มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ผมชอบมากชื่อเรื่อง The Secret Life of Walter Mitty ที่แสดงโดย เบน สติลเลอร์ พูดถึงการออกเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง ทำตามความฝัน และความรื่นรมย์ระหว่างออกเดินทาง (มีสปอยล์หนังนะครับ)ประเด็นหนึ่งที่มองเห็นจากภาพยนตร์เรื่องนี้และขอบมาก ก็คือพัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอก 2 ตัว นั่นคือ Walter Mitty และ Cheryl Melhoff ซึ่งผมพอจะแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วงในช่วงแรก Mitty แอบหลงรัก Cheryl ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน ที่เพิ่งเข้ามาทำงานที่นิตยสาร Life ได้แค่เดือนเดียว แต่ Mitty กลับไม่กล้าที่จะบอก หรือแสดงออกให้ Cheryl รู้เลยว่ารู้สึกอย่างไร ด้วยความกลัว และด้วยบุคลิกของ Mitty เอง ดังนั้นในช่วงแรก ความสัมพันธ์จึงเป็นลักษณะแอบมองอยู่ข้างเดียว และก็คอยสร้างความสัมพันธ์ผ่านจินตนาการ หรือในหนังเรียกว่าฝันกลางวันแทน นั่นคือ Mitty ก็จะคิดไปเองว่าได้คุยกับ Cheryl หรือได้เป็นในแบบที่จะทำให้ Cheryl สนใจ ไม่ต่างอะไรกับการจมอยู่ในโลกแห่งความฝัน ที่เราจะปรุงแต่งให้มันเป็นอย่างไรก็ได้ เพื่อให้ได้พบกับความสุข แต่เมื่อตื่นขึ้นมา ก็พบว่าทุกอย่างเป็นแต่ความว่างเปล่า ทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นจริงในช่วงต่อมา เมื่อชีวิตของ Mitty เริ่มพบวิกฤตจากภาพถ่ายที่หายไป Mitty ตัดสินใจที่จะเข้าไปคุยกับ Cheryl เมื่อนั้น Mitty เริ่มพบว่า Cheryl ในแบบที่เป็นจริงขึ้น ว่าต่างจากภาพฝันที่เคยสร้างไว้ Cheryl มีครอบครัวแล้ว มีลูกชายหนึ่งคน ส่วนสามีก็แยกกันอยู่ แววตาแห่งความผิดหวังก็ปรากฏขึ้น แต่ Mitty ก็พบ Cheryl ในอีกมุมมองหนึ่ง จากการให้คำแนะนำและกระตุ้นให้ Mitty ออกค้นหาภาพถ่ายที่หายไป รวมถึงภาพจินตนาการของ Mitty ที่มีต่อ Cheryl ก็เปลี่ยนไป จากการมองว่า Cheryl ต้องการความเป็น Hero ในตัวของ Mitty ก็เปลี่ยนมาเป็น Cheryl ที่มาให้กำลังใจ เป็นพลังที่สวยงามให้กับ Mitty (ผมชอบฉากนี้มาก ที่ให้ Cheryl มาร้องเพลง Space Oddity เพลงเก่าของ David Bowie จนพระเอก ตัดสินใจกระโดดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อออกไปผจญภัยต่อ หลังจากหมดพลังที่จะไปต่อแล้ว) พอถึงช่วงหนึ่ง Mitty กลับมาแล้วพบว่า Cheryl ได้ออกจากบริษัทไปแล้ว Mitty ไปหาด้วยความกล้าหาญที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยมุมมองที่มีต่อ Cheryl ที่ชัดเจนขึ้น เลยไปหาที่บ้าน แต่คนที่มาเปิดประตูกลับเป็นสามีของ Cherylการตัดสินเองว่า Cheryl ได้กลับไปคืนดีกับสามีเก่าแล้ว และเลือกที่จะเดินจากมา โดยที่ไม่อยู่พบหน้าหรือสอบถามจากปากของ Cheryl ด้วยตัวเองและในช่วงที่สาม เป็นช่วงที่ Mitty เสร็จสิ้นจากการเดินทาง การเรียนรู้ของ Mitty ที่เก็บเกี่ยวได้ในระหว่างทางช่วยทำให้เขาเข้าใจถึงคุณค่าและจุดมุ่งหมายของชีวิตที่ชัดเจนขึ้น การก้าวข้ามความกลัว การไม่ตัดสิน การเข้าใจและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง กล้าที่จะบอกความต้องการของตัวเองออกไป ก็นำมาซึ่งโอกาสดีๆ กับชีวิต Mitty เลือกที่จะถาม Cheryl ถึงเรื่องของสามีเก่าของ Cheryl ถึงได้รู้ว่าเหตุการณ์วันนั้น เป็นความเข้าใจผิดของ Mitty เอง Cheryl ไม่ได้กลับไปคืนดีกับสามีเก่าเลย แต่ Mitty คิดและตัดสินไปเองทุกอย่าง ช่วงเวลานั้นก็คงเหมือนกับหลายๆ คนที่เลือกที่จะคิด สรุปและตัดสินเองจากสิ่งที่เห็น ทั้งๆ ที่ “สิ่งที่เห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น” ก็ได้พอรู้ดังนั้น แทนที่ Mitty จะปล่อยให้มันผ่านไป เขากล้าที่จะบอกความรู้สึกและความต้องการของตัวเองออกไปให้ Cheryl ทราบ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงปล่อยให้มันผ่านไปอีกผมชอบพัฒนาการที่ชัดเจนตรงนี้ ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวของ Mitty ที่สัมพันธ์กับการเรียนรู้จากการออกเดินทาง จากชายที่ไม่กล้าแสดงออกถึงความต้องการของตัวเอง มาเป็นชายที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก และร้องขอความต้องการของตัวเองออกไป แล้วผลตอบแทนที่ได้ก็เป็นความสุขในอย่างที่ต้องการ และค้นหามาโดยตลอดเรื่องราวของ MItty ช่วยบอกเราว่า “เราจะรู้จักชีวิต เมื่อเราเริ่มออกเดินทาง”เครดิตภาพ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3