[รีวิวซีรีส์] Sex Education ซีซัน 4 ว้าวุ้นคูณ 4 มีครบทั้งบันเทิงและหัวใจ

จากซีซันแรกในปี 2019 ‘Sex Education’ ได้เดินทางมาถึงซีซันสุดท้ายพร้อมตัวละครที่คนดูรักและผูกพันจนสร้างฐานแฟนคลับให้ซีรีส์ไปทั่วโลก และจากการที่มันหายไป 1 ปีก่อนซีซันสุดท้ายจะออกสู่สายตาผู้ชมย่อมหมายถึงความเข้มข้นของเรื่องราวที่จะมากขึ้นอย่างแน่นอน

การเริ่มต้นใหม่ของนักเรียนมัวร์เดล

จากซีซันก่อนเมื่อเหล่านักเรียนจากมัวร์เดลต้องย้ายไปยัง คาเวนดิช โรงเรียนใหม่ของพวกเขา โอทิส (เอซา บัตเตอร์ฟีลด์, Asa Butterfield) จำใจต้องห่างจาก เมฟ (เอ็มมา แม็คคีย์, Emma Mackey) ที่ได้ไปฝีกงานระยะสั้นเพื่อตามฝันในการเป็นนักเขียนที่อเมริกา ความห่างไกลทำให้โอทิสว้าวุ่นไม่พอ เพราะที่ คาเวนดิชดันมี โอ (ธัดดี เกรแฮม, Thaddea Graham) นักบำบัดเซ็กส์นักเรียนเจ้าถิ่นที่เขาต้องเอาชนะให้ได้

ด้าน เอริค (นคูติ กัตวา, Ncuti Gatwa) เพื่อนรักของโอทิส ที่เพิ่งเลิกกับ อดัม (คอนเนอร์ สวินเดลส์, Connor Swindells) ได้ผูกมิตรกับเหล่าแก๊งเควียร์ในคาเวนดิชนำโดย แอบบี (แอนโธนี เล็กซา, Anthony Lexa) สาวทรานส์ทรงอิทธิพล ทำให้เอริคกับโอทิสต้องห่างเหินกันแถมยังถูกทดสอบจากครอบครัวและเบื้องบนในเรื่องที่เขาหันหลังให้พระเจ้าจากตัวตนที่อาจไม่เหมาะกับโบสถ์เท่าไหร่

ด้านผู้ใหญ่ก็ว้าวุ่นไม่แพ้กันเพราะ จีน (จิลเลียน แอนเดอร์สัน, Gillian Anderson) ที่เพิ่งคลอดทารกวัยแบเบาะต้องมาเผชิญวิกฤติชีวิตเมื่อมีสถานีวิทยุติดต่อมาให้เธอทำรายการทอล์คโชว์เรื่องเพศ เป็นโอกาสที่มาไม่ถูกที่ถูกเวลา มิหนำซ้ำเธอยังเสี่ยงต่ออาการซึมเศร้าหลังคลอดอีกด้วย แต่จะโชคช่วยหรือซวยซ้ำซ้อนก็ไม่ทราบเมื่อเธอได้รับการช่วยเหลือจากน้องสาวเจ้าปัญหาที่ไม่รู้ว่าเพื่อช่วยหรือทำให้ปั่นป่วนกว่าเดิม

บทส่งท้ายที่ไม่ได้ทำส่ง (เดช)

มีหลายต่อหลายครั้งที่ซีรีส์มักทำซีซันจบเละเทะแบบขัดศรัทธาแฟน ๆ หรือในกรณี ‘Sex Education’ ที่ต้องบอกตามตรงว่ามีความเสี่ยงที่เรื่องจะไม่คืบหน้าอยู่สูงมากเพราะลำพังเรื่องราวของตัวละครในวัยมัธยมที่แทบไม่ได้ขยับเป็นผู้ใหญ่มากนัก มีปัญหาที่ดูวนเวียนไม่รู้จบแต่กับบทซีรีสืของ ‘Sex Education’ กลับสร้างตัวละครได้แข็งแรงมาก เพราะลำพังตัวละครจากซีซันเก่าที่เราคุ้นเคยทั้งบุคลิกและปมปัญหาก็มีเรื่องราวน่าสนใจให้สานต่ออยู่มาก

และในซีซันสี่ที่เป็นบทส่งท้ายก็ต้องยอมรับว่าทีมบทยังคงไม่ทิ้งปมต่าง ๆ ของตัวละครไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกของเมฟกับโอทิส หรือความรู้สึกที่ติดค้างระหว่างโอทิสกับ รูบี้ (มีมี่ คีน, Mimi Keene) ที่คราวนี้ครึ่งแรกหลายคนคงอดสงสารตัวละครที่น่าหมั่นไส้อย่างรูบี้ไม่ได้เลยทีเดียว หรือจะเป็นตัวละครอย่าง จีน ที่ได้เผยด้านที่ไม่เพอร์เฟกต์ของกูรูด้านเซ็กส์เมื่อจู่ ๆ เธอเลี้ยงลูกในวัยทองและเผชิญปัญหาซึมเศร้าหลังคลอด ที่ช่วยเติมสาระด้านเพศของวัยดึกที่ว้าวุ่นไม่แพ้เหล่าหนุ่มสาวเลยทีเดียว

โบกมือลาและเติบโตไปกับแก๊งตัวประหลาดแห่งมัวเดลล์

สิ่งที่เซอร์ไพรส์จริง ๆ สำหรับผมคือไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าเหล่าตัวละครวัยรุ่นฮอร์โมนพุ่งพวกนี้จะมาสร้างความรู้สึกร่วมเหมือนเพื่อน พี่ น้อง กับเราได้ แต่ทุกตัวละครของ ‘Sex Education’ กลับทำให้เราหัวเราะ ร้องไห้และยิ้มให้พวกเขาได้ตลอดทุกตอน ใครจะคิดว่าชะตากรรมสาวแกร่งอย่างเมฟจะทำเราเสียน้ำตากับความอ่อนไหวที่ถูกหุ้มเกราะไว้ใต้บุคลิกกร้านโลก หรืออยากจะกอด จีน เหลือเกินในวันที่เธอต้องเสียน้ำตาจากการแบกรับชีวิตในวัยทองรวมถึงตัวละคร ไมเคิล (อลิสแตร์ เพทรี, Alistair Petrie) พ่อจอมโหดของอดัมที่ปรับปรุงตัวแล้วก็ยังมีชะตากรรมที่เราอดสงสารไม่ได้อีกด้วย

บางทีตัวเลขผู้เข้าชม ‘Sex Education’ ในซีซันสุดท้ายก็ไม่อาจเทียบได้กับสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้ทิ้งไว้ให้ผู้ชมเพราะมันได้เปิดบทสนทนาเรื่องเพศในแบบที่น้าเน็กเคยพูดบ่อย ๆ ว่า ‘Sex must say’ และที่สำคัญคือการที่ซีรีส์ไม่ได้ปล่อยปะละเลยเหล่าตัวละครที่เรารักและมอบบทสรุปที่อบอุ่นหัวใจและมอบน้ำใส ๆ มาหล่อดวงตาของเราเมื่อเอนด์เครดิตขึ้น และอย่างน้อย…หากเราคิดถึงพวกเขาก็แค่กดเล่นซีซันแรกไล่กลับมาถึงซีซันสุดท้ายเพื่อกลับไปหาบรรดาเพื่อน ๆ ที่ไม่เพอร์เฟกต์เหมือนเราได้ทุกเมื่อบน Netflix