตัวเด่นที่สุดอย่าง ตัวเอกของเรื่องและการที่เขาทำแบบนั้นออกมากมันสื่อได้ถึงความรัก ที่ต้องบอกว่าไม่คิดหน้าคิดหลังผู้เขียนเชื่อว่าหลากคนก็เคยเป็น หรือเคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้มากบ้าง หรือสำนวนไทยที่ว่า “ความรักทำให้คนตาบอด” ช่างเป็นอะไรที่น่าสนใจและน่าคิดตามเป็นที่สุด และตัวละครก็ตาบอดจนเกือบทำให้แก๊งนี้พังทลายลง ต้องยอมรับว่าทีมสร้างใส่เรื่องราวของความหมายมาแบบตรงๆไม่ได้อ้อมค้อม หรือคิดมากอะไรสำหรับความหมาย จนมันทำให้ภาพยนตร์ดูเบาบางเกินไปมาก และไม่ได้ดึงดูดคนดูอย่างเราๆให้รู้สึกนึกคิดถึงมันเลย แต่ก็ยังดีที่ใส่เรื่องของประเป็นตกผลึกนี้เข้ามาพอให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีน้ำหนักขึ้นมากับเขาได้บ้างไม่มากก็น้อย 5 “คัท !!!!”ถึงแม้จะดูเป็นภาพยนตร์ที่น่าจะครบรสอีกเรื่องหนึ่ง แต่ผู้เขียนก็มองว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจมากๆอยู่ดี เพราะพล็อตเรื่องที่อิงมาจากเรื่องจริงของประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอมาเหมาะสมกับเวลาที่พอเหมาะพอควร 1 ชั่วโมง 39 นาที 45 วินาที หากเพิ่มความเข้มข้นของบทภาพยนตร์ ใส่ความหมายที่ดูลึกล้ำมากกว่านี้ Easter Egg ที่น่าสนใจและชวนให้เราเหล่าคนดูลุ้นและคิดตามมันจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจดจำมากขึ้นเป็นกองเลยก็ว่าได้ แต่ที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดในเรื่องนี้ คงจะหนีไม่พ้นการเกรดสี ที่ทำออกมาได้ดีมากๆสะท้อนให้เห็นความเป็นชาติบ้านเมืองของมิลานได้อย่างสวยงาม และยังสะท้อนให้เห็นถึงความหดหู่ได้อย่างไม่เคอะเขิน สรุปเป็นภาพยนตร์ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน หากใครของบู๊ระห่ำมันส์หยด เรื่องนี้ไม่เหมาะอย่างแรงหรือหากใครชอบแนวกินง่ายย่อยง่ายเบาๆกับเนื้อหาสอดแทรกเรื่องราวชวนให้หัวเราะเรื่องนี้เหมาะมากๆเลยก็ว่าได้ ถึงอย่างไรต้องติดตามด้วยตัวเองเน้อชอบ Dialog นี้ (พวกเราไม่ได้เป็นแค่ทีม เพราะพวกเราเป็นครอบครัว) - Isola (สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น) #จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก Netflix / netflixit - ปก / 1 (1ลิ้งค์มี6ภาพ) / 2 (1ลิ้งค์มี6ภาพ) / 3 (1ลิ้งค์มี6ภาพ) / 4 (1ลิ้งค์มี6ภาพ) / 5 (1ลิ้งค์มี6ภาพ) / 7 (1ลิ้งค์มี6ภาพ) ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม และในวันนี้ก่อนจากกันไปบอกเราหน่อยว่าผู้อ่านเป็นแฟนภาพยนตร์เรื่อง Robbing Mussolini : ปล้นมุสโสลินี เพราะอะไร อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ แล้วท่านจะไม่พลาดเหล่าคอนเทนต์ใหม่ๆที่ทาง จิปาถะ และ อรรถรส จัดมาให้ ด้วยเน้อ ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***