ครั้งหนึ่งในปี 2016 Bill Gates มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ หนึ่งในบริษัทซอฟท์แวร์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกใบนี้ เคยถูกตั้งคำถามในการสัมภาษณ์ทางรายการ Desert Island Discs ของสถานีวิทยุ BBC Radio 4 ว่า ถ้าเขาต้องไปติดอยู่บนเกาะร้างกลางทะเล มีเพลงอะไรบ้างที่เขาอยากจะเอาติดตัวไปกับเขาด้วย คำตอบของมหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินสุทธิในเวลานั้นถึง 77,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คือเพลง 8 เพลง ด้านล่างนี้“Under Pressure” ของ David Bowie and Queen“Blue Skies” ของ Willie Nelson“Sing” ของ Ed Sheeran“Are You Experienced” ของ Jimi Hendrix“One” ของวง U2“Two of Us” ของวง The Beatles“How Can Love Survive” เพลงประกอบหนังเรื่อง The Sound of Music“My Shot,” จากละครเพลงเรื่อง Hamiltonดูแล้วจะเห็นว่า เพลงที่คุณ Gates เลือกมีแนวทางดนตรีที่ค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่คันทรี่ ฮาร์ดร็อครุ่นบุกเบิก ไปจนถึงโฟลค์ป็อปสมัยใหม่เลยทีเดียว ในรายชื่อนี้มีเพลงโปรดของผมอยู่ด้วยหนึ่งเพลง เป็นหนึ่งในเพลงของวง Queen ที่ผมเองชอบมากที่สุด จึงอยากจะมาเล่าเรื่องเพื่อเชิญขวนให้ฟังกันในคราวนี้ขอบคุณภาพ "Bill Gates" จาก: OnInnovation | flickr ภายใต้ CC BY-ND 2.0เพลง “Under Pressure” เป็นหนึ่งในเพลงฮิตจากยุค 80s ของ Queen อยู่ในอัลบั้มที่ 10 ของวงที่ชื่อ “Hot Space” ซึ่งออกมาในปี 1982เป็นเพลงฮิตที่ขึ้นถึงอันดับหนึ่งบนชาร์ทของอังกฤษบ้านเกิดได้เป็นเพลงที่สอง หลังจากที่เพลง “Bohemian Rhapsody” เคยทำได้มาก่อนหน้านั้นในปี 1975 แต่ในอเมริกา เพลงนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นที่นิยมเท่าไร สามารถขึ้นไปสูงสุดได้เพียงอันดับที่ 29 เท่านั้นFreddie Mercury เป็นคนเริ่มต้นแต่งเพลงนี้ขึ้นมาก่อน หลังจากจึงนำเอามาให้เพื่อนๆในวงช่วยกันแต่งต่อ ผ่านทางการเล่นดนตรีกันแบบสด ๆ ในสตูดิโอ และในตอนนั้นแหละที่ David Bowie ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยในทีแรกคุณ Bowie ถูกเรียกมาให้ช่วยร้องสนับสนุนในเพลงอีกเพลงหนึ่งของ Queen ซึ่งไม่ใช่เพลงนี้ แต่พอมาเจอสมาชิกทั้งสี่ของวงกำลังแจมกันอย่างสนุกสนาน ก็เลยนึกสนุกขอเข้าร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วยหลังจากที่เล่นกันไป แต่งกันไปได้สักพัก สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นเพลงดังฟังสนุกเพลงนี้ โดยเนื้อร้องของเพลงนั้นพูดถึง เรื่องของความกดดันว่า มันสามารถจะทำลายชีวิตของเราได้อย่างไรขอบคุณภาพ "Queen(Brian,Freddie,John,Roger)" จาก: kentarotakizawa | flickr ภายใต้ CC BY 2.0เอกลักษณ์โดดเด่นชวนจดจำที่สุดอย่างหนึ่งของเพลงนี้ก็คือ ท่อนริฟฟ์เบสอมตะจากความคิดและฝีมือการเล่นของ John Deacon มือเบสของวง ที่มาพร้อมกับเรื่องเล่าชวนอมยิ้มในคราวนั้นเล่ากันว่า พอคุณ Deacon คิดท่อนริฟฟ์นี้ได้ เสียงมันก็จะประมาณ "ตึง-ตึ-ตึง ตึงตึงตึง ตึ่ง" แล้วเขาก็เล่นมันซ้ำไปซ้ำมาร่วมกับเพื่อนๆสมาชิกที่เหลือของวง ซ้อมกันยาวจนได้เวลากินข้าวเย็น จึงชวนกันออกไปกินพิซซ่ากันเป็นมื้อค่ำแต่พอตอนกลับมาที่สตูดิโอเพื่อที่จะซ้อมกันต่อ คุณ Deacon ดันลืมการเล่นท่อนริฟฟ์เบสนั้นไปเสียสนิท โชคดีที่ Roger Taylor มือกลองของวงยังคงจำมันได้ ไม่งั้นเราอาจจะไม่ได้ฟังเพลง “Under Pressure” ในแบบที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้ (ฮา)เสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในเพลงนี้ มีความชัดเจน และแสดงบทบาทของตัวเองได้อย่างไร้ที่ติ โดยรวมแล้วเป็นเพลงร็อคแอนด์โรลที่มีโครงสร้างที่ไม่ธรรมดาในแบบของวง Queenมีทั้งความหนักแน่น ที่ไม่แข็งกร้าว มีทั้งความงดงามจากท่วงทำนองของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่ถูกเล่นให้สอดประสานกันได้อย่างเหมาะเจาะลงต้ว โดยเฉพาะการสไตล์เล่นกีต้าร์ของ Brian May ในเพลงนี้ น่าจะเป็นตัวแทนของสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นได้เป็นอย่างดีขอบคุณภาพ "David Bowie" จาก: Robert Sullivan | flickr [ Public Domain ]และที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ก็คือ การร้องอันสุดยอดของทั้งคุณ Freddie และคุณ Bowie ที่มีให้ฟังกันอย่างจุใจ หลากหลายลีลา ทั้งสลับกันร้องนำ ทั้งร่วมกันร้องประสานเสียง เรียกว่าประชันกันอย่างไม่มีใครยอมใครทั้งคู่ปลดปล่อยสไตล์การร้องของตัวเองออกมากันแบบไม่มีกั้ก แต่สามารถผสมผสานมันให้กลายเป็นงานศิลปะทางดนตรีที่น่าทึ่ง และมีเสน่ห์ชวนฟังได้อย่างไม่น่าเชื่อโดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบสไตล์การร้องในแบบยุค 80s คุณ Bowie ที่ใช้ในเพลงนี้มากเป็นพิเศษ เขาใช้โทนเสียงที่ทุ้ม นุ่ม น่าฟังดีไม่น้อยสมแล้วกับการที่เพลงนี้เคยถูกโหวตให้อยู่ในอันดับที่ 2 ของการจัดอันดับเพลงที่เกิดจากการร่วมมือกันสร้างสรรค์ของศิลปินที่ดีที่สุดตลอดกาล ซึ่งจัดขึ้นโดยหนึ่งในนิตยสารทางดนตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกอย่าง Rolling Stone ลองฟังกันดูหน่อยไหม อาจติดใจฟังกันยาวไปเหมือนที่ผมฟังมาแล้วก็ได้นะคลิกที่นี่เพื่อชมมิวสิควิดีโอของเพลงนี้บน Youtubeเครดิตภาพหน้าปก: Alan Dean | flickr [ cropped ] ภายใต้ CC BY 2.0อ้างอิง:https://www.entrepreneur.com/article/270246https://en.wikipedia.org/wiki/Under_Pressure