รีเซต

"บอส โตนนท์" ย้อนเล่าอดีตช่วงดังมากเคยหลงตัวเอง ใช้เงินวันละล้านก็มี!

"บอส โตนนท์" ย้อนเล่าอดีตช่วงดังมากเคยหลงตัวเอง ใช้เงินวันละล้านก็มี!
EntertainmentReport2
7 ธันวาคม 2565 ( 12:47 )
222

อดีตพระเอกดาวรุ่งช่องมากสี "บอส โตนนท์ วงศ์บุญ" ที่วันนี้จะขอมาเปิดใจเคลียร์ข่าวเมาท์เป็นนักแสดงตกอับ หลังตัดสินใจออกมาเป็นนักแสดงอิสระแล้วไม่เปรี้ยง พร้อมย้อนเล่าจุดสูงสุดหลงตัวเองหนักมาก ใช้เงินซื้อของเกือบล้านบาท ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธิกรดำเนินรายการ

ตอนนี้ออกมาเป็นอิสระ ออกมาดูแลตัวเอง ทำไมถึงตัดสินใจออกมา?
บอส : ที่ออกมาเป็นอิสระ ตอนช่วงที่เราอยู่สังกัดเก่าค่อนข้างจะรับงานเยอะ แล้วเจอเรื่องนู้น นี่นั่น มันทำให้เราเกิดความรู้สึกอึดอัด อยากจะลองอะไรใหม่ ๆ ทำอะไรใหม่ ๆ 

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บ Show

เรื่องนู้นนี่นั่น หมายถึงละครยากใช่ไหม?
บอส : ช่วงนั้นทางต้นสังกัดเขาให้งานเยอะ เยอะมาก เยอะจนไม่ได้พักเลยครับ 3 เดือน 6 เดือน ถ่ายละครทุกวัน อัดให้ ๆ เราเลยรู้สึกว่ามันอยู่ตัว มันอิ่ม เมื่อก่อนถ่ายทีนึงข้ามไปอีกวันก็มี

เพราะเราดัง มีชื่อเสียง เป็นที่ต้องการของคนทั้งประเทศหรือเปล่า เขาถึงอัดให้ขนาดนั้น?
บอส : ผมว่าน่าจะเป็นช่วงมากกว่า ช่วงไหนมาเขาก็จะอัดงานให้เด็กคนนั้น ป้อนงานให้ เพราะจะให้เป็นที่รู้จัก

แต่วันนึงรู้สึกอิ่มตัวกับตรงนี้?
บอส : มันเป็นความติสท์ของผมมากกว่า เราทำงานเยอะแล้วอยากจะพักบ้าง

ได้ถามเพื่อน ถามผู้ใหญ่ ถามครอบครัวไหม?
บอส : ไม่ได้ถามครับ เราเข้าไปที่ช่องตอนที่หมดสัญญา ผู้ใหญ่เขาบอกว่า จะเอายังไง จะเป็นอิสระหรือจะยังไง ซึ่งเขาให้ละครมาก่อนเรื่องนึง แต่เราปฏิเสธ

เราสามารถบอกเขาเหลือ 2 เรื่องอย่างนี้ได้ไหม?
บอส : ตอนนั้นไม่ได้คิดครับ เด็กด้วย ช่วงที่เราเป็นวัยรุ่น เราหลงตัว คิดว่าตัวเองเก่ง เลือกได้ เราก็เลยขอหยุดดีกว่าพัก

ถ้าสมมติย้อนกลับไปบอกตัวเองได้ตอนนี้เลย เมื่อตอนนั้นที่เราฟุ้งหน่อย เรายังจะเลือกเป็นอิสระไหม?
บอส : ผมว่า ณ เวลาตอนนั้น เราคิดดีแล้ว ถ้าเกิดตอนนั้นเราทำอีกแบบผลที่เป็นปัจจุบันอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่งก็ได้ ถ้าย้อนกลับไปผมก็อาจจะเลือกเหมือนเดิม

ที่เราถ่ายละครเหนื่อย ๆ แบบนั้นทั้งหมดกี่ปี?
บอส : เต็มสัญญา 7 ปี ยาวเลยครับ ต้องขอบคุณทางช่องเก่าที่ให้โอกาสเราเยอะมากครับ ถ้าไม่มีช่อง7 ก็ไม่มีผมวันนี้

เป็นนักแสดงอิสระมา 5 ปี คนก็เมาท์กันว่า โตนนท์ เป็นนักแสดงตกอับ ออกมาแล้วไม่เปรี้ยง ไม่มีงาน อยากจะบอกว่าไง?
บอส : ที่เขาบอกว่าไม่เปรี้ยงเนี่ย เหมือนเราไม่ได้เป็นตัวหลักมากกว่า เราไม่ได้เป็นพระเอกเหมือนเมื่อก่อนมากกว่าเราเลือกที่จะออกมารับบทอย่างอื่น เล่นร้าย มีงานหนึ่งเล่นเป็นพ่อแล้วก็มี คือเราอยากลอง จากเมื่อก่อนเราเล่นบนพระเอก เราเล่นจนมันชินแล้ว เป็นคนดี แต่พอวันหนึ่งเราได้เล่นเป็นตัวร้าย คือมันยาก

เป็นพระเอกติดกันมา 7 ปี เบื่อไหม?
บอส : ณ เวลานั้นไม่เบื่อครับ ด้วยความที่มันพราว เราเป็นพระเอก ทำอะไรก็ได้ แต่พอวันหนึ่งเราเริ่มเห็นคน เริ่มเห็นสังคม เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เราคิดว่าบางทีเราอาจจะหลง เราอาจจะผิดทาง เรารู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเรา

รู้ได้ด้วยตัวเอง?
บอส : ครับ มันค่อย ๆ มา 

นั่นคือหลายๆ คนพูดว่าเราเป็นดาราตกอับ แต่ที่เราเสียใจคือมีคนในวงการพูดด้วย?
บอส : เหมือนห้องแต่งตัว แล้วก็นั่ง เดินเข้า เดินออก มีคนพูด เข้าไปก็ได้ยินพอดี เราก็นั่งข้างหลังใส่แมสก์ 

พูดว่าอะไร?
บอส : เขาบอก นี่เหรอโตนนท์ ดาราตกอับแล้ว เราได้ยิน เพราะเรานั่งใส่แมสก์อยู่ข้างหลัง

คนนี้เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่หรือยัง?
บอส : ไม่ครับ

เป็นนักแสดงใหม่?
บอส : ใช่ครับ 

แล้วเราตอบว่า?
บอส : ไม่ตอบครับ เขาก็มีสิทธิ์ มันก็เป็นเรื่องจริงในส่วนหนึ่งที่เขาพูด เขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดของเขา เรารู้ตัวเราดีกว่า เราเอาคำที่เขาว่ามา...ไม่เอาแล้ว หางานทำดีกว่า

โกรธไหม?
บอส : มันก็มีความรู้สึกครับ แต่ก็คิดว่าพูดจริง เอาคำพูดเขามาเป็นแรงผลักดันเรา เดี๋ยวจะกลับมานะ

ถ้าเขาดูอยู่อยากจะบอกอะไรเขา?
บอส : ขอบคุณครับ บางทีถ้าเราโดนด่ามา หรือว่าเราโดนพูดอะไรไม่ดี เราเอาคำพวกนั้น แทนที่จะเอามาใส่หัวเราทำให้เรารู้สึกแย่ มันก็จะแย่กับตัวเรา เอาคำพูดตรงนั้นมาเป็นแรงผลักดัน เหมือนเราจะแบบ พอแล้ว จะเลิก ไม่เอาแล้ว จะไม่ทำแล้ว กลายเป็นว่าคนพูดแบบนั้นทำให้เรากลับมาได้ เดี๋ยวเจอกัน

คิดว่าค้นพบสัจธรรมจากประโยคนี้?
บอส : ค้นพบครับ ทุกวงการแหละ มันมีคนที่ดีกับเรา หวังดีกับเราจริง ๆ แต่เขาไม่ได้แสดงออกว่าดี เขาอาจจะดึเรา ด่าเรา หรือพูดไม่ดี แต่บางคนพูดดีกับเรา แต่ลึกๆ แล้วไม่ดีก็มีครับ

บอสบอกว่ามีช่วงติสท์ของผมด้วย มันติสท์ขนาดไหน?
บอส : มันก็เลือก ด้วยความที่เรารู้สึกเป็นพระเอก เลือกได้ อยากทำ อันนี้ไม่เอา อยากเลิกก็พอหยุด บางทีเขาให้ละครมา ไม่เอาไม่เล่น 

ไม่รับงาน 1 ปีเลยเหรอ?
บอส : มันจะมีอยู่ช่วงหนึ่งก่อนออก รู้สึกว่าตัวเรา อย่างที่มีข่าว เราเริ่มผอม คล้ำ เป็นโรคหรือเปล่า ไปทำอะไรมา ก็เลยรู้สึกว่าอยากพักก่อน อยากพักเรื่องความคิด อยากพักเรื่องสุขภาพร่างกายเราด้วย ขอหยุดแบบไม่ทำอะไรเลยปีนึง

1 ปีนั้นเรียกว่าเป็นช่วงเวลาความติสท์ของเราได้ไหม?
บอส : ผมเรียกว่าช่วงเวลาตกผลึกดีกว่า

ตอนนี้เราเลิกติสท์หรือยัง?
บอส : เลิกแล้วครับ เจอโควิดเข้าไปติสท์ไม่ออกเลยครับ คือก่อนที่จะโควิดเราเก็บเงินไว้ก้อนหนึ่ง กะจะลองทำอย่างอื่นบ้าง แต่พอโควิดเข้า เราคงทำไม่ได้แล้วล่ะ
 เอาเงินตรงนั้นเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นด้วย

ความลำบากก่อนเข้าวงการ ลำบากบาก หนึ่งในสาเหตุคือคุณพ่อเสีย?
บอส : ครับ ตอนนั้นผมอายุ 15 ปี 

พ่อเสียเพราะอะไร?
บอส : มอเตอร์ไซค์ล้มครับ แกเป็นความดันแล้วแกดื่มแอลกอฮอล์ ยังไงไม่รู้แกขี่มอเตอร์ไซค์แล้วความดันขึ้น แล้วก็ล้ม แล้วไปที่โรงพยาบาล ยังโทร.มาหาผมอยู่เลยนะ แต่พอเราไปถึงโรงพยาบาลเขาปั๊มหัวใจแล้ว เราเข้าไปเห็นเลยว่าพ่อโดนปั๊ม

เราถึงโรงพยาบาลแล้วยังโทร.มาหา?
บอส : ใช่ บอกว่ามารับหน่อย เราก็คิดว่าไม่เป็นไร

พอไปถึงช็อกไหม?
บอส : ช็อก ภาพเดียวที่ผมจำได้คือเขาปั๊มหัวใจพ่ออยู่ เราเห็นรองเท้า แล้วเอารองเท้ามานั่งกอดอยู่หน้าห้อง

วันนั้นหมอบอกว่า?
บอส : หมอบอกว่าไม่ฟื้นแล้วล่ะ จะให้ปั๊มต่อไหม

แล้วเราเป็นคนตัดสินใจเหรอ?
บอส : ตอนนั้นช็อกแล้วครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย ร้องไห้ ด้วยความที่เราเด็กด้วย ไม่รู้จะทำยังไง

แล้วใครเป็นคนเคาะว่าปล่อยพ่อไป?
บอส : ไม่มีใครปล่อยครับ คือเราเห็นสภาพเลยว่าเขาไม่อยู่แล้ว

หลังจากวันนั้นชีวิตเปลี่ยนไปเยอะแค่ไหน?
บอส : เปลี่ยนเลยครับ จากที่เมื่อก่อนพ่อหาเงินได้เยอะ เพราะเขาทำงานเร่งรัดหนี้สิน แล้วช่วงหลังจากต้มยำกุ้งผ่านมาคนเป็นหนี้สินเยอะ เขาได้เงินมาเยอะ ดูแลครอบครัวได้ดีในระดับหนึ่งเลย พอวันหนึ่งเสาหลักล้ม แม่ที่ไม่เคยทำงานก็ต้องออกมาทำงาน แล้วก็มีหนี้ ก่อนที่เขาจะเสียเขากู้เงินมาก้อนหนึ่ง เพื่อไปสร้างบ้าน

หนี้ 13 ล้านใช่ไหม?
บอส : ครับ เยอะมาก ตอนนั้นหลักร้อยยังหาไม่ได้เลย

แล้วเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศในบ้านเป็นยังไง?
บอส : มันเคว้งคว้างไปหมดเลย เราไม่รู้จะทำยังไง เราไม่รู้จะเริ่มชีวิตยังไง ปกติเลิกเรียน กลับบ้านขอเงินแม่ ขอเงินพ่อไปเล่นเกม พอวันหนึ่งเราไม่มีคนสอน คนชี้นำ เราไม่รู้จะทำอะไรเลย ทำอะไรไม่ได้

เห็นว่ามันแย่ขนาดที่ว่ามาม่าห่อหนึ่งต้องแบ่งกัน?
บอส : เอาผักกาดมาหั่น ใส่น้ำปลา เอาเข้าไมโครเวฟกินกับข้าว บางทีมีมาม่าก็แบ่งกิน 2 คน

อันนี้คือส่วนหนึ่งของ 13 ล้านที่กู้ไปใช่ไหม?
บอส : ด้วยครับ หลาย ๆ คนจะบอกว่าเราเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่ตอนนั้นผมเป็นลบ13  หนักเลย

ด้วยความลำบากอันนี้แต่ก็มีความโชคดี เพราะเราได้เจอกับพี่เอ ศุภชัย?
บอส : ครับ คือด้วยความที่เราไม่มีเงิน เราเริ่มหาเงินด้วยการไปประกวดตามเวทีต่าง ๆ เพื่อจะหาเงินมาจุนเจือแล้วใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วเด็ก 15-16 ไม่รู้จะไปทำงานอะไร แล้วสมัยนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ต เราไม่รู้จะไปสมัครอะไร ทางเดียวที่เราเห็นคือประกวด แล้วมันได้เงินเป็นก้อน แล้วก็ไปเจอกับพี่เอผู้มีพระคุณ เขาก็ชักชวนให้มาเก็บตัวอยู่ที่บ้านแกที่กรุงเทพฯ

แล้วเจอพี่เอได้ไง?
บอส : ผมไปประกวดงานหนึ่งแล้วพี่เอเป็นกรรมการ 

เห็นแววตั้งแต่ตอนนั้น?
บอส : ใช่ครับ แรก ๆ ก็ตัดสินใจอยู่นานเลย เพราะเราเด็กไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวงการ

หนีออกจากบ้านพี่เอ 2 รอบเลยเหรอ ทำไม?
บอส : ครับ เหมือนเรามาอยู่แล้วเราไม่ได้ทำอะไร แต่พี่เอก็ให้ครูสอนแอคติ้งเข้าไปสอนทุกอย่าง ยันเวลากินข้าวมารยาทอะไรอย่างนี้เขาก็สอน เราเป็นเด็ก ความคิดเราคือเรามาแล้วต้องได้ทำงานทันที เราต้องได้ละคร เพราะว่าเราต้องหาเงิน แต่พออยู่ ๆ ไป ด้วยที่ว่าเราไม่เคยอยู่ในกฎเกณฑ์ เราเจอกฎเกณฑ์จากบ้านพี่เอ เขาจะมีกฎให้ระวังเด็ก เราเริ่มอึดอัดก็เลยหนีกลับ

แต่ก็ยังกลับมานิ?
บอส : เขาโทร.มาบอกว่ากลับมา พูดดีกับเรา ทำความเข้าใจ มาบอกแม่ แม่ก็มาบอกเรา เราก็เลยกลับ

แล้วหนีกลับรอบ2 เพราะอะไร?
บอส : ก็เหมือนเดิม

แต่รอบ 2 เราก็กลับมาอีก?
บอส : ครับ 

อะไรทำให้เราอยู่?
บอส : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

เราเริ่มเข้าใจชีวิต หรือเริ่มเข้าใจสิ่งที่พี่เอกำลังสอน?
บอส : คือเรากลับไปที่เชียงใหม่ไม่รู้จะทำอะไร ด้วยความเราเด็ก เราไม่รู้จะไปทำงานอะไร เราเห็นช่องทางตรงนี้เลยเกิด ฮึบ ลองอีกที แล้วกลับมารอบ2 ก็ได้งานจริงๆ 

ได้เงินเยอะ วันหนึ่งช้อปปิ้งเป็นล้าน?
บอส : เป็นล้านคือไปซื้อมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่ซื้อกระเป๋า ซื้อเสื้อผ้า

ซื้อมอเตอร์ไซค์ก่อนซื้อบ้าน ทำไมไม่ซื้อบ้าน แล้วซื้อรถที่ขับไปทำงานได้ก่อน?
บอส : ผมทำงานในวงการแล้วมันได้เงินเยอะ ด้วยความที่เราไม่เคยมีเงิน เคยมีเงินติดตัวแค่หลักสิบ หลักร้อย วันหนึ่งเราได้มาเป็นแสนอย่างนี้ แล้วเรามีความฝันตอนเด็ก ๆ วันหนึ่งเราขี่ระผ่านห้างที่เชียงใหม่ เราก็จะมอง มันจะมีรถอยู่คันนึง เรามองมันตั้งแต่เด็กแล้ว เราอยากได้ เราเห็นตั้งแต่เด็ก แล้ววันหนึ่งมันมีเพื่อนพาไปที่เต้นท์รถ แล้วเราเห็นเห้ย...เนื้อคู่

ฝากดงดอกไม้หน่อย?
บอส : ดงดอกไม้ เมื่อคืนโดนเทอาหารหมาไปแล้ว ขอฝากด้วยครับ เส้นทางจะเป็นยังไง จะร้ายอีกขนาดไหน ยังไงฝากด้วยครับ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama