"ไบร์ท นรภัทร" ย้อนเล่าชีวิต เคยเกเรสุดเหวี่ยง ตั้งเป้าอยากได้รางวัลในการแสดงภายใน 3 ปีนี้ (มีคลิป)
พระเอกสุดฮอตจากช่องวัน 31 อย่าง "ไบร์ท นรภัทร วิไลพันธุ์" ที่วันนี้จะมาเปิดชีวิตสุดเหวี่ยงในอดีตเกเรขั้นสุด โดดเรียน โดนรุมกระทืบ 10 ต่อ 1 หวิดโดนไล่ออก เสี่ยงตายนับครั้งไม่ถ้วน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ, อาจารย์เป็นหนึ่ง และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ตั้งแต่เด็กเป็นหนุ่มที่เกเรมาก?
ไบร์ท : มันเป็นแค่ช่วงวัยนึงตอนเด็กของเรา เป็นฟีลเด็กผู้ชายเลย ช่วงประถมเป็นคนเล่นแรง ขี้แกล้ง ขี้หยอก สมัยนั้นมันยังไม่มีคำว่าบูลลี่ออกมา มันไม่ดีหรอก แต่สมัยก่อนเราชอบแกล้ง ชอบหยอกคน
การแกล้งหลายคนจะมองแบบหยิกเพื่อน แต่เราเอาประทัดมาจุด เอาน้ำมันมาราด มันคืออะไร?
ไบร์ท : เป็นตอนมัธยมแล้วครับ เด็กผู้ชายเล่นกัน เอาน้ำมันกระป๋องมาฉัดเล่น ฉีดใส่โต๊ะ ใส่เสื้อ ใส่เก้าอี้ แล้วจุดไฟใส่แล้วไฟลุก ตอนนั้นแค่เล่นกันไม่มีอะไร
ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บShow
แล้วประทัดไปจุดใส่ใคร?
ไบร์ท : ตอนนั้นเป็นช่วง ม.ต้น ที่โดนห้องปกครอง คือโรงเรียนผมตึกนึงมี 9 ชั้น เราอยู่ชั้น9 แล้วจุดประทัดโยนลงไปข้างล่าง คือมันไม่โดนคนหรอก แต่คนที่อยู่หน้าห้องตกใจ
ในโรงเรียนเราเป็นหัวโจกไหม?
ไบร์ท : ไม่ขนาดนั้น มีแสบกว่าผมเยอะครับ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีครับผม
ติดทัณฑ์บนด้วย?
ไบร์ท : ผมว่ามันเรื่องปกตินะ เหมือนโดนตักเตือนฟิลนั้น ผมโดนครั้งแรกตอน ม.1 อันนั้นโดนเตือนรอบแรก เพิ่งเข้าโรงเรียนได้อาทิตย์แรกเอง แล้วไปทะเลาะกับใครก็ไม่รู้
พ่อแม่ว่ายังไง?
ไบร์ท : ถ้าเรื่องไม่ได้ใหญ่มาก เขาก็ไม่ได้อะไร เขาก็เป็นห่วงเรานั้นแหละ ผมว่าเด็กผู้ชายช่วงอายุ 14-18 ไม่ฟังพ่อ แม่หรอก วัยรุ่ยอยู่แต่กับเพื่อน เป็นวัยที่คิดว่ามีความคิดเป็นของตัวเองสูง แล้วค่อนข้างดื้อ ไม่ฟังใคร เคยมีแบบว่าแม่ไปส่งที่โรงเรียนตอน 8 โมง พอ 9 โมง แม่มาห้องปกครองเลย ก็เป็นเด็กเกเรสมัยก่อน แอบสูบบุหรี่บ้างต่อให้ผมเละเทะเกเรแต่ว่าเรียนคนละเรื่องกัน ไม่ได้หมายความว่าผมเกเรแล้วผมไม่เรียน ผมเรียนดีมาก ๆ ตลอด
เห็นว่าติดทัณฑ์บน แต่รอดมาได้เพราะน้ำท่วมช่วยชีวิต?
ไบร์ท : ช่วง ม.ต้นครับ มันไม่ได้ร้ายแรงมากไม่ถึงขั้นไล่ออก มันจะเป็นใบเขียนไว้ 1-3 ใบอะไรแบบนี้ ทีนี้ปี 54 ผมอยู่ ม.2 น้ำท่วม ห้องปกครองอยู่ชั้นล่างใบหายหมดเลย
เรื่องชกต่อย เราเริ่มมีตอนอายุเท่าไหร่?
ไบร์ท : ช่วง ม.ต้นแหละครับ มันก็มีมาเรื่อย ๆ แต่ไม่ถึงขั้นจะเอากันให้ตาย แต่มันก็มีความแบบเอาจริง เอาจังสูง แต่ถ้าเป็น ม.ปลาย เริ่มหนัก ม.ปลาย จะเริ่มเป็นแบบข้ามรุ่นบ้างแล้ว ตอนเด็ก ๆ เราอาจจะทะเลาะกันเองกับเพื่อนห้องข้าง ๆ แต่พอม.ปลาย มันจะเริ่มข้ามรุ่นแล้ว เริ่มข้ามไปโรงเรียนอื่น เริ่มใหญ่ขึ้น ไม่ใช่แค่เด็กต่อยกันมันเริ่มมีมีด ปืน ระเบิดเข้ามาเกี่ยวแล้ว
โดยส่วนใหญ่เป็นผู้นำหรือผู้ตาม?
ไบร์ท : เมื่อก่อนผมเป็นคนค่อนข้างคิดเร็ว ทำเร็ว ใจร้อน มักจะเป็นตัวเริ่ม
เห็นว่ามีรถมอเตอร์ไซค์มาหน้าบ้านเป็น 10 คัน?
ไบร์ท : ไม่ถึงครับ น่าจะ 7-8 คัน อันนี้มันเป็นเรื่องของเด็กนอกโรงเรียน คือคนที่ไม่เรียนหนังสือแล้ว ที่มาจำไม่ได้แล้วเรื่องของรุ่นน้องอะไรสักอย่าง แต่มันเลยเถิดมา คือถิ่นเขาอยู่ในหมู่บ้านผม ก่อนหน้านั้นผมทำเขาไว้แสบ พอเขาเห็นผมกลับบ้าน เขาด็ตามมาเป็นโขยง ตอนนั้นก็ตกใจ มาถึงบ้าน เราโกรธมาก พ่อ แม่ก็อยู่ที่บ้าน
แต่ก็ไม่มีอะไรคนแถวนั้นก็ช่วยไล่ออกไป หลังจากนั้นเพื่อน ๆ ก็ยกพวกมาส่งผมที่บ้าน
เกือบโดนแทงกลางห้างคืออะไร?
ไบร์ท : ผมไม่รู้ว่าเขาอินอะไรกัน จะมีเด็กอยู่บางประเภทที่ชอบตบของคนอื่น แบบเหมือนได้แล้วกูพิชิตโรงเรียนนี้แล้วแล้วเพื่อนเราเป็นเพื่อนในห้องที่ไม่ได้ก้าวร้าว ไม่ได้อะไร เป็นคนปกติเฮฮา ปาร์ตี้ พอมาโดนอย่างนั้นเราเลยโกรธมาทำแบบนี้กับเพื่อนทำไม เราไม่อยากให้เพื่อนโดน แบบนัดเพื่อนเราไปจบพวกมันที่ห้างไหม
แล้วเรามีอาวุธอะไรไปไหม?
ไบร์ท : ไม่มีเลย เข้าห้างใครจะไปคิดว่าจะมี คือเขาเป็นกางเกงยีนส์ขายาว แล้วเป็นมีดอันเท่านี้เอง แล้วเหมือนเขาผูกเชือกไว้ แล้วเขาซ่อนไว้ พอเขอหน้าเหมือนเขม่นๆ เขาก็สาว ๆ แม่งทำไรของมันวะ พอมันควักมาเป็นมีด โอ้ว..แย่แล้วกูแต่เราก็ไม่ได้วิ่ง วิ่งไม่ได้มันเสียหน้า เจ็บตัวไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ แต่ตอนนั้นเขาเสียบมาแต่ก็ไม่โดนนะครับ
วัยนั้นเห็นเป็นมีดมันไม่ถอยเลยเหรอ?
ไบร์ท : ก็คิดว่าเจ็บ แต่ไม่น่าตาย ความคิด ณ ตอนนั้น
เกือบโดนยิงด้วย?
ไบร์ท : อันนี้นั่งอยู่บ้านเพื่อน นั่งหน้าบ้านอยู่ในรั้วบ้าน นั่งกันอยู่ 2 คน ผมเอาหนังสือไปนั่งอ่านด้วย ตอนนั้นเรียนวิศวะอยู่ แล้วอยู่ดี ๆ มีรุ่นน้องกระโดดมาจากมอเตอร์ไซค์ แบบหน้าล่ก ๆ เปิดประตูเข้ามา พี่ช่วยด้วย ๆ สักพักก็มีมอเตอร์ไซค์มาอีกเป็นโขยงเลย มีดบ้าง ปืนปากกาบ้าง แล้วมันเป็นรั้วซี่ๆ ยื่นมาเหมือนหนังซอมบี้ เราตกใจมาก วิ่งเข้าบ้านไปกับเพื่อน เข้าไปในครัวไปเอามีดออกมา ตอนเราวิ่งออกมาหน้าบ้านเราเจอปืนปากกาจ่อ จังหวะนั้นแหละ คือจังหวะที่ผมรู้สึกกลัวเข้าจริง ๆ มันเหมือนฉากในหนังเวลามันสโลว์ ถ้าก้มปุ๊บมันจะยิงเราทันไหม แต่ถ้าเราวิ่งไปทางนี้มันจะโดนไหม สุดท้ายเขายิงแต่ไม่โดน
เรารอดมาได้ยังไง?
ไบร์ท : ไม่รู้ครับ โชคดีมาก
ปืนว่าน่ากลัวแล้ว มีระเบิดด้วย?
ไบร์ท : แต่ระเบิดผมไม่ได้โดนปาใส่นะ มันเป็นพวกเด็กที่มีเรื่องกับเด็กในโรงเรียนผม แล้วมันก็ปาระเบิดเข้ามาในโรงเรียน เป็นระเปิดปิงปอง มันทำให้เขาไม่ได้จัดงานกิจกรรมโรงเรียนปีนั้นเลยรุ่นผม กีฬาสีหรืองานจุดเทียนพิธีกรรมของพวกสวนกุหลาบ ผมเสียใจมาก เด็กโรงเรียนผมรักโรงเรียนมาก แบบอินโรงเรียนมาก พอไม่ได้จัดเป็นเพราะพวกเราอีก เราเลยเสียใจ ยิ่งโกรธมากเลย
ขึ้นโรงพักบ่อยไหม?
ไบร์ท : ไม่ถึงกับบ่อย แต่ไม่ใช่ครั้งเดียว ที่ไปเราไม่ได้เป็นผู้กระทำนะ ส่วนมากผมไม่เคยทำใครก่อนเลย มีบ้างแหละแต่น้อย
ทุกวันนี้เวลาเราเห็นวัยรุ่นตีกันเรารู้สึกยังไงบ้าง?
ไบร์ท : ผมรู้สึกว่าปัจจุบันมันดีขึ้นกว่าตอนที่ผมเป็นวัยรุ่นนะ แล้วผมรู้สึกว่าตอนรุ่นผม พวกรุ่นพี่ก็หนักกว่านี้ เพราะบ้านผมอยู่ใกล้โรงเรียน ผมเจออาจารย์เขาบอกว่าตั้งแต่พวกเอ็งจบมันไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้แล้ว ผมว่าโลกมันเปิดกว้างมากขึ้น มันมีอะไรให้ทำมากขึ้น ยุคผมเป็นยุคที่เปลี่ยนผ่านระหว่างอะนาล็อกมาดิจิทัล
มีตอนบาดเจ็บหนักด้วยที่บางแสน?
ไบร์ท : อันนั้นน่าจะหนักสุดในชีวิตแล้วครับ เราห้าวไปหน่อย เราผิดอย่างนึงด้วย เพราะว่าเราเป็นเด็กเราไม่ควรไปที่แบบนั้น ฟีลแบบร้านเหล้ามหาวิทยาลัย เพราะว่าไปงานรับปริญญารุ่นพี่ เป็นปัญหาของผู้หญิงเขามีกัน แล้วมีผู้ชายมาเคลียร์ แล้วผมเป็นผู้ชายคนเดียวก็ต้องไปเคลียร์ด้วย ก็จบ ๆ เดินออกจากร้านแล้วเขามาต่อยผมจากข้างหลัง ผมก็เลยต่อยเขาคืนทีนึง แล้วเขาก็ล้มลงไป หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาทีพนักงานผู้ชายก็มารุมกระทืบผม หัวผมโขกกับขอบน้ำตกที่มันติดผนัง แตก เย็บ 17 เข็มบนหน้า ตอนนั้นไม่สลบ แต่ล้ม จำได้ว่าเลือดอาบเลย ตอนนั้นมันไม่เจ็บ เจ็บสุดคือโดนเย็บ ผมว่าตอนนั้นผมคุ้มแล้ว 10 ต่อ 1 ผมต่อยมั่ว ๆ ต้องโดนอยู่แล้วแหละ คิดว่ายังไงเราก็คุ้ม มัน 10 คนเป้ามันเล็กเราคนเดียวเป้ามันใหญ่
มีแผลเป็นไหม?
ไบร์ท : ดีขึ้นเยอะมาก เพราะเรื่องมัน 5-6 ปีแล้วครับ
มีความกลัวอยู่ในจิตใจบ้างไหม ฉันไม่ทำ ฉันไม่ยุ่งอีกแล้ว?
ไบร์ท : คือผมไม่ได้เป็นนักเลงขนาดนั้น แต่แค่ไม่ยอมคน ถ้าผิดเรายอม ถ้าไม่ผิดเราหลังชนฝาขาดใจเลยว่าเราไม่ผิดแล้วเราไม่คิดว่ามันจะหายได้นิสัยนี้ แต่มันมาหายตอนทำงาน ซึ่งตอนเข้าวงการแรก ๆ ผมก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่เลย ก็ยังมี แค่ไม่มีใครรู้เฉย ๆ
ตอนนี้ยังใจร้อนอยู่ไหม?
ไบร์ท : ไม่ร้อนแล้ว ตอนนี้คือคนละคน
เรารู้สึกผิดกับ รปภ.มาก เห็นบอกว่าโดนไล่ออกไปหลายคนเลย?
ไบร์ท : ใช่ครับ คือ รปภ.โรงเรียน ถ้าเด็กออกนอกโรงเรียนได้แล้วอาจารย์เขารู้ เขาต้องเปลี่ยนชุดเลย เพราะถือว่าทำงานผิดพลาด ผมทำออกไปแค่ ม.5-ม.6 น่าจะ 3-4 ชุด เพราะผมตื๊อจะเอาให้ได้ บ่าย 2 กินข้าวเสร็จ เริ่มจากขอไปร้านข้างหน้า แล้วเริ่มเลยเถิดไปเรื่อย ๆ แล้วมีสินบนนิดหน่อย เขาจะเรียกพวกผมสมัยนั้นว่าแก๊งแอลแดง ซื้อบุหรี่lm แดงให้เขา แล้วเขาก็ปล่อย คือเราโดดเรียนไปเล่นเกม อยู่โรงเรียนมันเบื่อ อยู่ห้องเรียนมันก็ไม่มีอะไรทำแล้ว
ไบร์ทเป็นเด็กดื้อ แต่เรื่องเรียน เขาเรียนดีมาก?
ไบร์ท : ผมไม่ถึงขั้นเก่งที่สุดในห้องนะ แต่ผมอยู่ในห้องที่คนเก่ง ซึ่งก็เรียนดีมาตลอดไม่มีติดศูนย์หรืออะไร ผมสอบติดมหาวิทยาลัยตอนจบม.5 ขึ้นม.6 ผมติดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วิศวะอินเตอร์
ตอนเรียนได้ 2 ปี เข้าวงการพอดี?
ไบร์ท : ไบร์ทเรียนไปได้ปีนึงครับ แล้วระหว่างที่เรียนปีนั้นเริ่มเข้าวงการแล้ว ได้ไปออกงานนั้นงานนี้ เริ่มถ่ายละครนิดหน่อยแล้ว พอขึ้นปี 2 เราเลยไม่ไหว มันหนัก คนทำได้มันมี แต่เรารู้ว่าเราทำไม่ได้ เราต้องเลือก เป็นช็อตที่ลำบากใจมาก ๆ เลย เรามั่นใจในตัวเองว่าเราเรียนจบได้ด้วย ถ้าแค่เรียนนะ แต่วงการบันเทิงไม่รู้อะไรกับมันเลย มันเสี่ยงมากแต่สุดท้ายผมก็เลือกไปอันนู้น เพราะผมรู้สึกว่าเพดานมันสูงดี แล้วเราก็ย้ายไปเรียนนิเทศ ม.กรุงเทพ ซึ่ง ม.กรุงเทพเขาก็ช่วยเหลือ มีทุนศิลปินให้ด้วย อีกอย่างที่เราอยากได้ทุน คือเรารู้สึกผิดกับพ่อแม่ เพราะค่าเทอมวิศวะอินเตอร์แพงมาก ซึ่งตอนนั้นพ่อ แม่ เขาตามใจเราเลย ยิ่งเขาตามใจผมก็ยิ่งรู้สึกผิด เราเลยคิดว่าออกจากธรรมศาสตร์ไปจะไปเอาทุนเรียนฟรี แล้วจะไม่ขอเงินพ่อ แม่ อีกแล้วชีวิตนี้ นี่คือจุดเริ่มต้นแรกตอนอายุประมาณ 19 ปี แต่ 2 ปีแรกผมจะตายแบบมีเงิน 50 บาท แต่บอกแม่ว่าอิ่มมากเลย
เล่นละครเรื่องแรกไม่กลับไปดูเลย?
ไบร์ท : ไม่เลย เห็นแค่โปสเตอร์ก็ปัดหนีแล้ว มันอาย ไม่ใช่แค่กับเรื่องแรก กับทุกเรื่องที่ัผ่านมาแล้ว รู้สึกว่ามันอ่อนอยากเห็นตัวเองเก่งขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนเราเข้ามาแรก ๆ ช่วงปี1 มีโดนเตือนเรื่องคาแรกเตอร์บ้างไหม?
ไบร์ท : ผมโดนทุกอย่าง อะไรที่เขาโดนกัน ผมโดนมาหมดแล้ว อย่างเช่น ท่าทางการเดิน สีหน้า แต่งตัว วิธีการพูด ไม่ยิ้ม ไหว้ไม่ดี ไม่สวย มือหนัก ทุกอย่าง นี่ยังไม่เข้าไปถึงเรื่องการแสดงเลยนะ
ที่บอกว่าจะให้เวลาในวงการบันเทิง 3 ปี ยังไง?
ไบร์ท : เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าใน 3 ปีนี้เราอยากได้รางวัลสาขาการแสดงสักอันนึง เราจะได้เรียกว่าเก่งโดยที่ไม่ต้องคิดไปเองแล้วนะ มีรางวัลการันตี
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อ่าน ข่าวบันเทิงวันนี้ ที่เกี่ยวข้อง :