ปราง กัญญ์ณรัณ เล่านาที โต้ง ทูพี คุกเข่าขอแต่งงาน น้ำตาจะไหลดีใจจนหูดับ

ปราง กัญญ์ณรัณ เล่านาที โต้ง ทูพี คุกเข่าขอแต่งงานที่นิวยอร์ก ร้องไห้ดีใจจนหูดับ คำแรกที่ถามไปขอพ่อแม่มาหรือยัง กลัวท่านช็อก แพลนคิดธีมแต่งริมทะเล

วันที่ 17 ธ.ค. 2564 ที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีพิธีบวงสรวงละครเรื่อง ฟ้าเพียงดิน โดยมีว่าที่เจ้าสาวป้ายแดง ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล มาร่วมพิธีด้วย หลังจากจบพิธีนักแสดงสาวได้เปิดใจถึงนาทีที่แฟนหนุ่ม โต้ง ทูพี หรือ พิทวัส พฤกษกิจ คุกเข่าขอแต่งงานที่นิวยอร์ก เมื่อเร็วๆ นี้ว่า

“ทริปนิวยอร์กเป็นทริปกะชั้นชิด โต้งมาชวนว่าไปด้วยกันไหม เพราะเราทำเพลงกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว เขาบอกว่าถ้าได้ไปจะไปถ่ายเอ็มวีด้วยเลยไหม เราก็บอกว่าได้สิ ไหนๆ ไปแล้วก็อยากให้ได้งาน แต่ก็มีปัญหานิดหน่อยเพราะว่ามันกระชั้นชิดมาก แล้วตากล้องต้องบินมาจากแคนาดา เขาก็มีปัญหา เราก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเซอร์ไพรส์ เพราะตอนแรกเกือบที่จะไม่ได้ถ่ายเอ็มวีนี้เหมือนกัน กะว่ากลับมาถ่ายที่ไทยก็ได้”

มีพิรุธอะไรไหม? “ไม่มีเอ๊ะอ่ะ เพราะว่าเหนื่อยมาก หนึ่งโต้งไปเล่น แอลเอ ลาสเวกัส และนิวยอร์ก 3 ที่ แล้วเราไปแค่ 10 วันเอง เหนื่อยกันมาก กว่าจะแพลนเอ็มวี คุยกันแต่เรื่องงานตลอด”

แหวนดูพอดีนิ้วมาก? “พอดีเลย เพราะเขาหลอกถามผู้จัดการว่ามีงานติดต่อมา ขอไซซ์แหวนหน่อย”

บรรยากาศที่โน่นดูโรแมนติกมีแว้บหนึ่งไหมที่คิดว่าเขาจะขอแต่งงาน? “ไม่เลย ตึกที่เราไปขอแต่งงานกัน ตอนแรกหนูจะไม่ขึ้นไปด้วย (หัวเราะ) เพราะว่ามันหนาวมาก ยังบอกโต้งเราไปถ่ายที่อื่นกันไหม มันมีที่สวยๆ อีกเยอะเลยนะ (หัวเราะ) จะเทแล้ว มันหนาวมาก เราก็ไม่ไหว”

แล้วเขาทำยังไง? “เขาบอกว่าลองขึ้นไปก่อน มันสวยมากเลยนะ รอพระอาทิตย์ตกแป๊บเดียว เขาบอกว่าซื้อตั๋วไว้แล้ว เราก็เลยโอเค ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไร แต่มาเริ่มเอ๊ะตรงที่พี่นานา (ไรบีนา) มาด้วย ตอนแรกเราไปถ่ายกันแค่ 3 คน พี่นานาบอกว่าพี่ก็อยากขึ้นมาด้วย เราก็ถามว่าแม่เอากล้องมาทำไม แม่บอกว่าอยากถ่ายรูปสวยๆ ให้”

จังหวะที่เขาคุกเข่าตอนนั้นรู้สึกอย่างไร? “ตอนนั้นตกใจ เพราะว่าปรางกับโต้งเราคุยกันมาตลอดว่าเรื่อยๆ นะ ไม่ซีเรียสไม่รีบเร่ง เราก็เข้าใจเขา อยากให้เขาทำงานสบายๆ ไม่ต้องมานั่งเครียดว่าต้องมาแต่งงานภายในกี่เดือนกี่ปีตอนนั้นเขาพูดอะไรก็จำได้ (หัวเราะ) จริงๆ มันมีประโยคที่เขาพูดยาวมาก แล้วเราดีใจจนจะร้องไห้ หูดับไปเลย เชื่อไหมพอขอเสร็จ โต้งมาถามว่าจำได้ไหมว่าเขาพูดอะไรไปบ้าง ก็ตอบเขาไปว่าจำไม่ได้ (หัวเราะ) ก็พยักหน้าไปก่อน”

วันนี้ทำไมไม่ใส่แหวนมา? “กลัวหาย (หัวเราะ) ตอนที่พี่แอร์(ภัณฑิลา)ลงรูป โต้งไดเร็กต์เมสเสจมาเลยว่าดูไว้เป็นตัวอย่างนะ (แหวนกี่กะรัต?) ไม่แน่ใจต้องถามโต้ง เขาแอบซื้อไว้ 3-4 เดือนแล้ว เขาบอกว่าเขามีแผนหลายแผน ที่กรุงเทพฯ ก็มีแผนไว้ด้วย แต่พอดีทริปนิวยอร์กมันแทรกเข้ามา เขาก็รู้สึกว่าที่นี่ก็บรรยากาศดี เป็นครั้งแรกที่ไปนิวยอร์กด้วยก็ดีใจเขาเซอร์ไพรส์ เขาทำให้ นอกจากขอแต่งงานแล้ว เขาก็จ้างนักดนตรีมาเล่น ต้องรอดูในเอ็มวีค่ะ (เลยทำเป็นเพลงออกมา?) เพลงนี้เราตั้งใจทำกันอยู่แล้ว ทำกันตั้งแต่ต้นปี แก้มาเรื่อยๆ ค่ะ”

วางแผนดูฤกษ์กันหรือยัง? “ยังเลยค่ะ อย่างที่บอกเรื่องขอแต่งงาน เขาตั้งใจที่จะขอก่อน แล้วเรายังไม่ได้ดูฤกษ์ เรียกว่ายังไม่ได้ขออนุญาตใคร ยังไม่รู้ว่าจะแต่งที่ไหน เมื่อไหร่ (เขาขอพ่อแม่เราหรือยัง?) เขาบอกว่าเขาโทรบอกพ่อแม่ปรางแล้ว อ่อใช่ คำแรกที่ถามเขาว่าขอพ่อขอแม่เราหรือยัง (หัวเราะ) กลัวพ่อแม่ช็อกเพราะว่าเราไปอยู่นิวยอร์กด้วย ถ้าเจอรูปพ่อแม่คงช็อก”

พ่อแม่ว่ายังไง? “ถามแล้วพ่อแม่โอเค ทุกคนไม่มีใครว่าอะไร รายละเอียดต้องไปถามโต้งว่าพ่อแม่พูดว่ายังไงบ้าง เพราะว่าถามเขาแล้วเขาก็ไม่บอก (เราได้ถามพ่อแม่ไหม?) ถามว่าเขาโทรมาแล้วพูดอะไรไปบ้างเนี่ยะ แม่ก็บอกว่าไม่ได้พูดอะไรเยอะ ต้องไปแอบถาม”

คิดว่าโต้งใช้ไม้เด็ดอะไรไปขอแม่เรา? “หลังๆ เขาเข้าทางคุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างเยอะ มีโอกาสได้เจอได้ทานข้าวด้วยกันค่อนข้างบ่อย เขาเลยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร (เขาเคยสัญญาอะไรกับพ่อแม่เราไว้ไหม?) ไม่หรอก ช่วงนี้เขาก็โตขึ้น ทำงานซื้อบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็น่าจะเห็นว่าเริ่มโตขึ้นแล้ว”

ฤกษ์แต่งยังไม่มีเลย? “ไม่มีค่ะ คิดว่าจะข้ามปีหน้าไปก่อน เพราะกลัวจะไม่ทัน แต่ก็ต้องดูเรื่องฤกษ์ หนูอยากให้มันสบายๆ ไม่อยากเครียดกับงานแต่งด้วย อยากจัดงานเล็กๆ แต่คุณโต้งเขาก็เพื่อนเยอะ อาจจะมีหลายงาน แต่ช่วงนี้งานก็เยอะมาก ธีมงานก็มีคิดไว้บ้าง อยากแต่งที่ทะเล แบบน่ารักๆ โต้งเขาก็บอกว่าได้ แต่เขาก็อยากจัดใหญ่ๆ ด้วย มีเพื่อนเขาเยอะๆ มาปาร์ตี้กัน แต่เราอยากจัดแบบน่ารักๆ”