ย้อนรอย "Dark Universe" จักรวาลหนังโลกมืด ที่ล้มเลิกไปเพราะเจ๊ง...ตั้งแต่ออกสตาร์ท
ข่าวสารวงการหนัง Dark Universe จักรวาลหนังโลกมืด
Dark Universe (ดาร์ก ยูนิเวิร์ส) หรือ จักรวาลหนังโลกมืด เป็นโครงการสร้างหนังชุดใหญ่ของค่ายยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ที่หวังจะสร้างเป็นจักรวาลหนังของตัวเอง จากตัวละครสยองขวัญต่างๆ ที่ได้ถือครองลิขสิทธิ์ เพื่อให้เป็นแม่เหล็กของค่าย เทียบเคียงกับจักรวาลหนังมาร์เวลของดิสนีย์ หรือจักรวาลหนังดีซีของวอร์เนอร์ฯ
นักแสดงที่เคยมีชื่อเกี่ยวข้องกับโครงการหนังนี้
แต่ปรากฏว่าทุกอย่างก็พลิกผันไปทั้งหมด เมื่อหนังที่หมายมั่นปั้นมือให้เป็นหนังเปิดจักรวาลอย่าง "The Mummy" เมื่อปี 2017 ที่นำแสดงโดย "ทอม ครูซ" กลายเป็นหายนะบนบ็อกซ์ออฟฟิศอย่างสิ้นเชิง หนังเวอร์ชั่นรีบูทใหม่เรื่องดังกล่าวทำเงินทั่วโลกไปได้ 400 ล้านเหรียญนิดๆ ส่วนในอเมริกาบ้านเกิดเจ็บหนัก เพราะทำรายได้แค่เพียง 80 ล้าน จากทุนสร้าง 125 ล้านเหรียญที่ทุ่มทุนไป
จากหายนะที่เกิดขึ้นกับ Dark Universe ตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้สถานะของจักรวาลหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนวิมานล่มสลายไปในพริบตา มีรายงานว่าสำนักงานที่ค่ายหนังได้ตั้งใจเปิดเอาไว้เพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ ต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว เมื่อได้เห็นผลลัพธ์ของ The Mummy ที่ล้มเหลวทั้งรายได้และคำวิจารณ์อย่างสิ้นเชิง ทำให้จักรวาลหนังโลกมืดของยูนิเวอร์แซล...ทำท่าจะไม่ได้ไปต่อ
คลิปเปิดตัวจักรวาลหนังโลกมืด...และท้ายที่สุดก็ไม่ได้ไปต่อ
นอกจากนี้ The Mummy ที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลหนัง Dark Universe แล้ว ทางค่ายยังประกาศสร้างหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆ อย่าง "The Wolfman" ที่ข่าวลืออ้างว่าได้ทาบทาม "เดอะร็อก" มาแสดง หรือ "Dr.Jekyll and Mr.Hyde" มีชื่อ "รัสเซล โครว์" นำแสดง รวมทั้ง "Dracula", "Phantom of the Opera", "Creature from the Black Lagoon" หรือ "Van Helsing" ที่มีแผนจะสร้างใหม่เข้าอยู่ในจักรวาลนี้ด้วยเช่นกัน
แต่จนแล้วจนรอดปรากฏว่าโครงการหนังที่ยังเหลือรอดอยู่ก็คือ "The Bride of Frankenstein" ที่ได้ผู้กำกับ "บิล คอนดอน" มาคุมบังเหียน แต่โครงการก็ยังนิ่งสนิทไปหลายปี โดยผู้กำกับได้แสดงจุดยืนตั้งแต่ต้นแล้วว่า หากจะใช้บริการเขาทำหนัง จะต้องไม่อยู่ในจักรวาลหนังโลกมืดที่ค่ายต้องการเด็ดขาด ทำให้ค่ายหนังจำใจต้องให้อิสระแก่เขาในการดำเนินการต่อ
ส่วนอีกเรื่องก็คือ "The Invisible Man" ที่ดูเหมือนจะเป็นรูปเป็นร่างได้เร็วที่สุด หลังจากที่ล่มสลายของจักรวาลหนังดังกล่าวลงไป แต่ก็ถือว่ามีการปรับเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิมค่อนข้างเยอะพอสมควร เดิมที่โปรเจคหนังเรื่องนี้ได้วางตัว "จอห์นนี่ เดปป์" มาแสดงนำเป็น มนุษย์ล่องหน แต่หลังจากความล้มเหลวของการเปิดจักรวาล ทำให้ค่ายหนังต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่
กระทั่งในเวลาต่อมา "เอ็ด โซโลมอน" ผู้พัฒนาบทหนังเรื่องนี้ก็ได้ถอนตัวออกไป เพราะมีการเปลี่ยนแนวคิดของหนัง ทำให้ในที่สุดผู้กำกับ "ลีห์ แวนเนลล์" ก็ลงมาทำหน้าที่เขียนบทหนังเองเสียเลย โดยมีโจทย์ในการปรับขนาดหนังลง กลายเป็นหนังทุนต่ำและไม่ใช้นักแสดงแถวหน้า
จึงกลายเป็นที่มาของ The Invisible Man ฉบับใหม่ที่หลอนจิตโดนใจผู้ชมและนักวิจารณ์ โดยได้ "เอลิซาเบธ มอสส์" นักแสดงสาวจากซีรีส์ดังหลายเรื่องมาแสดงนำ และสามารถทำเงินเปิดตัวได้อย่างงดงามบนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งที่ใช้ทุนสร้างไปแค่เพียง 7 ล้านเหรียญเท่านั้น
จากความสำเร็จแบบเกินตัวของ The Invisible Man ทำให้เกิดประเด็นขึ้นมาใหม่อีกว่า ยูนิเวอร์แซล จะทำให้ปัดฝุ่นจักรวาล Dark Universe ขึ้นมาใหม่อีกหรือไม่ ที่อาจจะให้อิสระแก่หนังสร้างหนังในการผลิตหนังในขอบเขตที่เหมาะสมและไม่ผูกมัดเกินไป เพื่อสร้างเป็นอาณาจักรที่มีตัวละครสยองขวัญใหม่ๆ ขึ้นมาประดับโลกของภาพยนตร์ แทนที่จะจับโยงเป็นจักรวาลเดียวกัน
หลังจากนี้้ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส อาจจะต้องกลับไปทบทวนใหม่ในการสร้างหนังสยองขวัญเกี่ยวกับตัวละครดังๆ ที่ยังถือครองลิขสิทธิ์เอาไว้อยู่ หลังจากที่ในระยะหลังๆ หนังสยองขวัญทุนต่ำของค่ายก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นกอบเป็นกำอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะตระกูลหนังของผู้กำกับ จอร์แดน พีล ทั้ง "Get Out" และ "Us" ที่ได้ทั้งเงินได้ทั้งรางวัล เพียงแค่แบ่งเงินเล็กๆ น้อยๆ ไปลงทุน แต่รับผลตอบแทนกลับมาค่อนข้างยิ่งใหญ่ และล่าสุดก็กำลังจะมี "Candyman" ตามมาอีกเรื่อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รีวิว "The Invisible Man มนุษย์ล่องหน" กับ 6 เหตุที่ควรดู เมื่อแฟนเก่าหลอนร้าย..ยิ่งกว่าผี
7 สิ่งไม่ธรรมดาที่ควรรู้ ก่อนไปดูมนุษย์ล่องหน "The Invisible Man" เวอร์ชั่น 2020
----------------------------------------------------