หนังและซีรีส์ระทึกขวัญแนวเอาชีวิตรอด นั้นมาแรง ติด top 10 และได้รับความสนใจจากคนดูเสมอ เพราะเรามักจะคิดว่า ถ้าเราไปอยู่ในเหตุการณ์แบบตัวละครในเรื่องล่ะ เราจะทำยังไง เราจะวิ่งหนีจนกว่าเราจะตาย และทำทุกหนทางเพื่อหาวิธีรอดชีวิต หรือเราจะแค่ทำใจยอมรับความจริงว่าความตายอยู่แค่เอื้อมลมหายใจ เราคงไม่รอดแล้ว และเราก็ตายไปเลย เพราะไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว จะมีความหมายในการมีชีวิตอยู่หรือไม่มี ทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี และแม้คนดูจะรู้ว่าตัวละครเท่านั้นที่ตายในเรื่องเหมือนคาแรทเตอร์ ไม่ใช่ชีวิตของคนจริงๆ แต่คนดูก็อินสุด สนุกสุด ประสาทสุดไปพร้อมกับตัวละครในเรื่องอยู่ดี เพราะฝีมือการแสดงของนักแสดงที่สุดจริง ดีจริง อินจริงจนทุกคนอินตามและอยากจะกรีดร้องตาม วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 หนัง/ซีรีส์เอาชีวิตรอด จาก Netflix มีเรื่องไหนบ้างที่พลาดมากถ้าไม่ได้ดูในปี 2022 1. Squid game จะกลับมาอีกครั้งกับ Squid game ซีซั่น 2 ซึ่งเล่าเรื่องราวของซองกีฮุน คุณลุงวัยกลางคนที่ติดพนัน เป็นหนี้ หย่าจากภรรยาของตัวเอง และโดนพรากสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก ในวันหนึ่ง เขาได้รับบัตรเชิญให้เข้าร่วมเล่นเกม squid game เกมชิงเงินรางวัลที่แลกมาด้วยชีวิตคนพร้อมกับผู้เข้าแข่งขัน 456 คน ความรู้สึกที่ดู ซีรีส์มีความยาวแค่ 9 ตอนเท่านั้น แต่สุดมาก สร้างกระแสไวรัลไปทั่วโลก ทั้งชุดผู้คุม ชุดผู้เข้าแข่งขัน หน้ากากผู้คุม สัญลักษณ์เกม ขนมน้ำตาลแกะสลัก ชุดโกโกวา และรองเท้าสลีปเปอร์ ที่ก่อนซีรีส์ออนแอร์ไม่มีใครสนใจ เป็นซีรีส์ที่สุดยอดและมีมิติมาก โดยมีจุดเด่นคือเล่าเรื่องในเลนมองของคนธรรมดาๆที่ไม่ได้ฉลาด หรือมีทักษะเอาตัวรอดหรือความแข็งแรงทางกายภาพเหนือกว่าคนอื่นอะไร บ่อยครั้งที่ซองกีฮุน ตัวเอกของเรื่อง มีชีวิตรอด และเอาตัวรอดจากเกมการแข่งขันได้ด้วยการพึ่งโชคและดวงเท่านั้น นอกจากจะลุ้นว่าคุณลุงที่ไม่ได้เรื่องคนหนึ่งจะเอาตัวรอดได้ยังไง หนังยังทำให้เราตั้งคำถามกับระบบชนชั้นด้วยว่าชีวิตของคนจนนั้นแย่ยิ่งกว่าคนมีชีวิตที่ตกนรกแบบตายไปซะยังจะดีกว่าอีกจริงๆเหรอ จนเกิดเป็น squid game เกมที่ต้องแข่งกันชิงเงินรางวัลโดยแลกมาด้วยชีวิตและการตายของคนเป็นร้อยคน เพื่อหาผู้ชนะแค่คนเดียว มองว่าหนังสุดมาก เป็นหนังและซีรีส์เอาชีวิตรอดอีกเรื่องหนึ่งจากประเทศเกาหลีใต้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยดูหนัง/ซีรีส์แนวเอาชีวิตรอดมาเลยคะแนนรีวิว 10/10 2. Alice in borderland กำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ Alice in borderland ซีซั่น 2 ลงช่อง Netflix เร็วๆนี้ ซึ่งเล่าเรื่องของปรากฎการณ์ที่จู่ๆคนญี่ปุ่นก็หายไปทั่วโตเกียว และเรียวเฮ ซึ่งเป็นนี้ด แต่เป็นเนิร์ดเกม ฉลาดในการแก้ปัญหา ไอคิวสูง แต่เขาไม่ยอมทำอะไรนอกจากเล่นเกม และต้องเข้าร่วมเล่นเกมเพื่อเอาชีวิตรอดกับเพื่อนสนิทและคนแปลกหน้าอย่างช่วยไม่ได้ความรู้สึกที่ดู สนุกนะ ด่านของเกมแต่ละด่านก็ค่อนข้างลุ้น ต้องใช้สมอง ต้องสังเกตและวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมและการโกหกเพื่อล้วงข้อมูล ขโมยความลับ ขโมยของ แล้วต้องห้ามไม่ให้ใครรู้เพื่อเอาตัวรอดในเกม มองว่าเสน่ห์และจุดเด่นของหนังเรื่องนี้อยู่ที่การออกแบบคาแรทเตอร์ตัวละครในเรื่อง ซึ่งมีความเซอร์เรียลเป็นอย่างมาก แต่สนุก ไม่ว่าจะเป็นนิสัยและความคิดของกลุ่มตัวร้ายในเรื่องที่เคยเป็นคนที่โดนแกล้ง โดนรังแก ถูกมองไม่เห็นตัวตนมาก่อน หรือแม้แต่ความคิดของคนดีที่ยึดมั่นในความถูกต้องตามคำสอนของแม่แม้จะผ่านการไม่ยอมรับมาก่อนเหมือนกันก็ตาม หรือแม้แต่ตัวเอกเองที่ฉลาดมากๆแต่ไม่ยอมทำอะไรนอกจากเล่นเกม แต่ด่านในเกมและการตัดต่อก็หักลบมุมเซอร์เรียลแบบนี้ไปได้ คะแนนรีวิว 8.5/10 3. The Hunt เล่าเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกปล่อยไว้ในป่าริมทะเลสาบเหมือนเกาะร้างและมีกฎว่าต้องฆ่ากันเองเพื่อเอาชีวิตรอดความรู้สึกที่ดู สนุก ตื่นเต้น ระทึกขวัญ ตายเป็นตาย ไม่รอดเป็นไม่รอด หนังโหดที่ฆ่ากันให้เห็นแบบสดๆพร้อมกับดักที่วางไว้ในรื่องมากมายทั้งระเบิด หนาม หลุม บ่อ และไหนจะพนักงานที่เป็นคุณป้าคุณลุงประจำร้านมาร์ทแต่กลับหยิบปืนขึ้นมาลั่นกระสุนและฆ่าคนที่ถูกจับมาเฉย หนังทำให้คนดูตั้งคำถามเป็นอย่างมากว่าใครกันที่เป็นคนสร้างเกมนี้ขึ้นมาแล้วทำไมถึงสร้างขึ้นมา หนังมีมุมหักมุมที่ทำให้คนดูต้องแอบเงิบอยู่ และถ้าใครเคยอ่านหนังสือ Animal farm มาก่อนจะรู้สึกสนุกกับการดูหนังมากขึ้นคะแนนรีวิว 8.5/10 4. Saw เล่าเรื่องของจอห์น เครเมอร์ ฆาตกรต่อเนื่องที่ชอบจับคนมาเล่นเกม และวางกับดักทรมานเหยื่อด้วยวิธีโหดๆแบบโรคจิตๆ เพื่อสอนบทเรียนให้ผู้เล่นเกมรู้จักความหมายของชีวิต จะอยู่หรือตาย คุณเลือกเองความรู้สึกที่ดู เป็นหนังโหดที่เล่นกับจิตใจคนดูสุดๆ จัดเต็มทุกอารมณ์ทั้งความโหด ความเสียว ความกลัว ความหวาดผวา ความลุ้น ความตื่นเต้น และความระทึกขวัญ โดยเฉพาะตอนที่ดูครั้งแรก รู้สึกได้ถึงอะดรีนาดรีนที่ไหลในตัวเลย แต่เพราะเป็นหนังโปรดสมัยเด็ก และสมัยนี้มีหนังโหดมากมายที่สนุก ตื่นเต้น และพลอตเรื่องไม่ออกทะเล โดยไม่ต้องละเลงเลือดเละๆใส่ตัวละครเพื่อเพิ่มความกลัวให้ผู้ชมได้ เลยรู้สึกเฉยๆเบื่อๆแทน และรู้สึกว่าแฟรนไชส์ saw อาจถึงจุดอื่มตัวเพราะคนดูจับทางได้หมดแล้วว่าหนังจะเล่นอะไรเลยไม่ค่อยลุ้นมากเท่าไรในภาคหลังๆที่ปล่อยออกมาคะแนนรีวิว 8.5/10 5. Strange Things เล่าเรื่องราวของอีเลเว่น เด็กที่มีพลังพิเศษที่หนีออกมาจากการทดลองใต้ดินในเมืองเล็กๆของกลุ่มคนมีอำนาจ และเป็นโปรเจคต์ลับที่ไม่มีใครรู้ และเจอกับไมค์ ผู้ชายธรรมดาจากแก็งลูซเซอร์ที่ถูกเพื่อนๆแกล้งในโรงเรียน น้องไมค์เก็บน้องอีเลเว่นกลับบ้าน ก่อนที่ทั้งสองคนจะเป็นเพื่อนกัน สนิทกัน เป็นแฟนกัน และจับมือกันผ่านเรื่องแปลกๆ สิ่งลี้ลับ พลังงานลึกลับที่มองไม่เห็น พร้อมกับเด็กๆเพื่อนของไมค์จากแก็งลูซเซอร์ของโรงเรียนความรู้สึกที่ดู สนุกนะ ในซีซั่นแรกๆอาจจะน่าเบื่อ เนือยๆ แล้วแต่เทสสายตาคนดูและคนที่ชอบแบบเจาะคนดูเฉพาะกลุ่มจริงๆ ส่วนตัวหวิดหลับไปหลายรอบมาก แต่หลังจากซีซั่นสามขึ้นไป Strange Things สนุกมากๆ ยิ่งโดยเฉพาะซีซั่น 4 ซึ่งเป็นซีซั่นที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด ตัวละครในเรื่องมีพัฒนาการและการเติบโตที่ชัดเจนกันทุกคน CG ในเรื่อง sound effect ที่ใส่เข้ามา ไหนจะเพลง และสีหน้าต่างๆที่เอาไปทำเป็นมีมของตัวละครได้ ต้องขอบอกว่าเท่มากๆ สนุกมากๆ เหมือนกับดูซีรีส์ผสมภาพยนตร์กันไปเลย มีการใช้แสงนีออน และหลอดไฟกะพริบ มีการใส่สัญลักษณ์ ผูกปมและปริศนาเข้ามาในเรื่องแบบให้คนดูไปหาคำตอบกันเอาเองตามสไตล์การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ แต่สนุกมากๆ เมื่อเราต้องลุ้นไปกับเด็กๆในเรื่องที่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดจากมัน และไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรดีที เป็นหนังแนวสยองขวัญระทึกขวัญเอาชีวิตรอดที่สนุกมากๆและพลาดไม่ได้เลยจากทางช่อง Netflixคะแนนรีวิว 10/10 6. Devil in ohio เล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่พ่อว่างงาน ลูกสาวสองคนอยู่ในวัยเรียน และแม่เป็นจิตแพทย์ที่ทำงาน ดูแลคนไข้ ใช้เวลากับคนป่วยจนไม่มีเวลาสนใจคนในครอบครัวหรือคนที่บ้านมากนัก วันหนึ่งตัดสินใจนำเม เด็กผู้หญิงที่ได้รับความบอบช้ำจากคนในครอบครัวจนตัดสินไม่พูดอะไรสักคำและไม่คุยกับใครมาเป็นปีๆมาอุปการะไว้ที่บ้านความรู้สึกที่ดู สนุกมาก หลอนมาก ระทึกขวัญมาก เหมือนกับอ่านหนังสือสยองขวัญที่มีเนื้อหา coming of age และมีมุม อะไรวะ ตัวละครในเรื่องจะหักคอคนดูหรือเปล่ามากๆ เพราะคนดูไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับตัวละคร จนกว่าซีรีส์จะค่อยๆเฉลยไปทีละตอน ทีละ step ซึ่งก็ลุ้นมาก ว่าเมคือใคร เธอเคยเจอหรือผ่านเรื่องอะไรมา ทำไมเธอถึงเลือกที่จะไม่พูดกับใครและไม่เชื่อใจและไม่ยอมเปิดใจกับผู้ใหญ่คนไหนเลยยกเว้นแม่ของจูลส์ เธอเข้ามาที่บ้านเพื่อมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ มันไม่ใช่แค่หนังระทึกขวัญสยองขวัญธธิลเลอร์เอาชีวิตรอดธรรมดา เพราะตัวละครของผู้หญิงทั้งสองคนในช่วงอายุของวัยที่แตกต่างกันต้องเอาตัวรอดจากเรื่องเดียวกันนั้นคือความรุนแรงและความ toxic อะไรวะภายในครอบครัวที่พวกเธอเจอมาตั้งแต่เด็กๆ และการผ่านมันไปไม่ได้ อาจหมายรวมถึงการทำลายครอบครัวเดิมที่เธอมีอยู่ได้ และเนื้อหาจะเป็นยังไงต่อไปก็คงต้องติดตามกันต่อในซีซั่นหน้า ชอบคนที่มารับบทเป็นเม เพราะหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูดีคะแนนรีวิว 10/10 7. 2012 เล่าเรื่องราวของแจ็คสัน ที่พาลูกๆของตัวเองไปตั้งแคมป์ และใช้เวลาพักผ่อนวันหยุดร่วมกัน แต่พบกับความผิดปกติของสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัว จนเกิดมหันตภัยครั้งใหญ่ ที่เป็นเหมือนวันสิ้นโลกของทุกๆชีวิตที่มีอยู่บนโลกความรู้สึกที่ดู อย่างแรกที่ต้องชื่นชมก่อนเลยคือคุณภาพงานดีมาก ภาพสวยมาก องค์ประกอบฉากดีมาก CG สมจริง และนี้ไม่ใช่แค่หนัง คนๆหนึ่งวิ่งหนีระเบิด สึนามิ แผ่นดินไหว ลาวาระเบิด และน้ำท่วมโลก หรือน้ำแข็งละลาย ไฟลุกลามไหม้ไปทั่วป่าจนหาที่จอด หรือที่นั่งๆยืนๆอยู่เฉยๆไม่ได้ แต่กลับเป็นหนังเอาชีวิตรอดชวนจิตตกที่ดีที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยดูมาเลย เพราะนี้คือความจริงที่มนุษย์มีชีวิตอยู่อย่างเห็นแก่ตัวและทำลายธรรมชาติเพื่อความสะดวกสบายของตัวเอง ถ้าวันหนึ่งธรรมชาติทนไม่ได้แล้วลุกขึ้นมาแก้แค้นหรือกวาดล้างมนุษย์หรือโลกทั้งใบให้จมหายไปเหมือนดังที่โลกเคยเป็นมาก่อนการกำเนิดขึ้นของมนุษย์ล่ะ 2012 จึงเป็นหนังพลอตเรื่องที่เยี่ยมมากๆเกี่ยวกับวันโลกแตก และเราต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอดจากวิกฤติต่างๆทางธรรมชาติที่พยายามจะกลืนกินทุกอย่างที่เรามองเห็น และทุกที่ๆเราไปคะแนนรีวิว 10/10 8. Train to busan เล่าเรื่องราวของคุณพ่อนักธุรกิจไฟแรงวัยทำงานที่ใช้เวลากับงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว รับบทโดยกงยู ได้เดินทางกับลูกสาวเพื่อไปปูซาน กลับบ้านเกิดของตัวเอง ได้เกิดเชื้อซอมบี้ระบาดขึ้นในขบวนรถไฟ จากขบวนหนึ่งสู่ขบวนหนึ่ง คนที่มีชีวิตอยู่จึงต้องทำทุกอย่างและทุกทางเพื่อเอาชีวิตรอดจากหมู่ซอมบี้ความรู้สึกที่ดู สนุกมากๆ ลุ้นมากๆ ตื่นเต้นมากๆ เป็นหนังโหดของเอเชียเรื่องแรกๆจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ขอบอกว่าทำได้ดี ปัง ไม่แพ้ฝรั่ง ปกติผู้เขียนจะไม่ค่อยถูกกับหนังซอมบี้ เพราะมองว่ามันแค่น่าขยะแขยง ไม่ได้น่ากลัวอะไร แค่เอาคนเลือดเละๆ มาเดินขาเป๋ๆและทำท่าเหมือนคนตาย แต่หนังเรื่องนี้สุดจริง น่ากลัวจริง สยองจริง ลุ้นจริง ระทึกขวัญจริง และเป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ที่รวมคนในสังคมที่เจอได้ทุกแบบจริงๆ ทั้งคนเห็นแก่ตัวและนึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง คนที่มีน้ำใจและต้องช่วยเหลือคนอื่นๆก่อน เด็กวัยรุ่นที่รักเพื่อนและรักแฟน คนแก่ที่ต้องการคนปกป้องและคนดูแล และหนังเรื่องนี้ก็รวมครบทุกอารมณ์เลย รู้สึกว่าดูจบแล้วเราอยากเดินเข้าบ้านไปกอดพ่อของเราเลยจริงๆ ซึ่งมีมุมซึ้งที่ทำให้คนดูรู้สึกเสียใจและอยากจะร้องไห้กับตัวละครในเรื่องอยู่ แถมกระแสหนังยังปังมากๆจนรู้สึกว่าพลาดมากถ้าไม่ได้ดูเลย กับหนังเรื่อง Train to busan คะแนนรีวิว 10/10 9. All of us are dead เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมปลายทั่วประเทศเกาหลีใต้เมื่อเด็กๆพากันติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้ไล่อาละวาดไปทั่วโรงเรียนจนสายสืบจากทั่วโซลได้รับสายแจ้งขอความช่วยเหลือจากนักเรียน ม.ปลาย และนักเรียนกลุ่มหนึ่งในโรงเรียน ต้องร่วมมือกันเอาชีวิตรอดจากหมู่ซอมบี้ในรั้วโรงเรียนมัธยม และมีเป้าหมายเดินทางไปที่เขตปลอดเชื้อความรู้สึกที่ดู หนังและซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ซีรีส์ซอมบี้หรือการเอาตัวรอด และวิ่งหนีจากซอมบี้ธรรมดา แต่กลับเสียดสีเรื่องจริงในสังคมของคนในประเทศเกาหลีใต้ด้วย ว่าผู้มีอำนาจจะเลือกที่จะช่วยเหลือใครก่อน ระหว่างเด็กนักเรียนที่เป็นเหมือนอนาคต หรือคนแก่ที่เป็นเหมือนความรู้ ดังนั้น นี้จึงไม่ใช่แค่ซีรีส์วิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ระทึกขวัญธรรมดา แต่กลับเป็นซีรีส์คุณภาพยอดเยี่ยมที่เสียดสีการแข่งขันกันเองในสังคมของคนเกาหลีใต้ การที่ทหารมีศีลธรรมมากเกินไปจนไม่สามารถยึดอำนาจมาไว้ในมือได้แบบสุ่มสี่สุ่มห้าเพราะไม่อยากทำพลาด ดังนั้นไม่ว่านักการเมืองจะตัดสินใจผิดพลาดแค่ไหนหรือผลลัพธ์เละเทะยังไง ทหารหรือคนในกองทัพก็ทำได้แค่นั่งทำตามอยู่หน้าจอและปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับมาโดยไม่ยื่นมือเข้าไปก้าวก่ายแค่นั้น นอกจากความลุ้น ความระทึก เรายังมองเห็นมุม coming of age และมิตรภาพสุดซึ้งจากกลุ่มเด็กๆด้วย จากที่ทุกคนเรียนอย่างเดียว ไม่สนใจ ต้องแข่งขัน ตอนนี้ทุกคนกลับต้องร่วมมือกันเพื่อมีชีวิตรอดไปเจอหน้าพ่อแม่ของตัวเอง จริงๆโทนมู้ดของเรื่องรวมครบทุกอารมณ์เลย สุข เศร้า สิ้นหวัง ดีใจ เสียใจ หดหู่ ท้อแท้ อยากจะบ้าตาย ประสาทไปกับตัวละครตอนต่อตอนเลยจริงๆ อยากให้ซีซั่น 2 มาต่อไวๆเลยคะแนนรีวิว 10/10 10. Awake เล่าเรื่องราวของปรากฎการณ์ที่เป็นเหมือนโรคระบาด เมื่อคนทุกคนรู้สึกนอนไม่หลับ และแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองและอดีตทหาร อาจรู้คำตอบที่จะช่วยรักษาชีวิตทุกคน แต่ก่อนหน้านั้น เธอต้องดูแลลูกๆของเธอก่อนความรู้สึกที่ดู รู้สึกแอบๆ relate กับพฤติกรรมและไลฟสไตล์ของคนในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะคนไทยที่ติดโซเชี่ยล ติดสมาร์ทโฟน ใช้เวลากับโลกออนไลน์มากกว่าชีวิตจริง จนมีอาการนอนไม่หลับ ฉุนเฉียวง่าย อดทนน้อยลง และเบื่อง่ายมากขึ้น รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรควิตกกังวลและมีอารมณ์ซึมเศร้าด้วย เลยมองว่าหนังค่อนข้างสนุก น่าลุ้น น่าติดตาม และนักแสดงที่มารับบทเป็นเด็กก็มีหน้าตาน่ารักและการแสดงที่สมจริงรวมถึงสายตาสื่ออารมณ์ของความทรมานจากปรากฎการณ์ที่นอนไม่หลับได้สมจริงมากๆด้วยคะแนนรีวิว 10/10จบไปแล้วนะคะกับ 10 หนัง/ซีรีส์เอาชีวิตรอด จากช่อง Netflix ที่ผู้เขียนนำมาแนะนำกันในปี 2022 ถ้าใครมีหนังหรือซีรีส์เรื่องไหนที่ชอบ หรืออยากให้ผู้เขียนรีวิวหนังแนวไหนบนช่อง Netflix ก็คอมเมนท์เข้ามาคุยกันได้นะคะ บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิว Dahmer (2022) สร้างจากเรื่องจริงของฆาตกรต่อเนื่องที่กินศพของมนุษย์ แต่รอดตัวมาได้ 13 ปีรีวิว Devil in Ohio (2022) หวาดผวาไปกับซีรีส์ลัทธิซาตานว่าด้วยบ้านไม่ใช่เซฟโซนของเรารีวิว The Crown Season 4 (2020) มารู้จักชีวประวัติโดยย่อของควีนอลิซาเบ็ธที่สองจากประเทศอังกฤษกันรีวิว Loving Adults (2022) 10/10 บนช่อง Netflix แล้วเราจะต้องคิดกันใหม่ก่อนจะนอกใจใครสักคนรีวิว Blonde (2022) มารู้จักตัวตนของนอร์ม่า จีน ก่อนที่ตัวตนของเมอริลีน มอนโรจะถูกสร้างขึ้นมา ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปกที่ รูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 7 / 8 / 9 / 10 โดย Netflix / 6 โดย IG : madeleinearthurรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 7 / 8 / 9 / 10 โดย Netflix / 6 โดย IG : madeleinearthur จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !