In My MemoriesTomorrow I will Date With Yesterday’s You (My Tomorrow, Your Yesterday) พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน (2016)เล่าเรื่องเหนือจินตนาการประมาณจะเอื้อมมือไปสัมผัสได้ด้วยความซาบซึ้งตรึงใจไม่มีวันลืมจั่วหัวบทความว่า "ในความทรงจำ" ก็หมายความว่านี่คือหนังในความทรงจำของดูไปบ่นไป และสำหรับหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้มีปัจจัยมากมายที่จะตราไว้ในดวงจิตแต่ที่ติดอยู่ในใจตั้งแต่นั้นมาคือนักแสดงนานะ โคมัตสึ สิ่งที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าก่อนการเข้ามาของสตรีมมิ่งจากค่ายต่างๆที่ช่างสรรหาคอนเทนต์ดีๆมาแข่งกันเพื่อเป็นทางเลือกให้คนดูอย่างทุกวันนี้ หนังหรือซีรีส์ญี่ปุ่นค่อนข้างจะอยู่ในวงแคบคือหาดูยากพอตัวถ้าไม่ใช่ทางค่าย "สหมงคลฟิล์ม" ที่นำเข้าหนังจากแดนอาทิตย์อุทัยมาให้ดูอยู่เรื่อยๆผู้เขียนก็อาจไม่รู้จักนานะ โคมัตสึ แต่ที่แน่นอนคือหลังจากดูหนังเรื่องนี้ที่ท่านกำลังจะได้อ่านในบทความนี้ผู้เขียนกลายเป็นเห็นนานะ โคมัตสึในหนังเรื่องไหนไม่เคยพลาดนับเป็นนักแสดงในดวงใจที่ทำให้ติดตามผลงานได้อย่างไม่ย่อท้อไม่ว่าเธอจะอยู่ในหนังแนวไหน กระนั้นนานะ โคมัตสึก็อยู่แต่ในหนังดีๆหรืออาจเพราะหนังที่ได้เข้ามาให้ดูได้ถูกคัดสรรแล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจเพราะนานะ โคมัตสึอยู่ในหนังที่ผู้เขียนประทับใจมากมาย เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่นอกจากประทับใจในตัวเธอยังประทับใจในเนื้อหาในแบบญี่ปุ่นแท้ๆนี่คือเรื่องราวความรักของมินามิยามะ ทาคาโทชิ (ฟูกุชิ โซตะ) ที่ได้พบกับฟุกุจู เอมิ (นานะ โคมัตสึ) บนรถไฟตอนที่กำลังจะเดินทางไปเรียน แล้วพลันเห็นหน้าสายตาก็ละวางไม่ได้ใจเลยสั่งให้ไปบอกว่าชอบหญิงสาวที่บอกว่าตัวเองไม่ได้น่ารักเท่าไหร่และร้องให้ง่าย หลังจากนั้นในแต่ละวันเธอก็จะมาเจอเขาจนคบหาเป็นแฟนกันแล้วเรื่องก็ควรโรแมนติกหวานซึ้ง ถ้าไม่ใช่ว่าวันหนึ่งเอมิบอกกับทาคาโทชิว่าเธอคือคนในโลกคู่ขนานที่เวลาของเธอเดินสวนทางกับเวลาของเขาซึ่งก็คือวันพรุ่งนี้ของทาคาโทชิคือเมื่อวานนี้ของเอมิ แล้วเมื่อทาคาโทชิรู้เข้าก็เหมือนกับรู้สึกว่าทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้แล้วความสุขที่มีไม่ใช่มาจากใจแต่เป็นสิ่งที่ถูกเขียนบทไว้เหมือนละคร ทว่าเมื่อทาคาโทชิลองคิดดูก็พบว่าแท้จริงแล้วความสุขที่เขาคิดว่าปลอมกลับเป็นความสุขที่จริงแท้ของเอมิเพราะวันพรุ่งนี้ที่ยังมาไม่ถึงของเขาคือเมื่อวานนี้ของเอมิที่ผ่านไปแล้ว นั่นหมายความว่าเอมิจะจำอะไรที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้เธอจึงดื่มด่ำกับความสุขที่อยู่ตรงหน้า ในที่สุดสองคนก็ค้นพบความสุขที่จริงแท้ในความรักแท้แม้จะเดินสวนเวลากันหรือไม่...เล่าเรื่องแบบญี่ปุ่นแท้ที่เล่าเรื่องเหนือจินตนาการให้เสมือนจริงจนสัมผัสได้คล้ายจะเป็นเรื่องจริง ความเป็นญี่ปุ่นแท้ในเรื่องนี้หนึ่งคือความเรียบเรื่อยในการเล่าเรื่องนิ่ง สงบ สื่อความหมายด้วยภาพผ่านความรู้สึก สองคือการเล่าเรื่องที่เหนือจินตนาการให้เหมือนจะเอื้อมมือไปสัมผัสได้เพราะดูไปก็คล้ายจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง แล้วสิ่งที่น่าทึ่งคือเมื่อเล่าเรื่องของเวลาของคนสองคนที่สวนทางกันที่ควรระทมกบาลชวนงงแต่กลับเล่าได้ไม่ให้งงเพราะเมื่อถึงเวลาก็อธิบายทฤษฎีได้แบบเนียนๆ แล้วที่ต้องทึ่งขึ้นไปอีกคือทั้งหมดนั้นถูกเล่าในเวลาเพียงชั่วโมงครึ่งซึ่งหนังบางเรื่องมีเวลามากกว่านี้ยังทำไม่ได้นั่นเพราะหนังไม่มัวพิรี้พิไรเล่าแต่เล่ากระชับตรงประเด็นแม้จะเล่าเป็นความเรียบเรื่อย อนึ่งในเรื่องเวลาที่แปรผกผันกันนั้นก็ยังเล่าเรื่องความรักได้จับใจมีมิติมีที่มาที่ไปในความรักและบอกกล่าวถึงความสุขที่มีตรงหน้าเพราะว่า "ต่อให้รู้ล่วงหน้าความสุขก็ยังเป็นความสุขอยู่ดี" หรือใครจะปฏิเสธความจริงข้อนี้ หนังจึงอบอวลไปด้วยความรักที่โรแมนติกที่รู้ทั้งรู้ว่าสุดท้ายต้องร่ำล่าเมื่อจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดคือจุดเดียวกันอย่างร้ายกาจครั้งแรกของผม ครั้งสุดท้ายของคุณ หนึ่งในมิติที่จับต้องได้และกินใจสุดซึ้งคือหนึ่งคนเดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งคนเดินถอยหลังเมื่ออนาคตของอีกคนจะเป็นอดีตของอีกคนแล้วความรักดันมาตั้งบนสมมติฐานนี้ หนังฉลาดเล่าในมุมของทาคาโทชิที่ได้พบรักแรกกับหญิงสาวปริศนาที่มีเวลาอยู่ด้วยกันแค่ถึงเที่ยงคืนแล้วมาเฉลยเหตุผลในช่วงกลาง กระนั้นแม้ปมเรื่องของเวลาจะถูกเฉลยแต่กลายเป็นความรู้สึกถูกกัดกินหนักเข้าไปอีกด้วยความที่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ของอีกคนจะไม่เป็นความทรงจำของอีกคน ที่ทำได้คือมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามีความสุขกับปัจจุบันด้วยการมอบความรักให้คนรักแม้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอเพราะวันพรุ่งนี้ของตัวเองคือเมื่อวานนี้ของคนรักที่เรื่องในวันนี้จะยังไม่เกิดขึ้น ความหนักหน่วงจึงมีกับแค่เรื่องง่ายๆคือการพบกันแล้วจากลาเพื่อที่จะมาพบกันใหม่ในวันรุ่งขึ้นแต่เพราะวันรุ่งขึ้นสวนทางกันเรื่องง่ายๆแบบนี้จึงมีมิติให้ต้องคิดหลายชั้นเพราะความรู้สึกไม่เหมือนกัน แน่นอนความทรงจำจะอยู่กับคนที่เดินไปข้างหน้าหนังจึงมาเฉลยในอีกมุมในตอนท้ายที่จับใจเหลือเกินจนอยากให้เล่าอีกมุมเต็มที่บ้าง เวลาที่พวกเขามีความสุขแต่ทำไมรู้สึกเศร้า ส่วนที่ดีที่สุดในความคิดผู้เขียนคือเรื่องอารมณ์และความรู้สึกที่บาดลึกซึมซับลงสู่ข้างในจนยากไถ่ถอน คงมีไม่บ่อยที่การดูหนังสักเรื่องที่ภาพตรงหน้าเป็นความรู้สึกอีกอย่างแต่ข้างในกลับรู้สึกเหมือนมีอีกอย่างที่ตรงกันข้ามเจือปน แน่นอนครึ่งแรกของหนังมอบความสุขและรอยยิ้มกับความรักที่ไม่หวานเลี่ยนไปเรื่อยๆให้คนดูมีความสุขและสงสัย แต่ครึ่งหลังเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรภาพบนจอบอกว่าพวกเขากำลังมีความสุขกับสิ่งที่เป็นในปัจจุบันแต่ความรู้สึกลึกๆข้างในคนดูกลับรู้สึกเศร้า จะเศร้าเพราะอะไรก็บอกยากแต่เศร้าแน่นอนเพราะเวลาที่มาบรรจบกันได้ทำให้ความรักเกิดขึ้นหรืออาจเพราะรู้ว่าบทสรุปของความรักจะไม่มีทางได้อยู่ด้วยกัน หรืออาจเศร้าเพราะทุกอย่างที่เป็นความสุขที่เป็นความทรงจำที่ดีเป็นครั้งแรกของคนหนึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของอีกคนหนึ่ง แต่...สิ่งที่ทำให้รู้สึกได้แบบนั้นเป็นเพราะคนดูมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครรู้ว่า ณ เวลาที่พวกเขามีความสุขลึกๆในใจพวกเขาก็รู้สึกเศร้าเมื่อนึกจุดสุดท้ายขึ้นมาความสุขจึงเศร้าเคล้าด้วยน้ำตาเสน่ห์นักแสดงที่เกินต้านกับเคมีที่ลงตัวเหมือนมีมนต์สะกด แน่นอนเมื่อความรู้สึกคนดูเป็นความรู้สึกเดียวกับตัวละครบทภาพยนตร์ก็เป็นส่วนสำคัญและที่สำคัญไม่แพ้กันคือการแสดงของนักแสดง เพราะบทบาทของตัวละครในเรื่องนี้เป็นความรู้สึกจากข้างในล้วนๆด้วยความที่เป็นเรื่องของเวลาและความทรงจำร่วมกับความสุขจากความรัก แรกเลยที่ต้องชื่นชมคือนักแสดงนำสองคนที่เป็นแกนกลางของเรื่องไม่มีข้อกังขาในอาการตกหลุมรักของคนทั้งคู่เพราะความหล่อสวยและพลังดาราศีลเสมอกัน ในส่วนของการแสดงอารมณ์ผ่านความรู้สึกข้างในนั้นฟูกูชิ โซตะและนานะ โคมัตสึไม่มีอะไรบกพร่องอาจเพราะผู้เขียนชินกับการแสดงแบบญี่ปุ่นและลักษณะพิเศษที่มีเฉพาะคนญี่ปุ่นด้วยกระมัง แต่ที่ยอดเยี่ยมคือการที่เคมีของคนทั้งคู่ลงตัวกันอย่างสมบูรณ์แบบสังเกตได้ง่ายๆคือเมื่อทั้งสองเข้าฉากด้วยกันคนดูจะไม่ถูกใครคนใดคนหนึ่งแย่งสายตาไปแต่สายตาคนดูจะจับจ้องไปที่ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แล้วด้วยเสน่ห์ที่เกินต้านของทั้งคู่ที่มาพร้อมเคมีที่ลงตัวขนาดนี้จึงไม่ต่างจากมนต์วิเศษที่สะกดสายตา สุขหรือเศร้าคละเคล้ากันจนแยกไม่ออกก่อเกิดความโรแมนติกที่เศร้าซึ้งตราตรึงเมื่อคนดูเข้าใจ เพราะหนังเล่าความโรแมนติกที่ตั้งบนเส้นเวลาโค้งๆแบบเดียวกันที่เหมือนจะขนานกันแต่ส่วนโค้งนั้นจะมาตัดกันในช่วงเวลาทุกห้าปี นั่นหมายความว่าตัวละครทั้งสองต่างได้สัมผัสกันและกันมาก่อนหรือจะมาพบกันในอนาคตข้างหน้าอย่างแน่นอนก็คือความโรแมนติกเพราะความรักจะไม่มีวันเลือนหาย ทว่าเมื่อพบกันคนหนึ่งได้ไปข้างหน้าอีกคนหนึ่งได้ถอยหลังซึ่งก็เป็นแบบนั้นทั้งสองคนจึงทำให้ไม่มีทางที่จะสมหวัง เวลาที่ได้อยู่ร่วมกันในวาระที่อายุเท่ากันคือเวลาที่มีค่าแม้ว่าจะมีคนหนึ่งเสียสละเดินเข้ามาหาและถอยหลัง หนังจึงมอบความสุขที่คนสองคนได้ผูกสัมพันธ์กันมีความรักที่มีพัฒนาการมีที่มาของการเฝ้ามองกันและกัน แต่เมื่อคิดให้ลึกกลับรู้สึกเศร้าในโชคชะตาที่ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่เป็นแบบนั้นจะดีกว่าความสุขและความเศร้าจึงเคล้าด้วยกันอย่างวิเศษผ่านบทเพลงที่ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกจนบางครั้งเผลอนึกไปเลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่อยู่เหนือจินตนาการ และนี่คืองานที่ประทับในความทรงจำที่ดูกี่ครั้งก็ยังรู้สึกเช่นเดิมดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Facebook Major Group ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/akeWJ2Pmv0Y5https://entertainment.trueid.net/detail/GEoNZeNOOgZ5https://entertainment.trueid.net/detail/Y6Jl5GkxOxmyคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน