หนังเล่าถึงชาลี (Freddie Highmore) เค้าอยู่ในครอบครัวที่ยากจนแต่เต็มไปด้วยความรัก เขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่และปู่ย่าตายายรวม 7 ชีวิต สิ่งที่อยู่ใกล้กลับบ้านของเค้าคือโรงงานช็อกโกแลตของวิลลี่ วองก้า (Johnny Depp) ผู้ซึ่งประกาศว่าเขาได้ส่งขายช็อกโกแลตไปทั่วโลกและช็อกโกแลตนั้นมีเพียง 5 แท่ง ที่มีบัตรเชิญสีทอง ผู้โชคดี 5 คนจะได้รับการเชิญเข้าไปในโรงงานเพื่อดูการผลิต และรวมไปถึงการได้รับคัดเลือกให้เป็นทายาทรับช่วงต่อธุรกิจพล็อตเรื่องคือการที่วองก้า ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจโรงงานช็อกโกแลตเขามีพ่อเป็นหมอฟัน ในอดีตเขาจึงถูกห้ามกินช็อกโกแลตเพื่อรักสาสุขภาพฟันให้ดี แต่ด้วยความเป็นเด็กเขาจึงดื้อรั้นและหนีออกจากบ้านมาสานความฝันของตัวเองให้เป็นจริง และเขาได้ทำแคมเปญให้ส่งช็อกโกแลตขายไปทั่วโลกโดยที่มีเพียง 5 แท่งเท่านั้น จะมีบัตรเชิญเพื่อเข้าไปชมโรงงานช็อกโกแลตที่เขาไม่เคยเปิดให้ใครเข้าไปดูมาก่อน และแน่นอนว่าชาลีก็เป็นคนสุดท้ายที่ได้บัตรเชิญและเงินที่ไปซื้อช็อกโกแลตก็เป็นเงินเหรียญสุดท้ายของครอบครัว เมื่อถึงวันที่เข้าไปโรงงาน แน่นอนว่าเด็กอีก 4 คนไม่ใช่เด็กดี เป็นเด็กดื้อที่พ่อแม่ตามใจ ทำอะไรเอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ไม่สนกฎระเบียบใด ๆ ซึ่งแตกต่างกับชาลี หนังพยายามสอดแทรกให้คนดูรู้ว่า เด็กแสบ4คนนี้ต้องโดนบทลงโทษแน่ ๆเรื่องของความสวยงามและ CG หนังค่อนข้างเน้นบรรยากาศภายในโรงงานและซึ่งเป็นการผลิตช็อกโกแลตโดยไม่ใช้ทรัพยากรมนุษย์และดูไปดูมาแทบจะเหมือนโรงงานลูกกวาดหลากสีสันและในความสวยงามทั้งในเทคโนโลยีการผลิต คือเนื้อเรื่องค่อนข้างทำออกมาได้สร้างสรรค์ การเดินเรื่องทำให้คนดูรู้สึกจินตนาการไปกับโรงงานช็อกโกแลตและวิธีการผลิตแบบพิลึกกึกกือ เสมือนว่าทุกทุกอย่างในโรงงานสามารถนำมากินได้หมด สิ่งที่น่าประทับใจคือกระรอกตัวที่มีหน้าที่แกะเม็ดอัลมอนด์ รวมถึงอีกหลายหลายอย่างที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าเข้าไปอยู่ในโลกของจินตนาการแบบไม่รู้ตัว หรือดูไปดูมาเริ่มรู้สึกว่าตัวเราเองนี่แหละ คือคนที่เข้าไปเที่ยวโรงงานช็อกโกแลตของชาร์ลี ความน่าอัศจรรย์ใจของโรงงานทำให้ผมรู้สึกว่าหนังมีเวลาแค่แป๊บเดียว คือมันเพลินจนลืมเวลาเลยในขณะที่ดูเราก็ลุ้นตามไปด้วยว่า 4 คนที่เข้าไปพร้อมกับชาลี จะพบจุดจบจากนิสัยแย่ของตัวเองอย่างไรบ้าง และหนังก็ค่อย ๆ ให้คนดูเห็นว่าความเห็นแก่ตัวจากการกระทำในทุก ๆ ด้านของเด็กทั้งสี่ทำให้ทุกคนต้องเจอจุดจบไปไม่ถึงด่านสุดท้ายของโรงงาน เช่น ในส่วนบางส่วนที่ห้ามกิน เด็กที่ตะกละก็จะไม่หยุดกินแล้วกินโดยไม่ฟังใคร ทำให้ได้รับบทลงโทษตามสภาพกันไปคะแนนเนื้อเรื่อง 10/10 คือหนังอัดแน่นไปด้วยความอิ่มเอมใจเมื่อได้ชม หนังทำให้เรารักจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้นขึ้น หนังมีความน่ารักไม่มีพิษภัยใด ๆ คือดูไม่ต่ำกว่าสามรอบก็ยังคงหลงรักเหมือนเดิมข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1.คนที่ไม่ดีมักจะแพ้ภัยตัวเอง เหมือนกับเด็ก 4 คน ที่เข้าไปเยี่ยมชมโรงงาน ทั้ง 4 คนมีนิสัยด้านแย่ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้แต่ละคนไม่ไปถึงจุดหมายของโรงงาน และค่อย ๆ ตกรอบไปทีละคน2. ความอิ่มเอมใจที่หนังอัดแน่นไปทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะความรักและความเสียสละของชาร์ลีและครอบครัว ที่แม้ว่าพวกเขาจะมีเงินน้อยแต่มีสมาชิกในครอบครัวหลายคน เค้าก็ยังแบ่งกัน ไม่มีความรู้สึกของการชิงดีชิงเด่นกันเลยเป็นหนังที่แนะนำว่าควรต้องดูด้วยประการทั้งปวง เป็นหนังเบาสมองที่แม้ว่าจะไม่ใช่หนังตลก แต่ก็ทำให้รู้สึกมีรอยยิ้ม ได้อิ่มใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ดู ไม่ต้องเครียดไปกับอุปสรรคที่เกิดขึ้น แต่จงก้าวไปข้างหน้าด้วยความดีและความศรัทธาเครดิตภาพปก WarnerBros / เครดิตภาพที่ 1 WarnerBros / เครดิตภาพที่ 2 WarnerBros / เครดิตภาพที่ 3 WarnerBros